อ่านประวัติพระโมคคัลลานะ (อัครสาวกฝ่ายซ้ายผู้เลิศด้วยฤทธิ์) กันบ้างน่ะครับ เดี๋ยวผมรวบรวมมาให้อ่าน
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
5 มีนาคม 2552

ฆฏสูตร : ท่านพระโมคคัลลานะสนทนาธรรมกับพระบรมศาสดาจากที่ห่างไกลด้วยทิพยโสตธาตุและทิพยจักษุอันหมดจด

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 757

๓. ฆฏสูตร

ว่าด้วยเรื่องหม้อเกลือใหญ่

[๖๙๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. สมัยนั้นแล ท่านพระสารีบุตรและท่านพระมหาโมลคัลลานะอยู่ในวิหารเดียวกัน ในพระเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน ครั้งนั้นแล เวลาเย็น ท่านพระสารีบุตรออกจากที่เร้น เข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานะถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้สนทนาปราศรัยกับท่านพระมหาโมคคัลลานะ ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้วจึงนั่ง ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

[๖๙๒] ครั้นท่านพระสารีบุตรนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้กล่าวกะท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า ท่านโมคคัลลานะ อินทรีย์ของท่านผ่องใสนักผิวหน้าของท่านบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ชะรอยวันนี้ ท่านมหาโมคคัลลานะจะอยู่ด้วยวิหารธรรมอันละเอียด.

ท่านพระมหาโมคคัลลานะกล่าวว่า อาวุโส วันนี้ผมอยู่ด้วยวิหารธรรมอันหยาบ อนึ่ง ผมได้มีธรรมีกถา.

สา. ท่านนหาโมคคัลลานะได้มีธรรมีกถากับใคร.

ม. ผมได้มีธรรมีกถากับพระผู้มีพระภาคเจ้า.

สา. เดี๋ยวนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ไกลนัก ท่านมหาโมคคัลลานะไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยฤทธิ์หรือ หรือว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาหาท่านมหาโมคคัลลานะด้วยฤทธิ์.

ม. ผมไม่ได้ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยฤทธิ์ แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ไม่ได้เสด็จมาหาผมด้วยฤทธิ์ แต่ผมมีทิพยจักษุและทิพยโสตธาตุอันหมดจดเท่าพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงมีทิพยจักษุและทิพยโสตธาตุอันหมดจดเท่าผม.

สา. ท่านมหาโมคคัลลานะได้มีธรรมีกถากับพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างไร.

[๖๙๓] ม. ผมได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าในที่นี้ดังนี้ว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่าผู้ปรารภความเพียร ๆ ดังนี้ ก็บุคคลจะชื่อว่าเป็นผู้ปรารภความเพียรด้วยเหตุประมาณเท่าไร พระพุทธเจ้าข้า อาวุโส เมื่อผมกราบทูลอย่างนี้แล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะผมดังนี้ว่า "โมคคัลลานะ. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้ปรารภความเพียรด้วยตั้งสัตยาธิษฐานว่า จะเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น และกระดูกก็ตามทีเลือดและเนื้อในร่างกายจงเหือดแห้งไปเถิด ผลอันใดที่จะพึงบรรลุได้ด้วยเรี่ยวแรงของบุรุษ ด้วยความเพียรของบุรุษ ด้วยความบากบั่นของบุรุษยังไม่บรรลุผลนั้นแล้ว จะหยุดความเพียรเสียเป็นอันไม่ โมคคัลลานะ ภิกษุย่อมเป็นผู้ปรารภความเพียรอย่างนี้แล อาวุโส ผมได้มีธรรมีกถากับพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้แล"

[๖๙๔] สา. อาวุโส เปรียบเหมือนก้อนหินเล็ก ๆ ที่บุคคลเอาไปวางเปรียบเทียบกับเขาหิมพานต์ฉันใด เราเมื่อเปรียบเทียบกับท่านมหาโมคคัลลานะก็ฉันนั้นเหมือนกัน แท้จริง ท่านมหาโมคคัลลานะเป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก เมื่อจำนงอยู่ พึงตั้งอยู่ได้ตลอดกัปแล.

[๖๙๕] ม. อาวุโส ก้อนเกลือเล็ก ๆ ที่บุคคลหยิบเอาไปวางเปรียบเทียบกับหม้อเกลือใหญ่ฉันใด เมื่อผมเปรียบเทียบท่านพระสารีบุตรก็ฉันนั้นเหมือนกัน แท้จริง ท่านพระสารีบุตรเป็นผู้อันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชม ทรงสรรเสริญ ทรงยกย่องแล้วโดยปริยายมิใช่น้อย มีอาทิว่าภิกษุผู้ถึงซึ่งฝั่งคือพระนิพพาน เป็นผู้เยี่ยมด้วยปัญญา ด้วยศีลและอุปสมะคือพระ
สารีบุตร ดังนี้.

ท่านมหานาคทั้งสองนั้น เพลิดเพลินคำสนทนาที่เป็นสุภาษิตของกันและกัน ด้วยประการดังนี้แล.

จบฆฏสูตรที่ ๓

อรรถกถาฆฏสูตรที่ ๓

ในฆฏสูตรที่ ๓ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.

บทว่า เอกวิหาเร ได้แก่ ในห้องหนึ่ง. ได้ยินว่า ครั้งนั้นภิกษุอาคันตุกะประชุมกันเป็นอันมาก. เพราะฉะนั้น เสนาสนะแถวชายบริเวณหรือชายวิหารไม่เพียงพอ พระเถระสองรูปต้องอยู่ห้องเดียวถัน พระเถระเหล่านั้น กลางวันนั่งแยกกัน แต่กลางคืนกั้นม่านไว้ในระหว่างพระเถระทั้งสอง พระเถระเหล่านั้นนั่งในที่ที่ถึงแก่ตนเท่านั้น เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า เอกวิหาเร. คำว่า โอฬาริเกน ท่านกล่าวหมายเอาความมีอารมณ์หยาบ. ด้วยว่า พระเถระนั่น อยู่ด้วยวิหารธรรมคือทิพยจักษุและทิพยโสต. จริงอยู่ รูปายตนะและสัททายตนะที่พระเถระทั้งสองนั้นฟังแล้ว เป็นอารมณ์หยาบ. วิหารธรรมนั้นชื่อว่าหยาบ เพราะเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ และฟังเสียงด้วยทิพยโสตธาตุ.

บทว่า ทิพฺพจกฺขุ วิสุชฺฌิ ความว่า ทิพยจักษุได้บริสุทธิ์โดยที่ได้เห็นพระรูปของพระผู้มีพระภาคเจ้า. บทว่า ทิพฺพา จ โสตธาตุ ความว่า ทิพยโสตธาตุแม้นั้นชื่อว่าบริสุทธิ์โดยที่ได้ฟังพระสุรเสียงของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทิพยจักษุและทิพยโสตทั้งสองแม้ของพระผู้มีพระภาคเจ้าก็บริสุทธิ์ โดยที่ได้ทอดพระเนตรเห็นรูปและทรงสดับเสียงของพระเถระ. ได้ยินว่า ในกาลนั้น พระเถระคิดว่า บัดนี้ พระศาสดาประทับอยู่ที่ไหนหนอ จึงเจริญอาโลกกสิณเห็นพระศาสดาประทับนั่ง ณ พระคันธกุฎี ในพระเชตวันวิหาร ด้วยทิพยจักษุ ได้ฟังพระสุรเสียงของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นด้วยทิพยโสตธาตุ แม้พระศาสดาก็ได้ทรงกระทำเหมือนอย่างนั้นนั่นแล. พระศาสดาและพระเถระได้เห็นและได้ฟังเสียงกันและกัน ด้วยประการฉะนี้.

บทว่า อารทฺธวิริโย ได้แก่ มีความเพียรบริบูรณ์ คือประคองความเพียรไว้แล้ว. บทว่า ยาวเทว อุปนิกฺเจปนมตฺตาย ความว่าก้อนหินขนาดเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาดที่วางไว้ใกล้ภูเขาหิมวันต์ซึ่งกว้างสามพันโยชน์. ท่านอธิบายว่า ก้อนหินมีไว้เพียงเพื่อจะเทียบเคียงอย่างนี้ว่าภูเขาหินวันต์ใหญ่หนอ ก้อนหินเท่านี้หนอ. แม้ข้างหน้าก็นัยนี้แหละ. บทว่า กปฺป ได้แก่ ตลอดอายุกัป.

ด้วยบทว่า โลณฆฏาย ท่าน แสดงเปรียบเหมือนหม้อเกลือที่วางไว้กว้างเท่าขอบปากจักรวาลสูงจดพรหมโลก. ก็พระเถระเหล่านั้น เมื่อนำอุปมา มาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เห็นกัน และกับคุณที่มีอยู่. อย่างไร. จริงอยู่ ธรรมดาว่าฤทธิ์นี้เป็นเสมือนภูเขาหิมพานต์ เพราะอรรถว่า สูงลิบ และเพราะอรรถว่า ขนาดใหญ่ ส่วนปัญญาเป็นเสมือนรสเกลือที่ใส่เข้าไว้ในกับข้าวทุกชนิดเพราะอรรถว่า เข้าไปตั้งอยู่ในธรรมอันเป็นไปในภูมิ ๓ นำมาเปรียบเทียบด้วยอรรถว่า เห็นสมกัน อย่างนี้ก่อน. ส่วนลักษณะแห่งสมาธิ ปรากฏแจ่มชัดแก่พระมหาโมคคัลลานเถระ. ชื่อว่าฤทธิ์ที่ไม่มีอยู่ ย่อมไม่มีแก่พระสารีบุตรเถระก็จริง ถึงอย่างนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงตั้งพระมหาโมลคัลลานเถระนี้แลไว้ในเอตทัคคะว่า ภิกษุทั้งหลาย บรรดาภิกษุสาวกของเราผู้มีฤทธิ์ มหาโมคคัลลานะเป็นเลิศ. ส่วนลักษณะวิปัสสนา ปรากฏแจ่มชัดแก่พระสารีบุตรเถระ. ปัญญามีอยู่แม้แก่พระมหาโมคคัลลานเถระก็จริง ถึงอย่างนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงตั้งพระสารีบุตรเถระนี้แลไว้ในเอตทัคคะว่า ภิกษุทั้งหลาย บรรดาภิกษุสาวกของเราผู้มีปัญญามากสารีบุตรเป็นเลิศ. เพราะฉะนั้น ท่านทั้งสองจึงรับหน้าที่แห่งกันและกันนำมาเปรียบเทียบกับคุณที่มีอยู่ด้วยประการฉะนี้. จริงอยู่ พระมหาโมคคัลลานเถระ บรรลุความสำเร็จในสมาธิลักษณะ พระสารีบุตรเถระบรรลุในวิปัสสนาลักษณะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรลุทั้งสองลักษณะ.
จบอรรถกถาฆฏสูตรที่ ๓



Create Date : 05 มีนาคม 2552
Last Update : 5 มีนาคม 2552 9:55:41 น. 1 comments
Counter : 551 Pageviews.  

 


โดย: อัสติสะ วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:17:12:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สัก ณ ศรีสิขเรศวร
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สมัยเด็ก ๆ เคยสัญญากับตัวเองไว้ว่า จะรวบรวมประวัติท่านพระมหาโมคคัลลานะไว้เยอะ ๆ ด้วยความชอบในทางอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ นับว่า เทคโนโลยีปัจจุบัน ช่วยทำให้สัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองสมัยเด็ก ๆ นั้นเป็นจริงขึ้นมาได้

ผมไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจธรรมะมากมายน่ะครับ ได้แต่พยามรวบรวมพระสูตร อรรถกถาต่าง ๆ ที่มีท่านพระโมคคัลานะเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมดมาไว้ใน blog นี้ ให้ได้มากที่สุด หลาย ๆ พระสูตรก็เกินปัญญาที่จะให้เข้าใจได้แม้จะอ่านทวนซ้ำหลายรอบแล้วก็ตาม

ถ้าท่านผู้ใดที่ผ่านไปผ่านมา อ่านแล้วเกิดแง่คิด มุมมองใด ที่จะฃ่วยเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องราวนั้นขึ้นมาได้อีก โปรดอย่าลังเลที่จะเสนอและให้ความเห็นน่ะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าขอรับ

อีกอย่างถ้าช่วยแนะนำพระสูตร หรือเรื่องราวอื่น ๆ ที่ผมยังหาไม่เจอให้ด้วยจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงน้อครับน้อ
[Add สัก ณ ศรีสิขเรศวร's blog to your web]