Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
3 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
สารอาหารเพื่อผิวสวย

"สุขภาพดี...เริ่มต้นจากข้างใน ผิวสวยใส...ด้วยอาหารที่มีคุณค่า" คงจะเป็นคติประจำใจสำหรับใครหลายคนที่รักสุขภาพ ซึ่งทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากได้หันมาใส่ใจการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารและคุณประโยชน์ครบถ้วนกันมากขึ้น โดยเฉพาะบรรดาคุณผู้หญิงทั้งหลายที่หันมา "ลดริ้วรอยแห่งวัย" ด้วยวิธีการธรรมชาติอย่างการเลือกรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวแทนการใช้เครื่องสำอางค์ที่มีสารรุนแรงต่อผิว

นพ.ชูชัย ตั้งเลิศสัมพันธ์ ได้เขียนถึง "สารอาหารเพื่อผิวสวย" ไว้ในเว็บไซต์ healthytoday.netthailand ไว้ดังนี้

วิตามินเอ วิตามินเอ มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ เรตินอยด์ (retinoids) และแคโรทีนอยด์ (carotenoids) ตัวเรตินอยด์นั้นมีอยู่ในอาหารและร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ ส่วนแคโรทีนอยด์ นั้นร่างกายจะต้องเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของวิตามินเอเสียก่อน แคโรทีนอยด์ที่เรารู้จักกันดีคือ เบตาแคโรทีน (beta-carotene)
•ประโยชน์ต่อผิวหนัง : วิตามินเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยในเรื่องการป้องกันการเสื่อมอายุ ของผิวหนัง การซ่อมแซมผิวหนังที่เสียไป นอกจากนี้วิตามินเอยังมีความสำคัญต่อขบวน การเติบโตของผิวหนัง (differentiation) และเป็นสารสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวหนังมีการทำงานอย่างปกติ
•ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : เนื่องจากวิตามินเอเป็นสารต้านอนุมุลอิสระก็จะช่วยในเรื่องของการป้องกันมะเร็งและทำให้มีสุขภาพตาที่ดีด้วย
•ความต้องการของร่างกายต่อวัน : ประมาณ 5,000 international units (IU) หรือเบตาแคโรทีน ประมาณ 3 มิลลิกรัม การได้รับวิตามินเอปริมาณมากไปอาจจะทำลายตับและเกิดเป็นพิษได้
•แหล่งอาหาร : วิตามินเอ : ไข่ นม เนย ปลาแซลมอน ปลา halibut แคโรทีนอยด์ : ผักใบเขียว เช่น บร็อคโคลี ผักโขม แอสพารากัส มะละกอ แคนตาลูป มะเขือเทศฟักทอง


วิตามินบี-คอมเพล็กซ์
•ประโยชน์ต่อผิวหนัง : วิตามินในกลุ่มนี้มีความสำคัญต่อสุขภาพผิวหนังเป็นอย่างมาก เป็นตัวช่วยในขบวนการผลิตพลังงานภายในเซลล์ วิตามินบี2 จะช่วยในเรื่องการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ วิตามินบี3 ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและทำให้ผิวหนังไม่ซีด วิตามินบี12 ช่วยในการแบ่งเซลล์ วิตามินบี9 (หรือกรดโฟลิค) ช่วยในเรื่องการแบ่งและเจริญเติบโตของเซลล์ นอกจากนี้กรดโฟลิคยังช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงด้วย

•ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : กลุ่มวิตามินบีมีความสำคัญมากในขบวนการสร้างพลังงานของเซลล์ และช่วยทำให้เอนไซม์ต่างๆ ทำงานตามปกติ วิตามินบีช่วยในการเปลี่ยนแปลงน้ำตาลกลูโคส ใช้เป็นพลังงาน การขาดวิตามินตัวนี้จะมีผลต่อระดับความรู้สึก หัวใจ การหายใจ วิตามินบี6 ช่วยลดการอักเสบ ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว การสร้างอินซูลิน สร้างภูมิต้านทานโรค และช่วยเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ความรู้สึก ส่วนวิตามินบี12 ช่วยเกี่ยวกับเรื่องของระบบสมองและประสาท

•ความต้องการของร่างกายต่อวัน:
บี1 = 1.1-1.2 มิลลิกรัม
บี2 = 1.1-1.3 มิลลิกรัม
บี3 = 14-16 มิลลิกรัม
บี6 = 2 มิลลิกรัม
บี9 (กรดโฟลิค) = 180-200 ไมโครกรัม (400 ไมโครกรัม สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์)
บี12 = 2 ไมโครกรัม
ในคนที่อายุมากกว่า 40 ปี การดูดซึมวิตามินบีหลายตัวจะลดลงโดยเฉพาะวิตามินบี6 และบี12

•แหล่งอาหาร :
ผัก : บร็อคโคลี มันฝรั่ง เห็ด แครอท มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ผักโขม
ผลไม้ : กล้วย แอปเปิล มะเขือ ผลไม้ในกลุ่มส้ม
สัตว์ : ไข่ ไก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า
อื่นๆ : ข้าว เมล็ดธัญพืช ถั่ว ถั่วลิสง ถั่ววอลนัท ถั่วอัลมอนด์


วิตามินซี
• ประโยชน์ต่อผิวหนัง : วิตามินซีเป็นตัวสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย รวมทั้งผิวหนังของเรา นอกจากนี้ยังเป็นตัวสำคัญในการสร้างคอลลาเจนด้วย
•ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญมากตัวหนึ่ง และยังสามารถลดไขมันที่ไม่ดีในเลือด (LDL) และเพิ่มไขมันที่ดี (HDL) ด้วย ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย และโรคเกี่ยวกับระบบตาด้วย
•ความต้องการของร่างกายต่อวัน : ประมาณวันละ 60 มิลลิกรัม แต่ส่วนมากนักวิทยาศาสตร์ทางด้านอาหารจะแนะนำประมาณ 500-1000 มิลลิกรัม ต่อวันเพื่อให้เกิดประโยชน์ในแง่ Anti-aging ด้วย
•แหล่งอาหาร : ผัก : ผักใบเขียว บร็อคโคลี กะหล่ำปลี มะเขือเทศ มันฝรั่ง หน่อไม้ฝรั่ง (แอสพารากัส) ผลไม้ : ผลไม้แทบทุกชนิดมีวิตามินซี โดยเฉพาะในกลุ่มของส้ม มะละกอ ฝรั่ง แตงโม แตงเทศ

วิตามินอี
วิตามินอี มีอยู่ 2 กลุ่มคือ โทโคฟีรอล (tocopherol) และโทโคไตรอีนอล (tocotrienols) ซึ่งตัวหลังนี้เป็นตัวใหม่ซึ่งเพิ่งมีการค้นพบเมื่อไม่นานนี้และเชื่อกันว่าสามารถช่วยเรื่องการชะลอความแก่ชราได้ด้วย
•ประโยชน์ต่อผิวหนัง : ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และช่วยซ่อมแซมผิวหนัง
•ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : วิตามินอี เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ เพราะมีส่วนช่วยลดไขมัน ป้องกันการเกิดการแข็งตัวของเลือด ป้องกันโรคมะเร็งและหัวใจ
•ความต้องการของร่างกายต่อวัน : ประมาณ 40 IU แต่นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์มักแนะนำประมาณ 200-400 IU ซึ่งปริมาณขนาดนี้ไม่สามารถรับประทานได้จากอาหารทั่วไปจำเป็นต้องใช้ในรูปอาหารเสริม
•แหล่งอาหาร : ผัก : ผักใบเขียว บรอคโคลี มันฝรั่ง , ผลไม้ : มะม่วง และอื่นๆ เช่น จมูกข้าวสาลี เมล็ดธัญพืช ถั่วอัลมอนด์ ถั่วเหลีอง น้ำมันพืช ปลาแซลมอนน้ำมันปลา <
/font>

แร่ธาตุพวกทองแดง สังกะสี และซีลีเนียม
• ประโยชน์ต่อผิวหนัง : แร่ธาตุเหล่านี้จะทำงานกับวิตามินที่ต้านอนุมูลอิสระเพื่อที่จะทำให้ การกำจัดอนุมูลอิสระทำงานดีขึ้น นอกจากนี้ทองแดงยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน สังกะสีช่วยในการซ่อมแซมคอลลาเจนที่สึกหรอ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ และช่วยรักษาสิวด้วย
• ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : การที่แร่ธาตุเหล่านี้ทำให้วิตามินที่ต้านอนุมูลอิสระทำงานดีขึ้นก็จะช่วยในการ ชะลอความแก่ชราและป้องกันโรคเรื้อรังบางชนิดด้วย นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบ ที่สำคัญของเอนไซม์และฮอร์โมนหลายชนิด
• ความต้องการของร่างกายต่อวัน : ทองแดง = 2 มิลลิกรัม , สังกะสี = 15 มิลลิกรัม , ซีลีเนียม = 70 ไมโครกรัม , ถ้าร่างกายได้รับแร่ธาตุเหล่านี้ในปริมาณมากเกินไปอาจเกิดพิษได้
•แหล่งอาหาร : ผัก : บร็อคโคลี เห็ด , สัตว์ : เนื้อไก่ ปลา ไข่ , อื่นๆ : โยเกิร์ต นม จมูกข้าวสาลี เมล็ดธัญพืช เต้าหู้ ถั่ว


Q 10
Q 10 นี้ถือว่าเป็น co-enzyme ที่สำคัญตัวหนึ่งในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับขบวนการเสื่อม ของเซลล์ในร่างกายของคนเรา การที่มีระดับ Q10 ต่ำจะพบร่วมกับโรคที่เกี่ยวกับความชรา โดยปกติแล้วร่างกายเราสามารถสร้าง Q10 ได้เอง แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรือเวลามีความเครียด ร่างกายก็จะสร้าง Q10 ได้น้อยลง
•ประโยชน์ต่อผิวหนัง : ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสี UV
• ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : ช่วยสร้างอนุมูลอิสระที่เกิดภายในร่างกาย และเสริมสร้างขบวนการสร้างพลังงานระดับเซลล์ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันหัวใจและป้องกันการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
• ความต้องการของร่างกายต่อวัน : โดยทั่วไปนักวิทยาศาสตร์ทางอาหารจะแนะนำให้รับประทาน 30-60 มิลลิกรัมต่อวัน
•แหล่งอาหาร : ถั่วลิสง น้ำมันถั่วเหลือง ปลาแซลมอน ไข่ เนื้อวัว ตับไต หัวใจ จมูกข้าวสาลี


กรดอัลฟาไลโปอิก (Alpha lipoic acid) สารตัวนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้
• ประโยชน์ต่อผิวหนัง : นอกจากจะช่วยในแง่ของการต้านอนุมูลอิสระแล้ว สารนี้ยังช่วยในการสร้าง และซ่อมแซมคอลลาเจนของผิวหนังด้วย
• ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ ทำให้การทำงานของวิตามินซี และอี มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และอาจมีส่วนเกี่ยวกับเรื่องของระบบประสาท
• ความต้องการของร่างกายต่อวัน : ประมาณ 50-100 มิลลิกรัม ผู้ที่เป็นเบาหวานหรือมีปัญหาเรื่องระบบเส้นประสาท ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานสารตัวนี้




ข้อมูลจาก //www.healthtoday.net/thailand/nutrition/nutrition_58.html


Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2549 16:35:02 น. 1 comments
Counter : 265 Pageviews.

 
ดีนะ verry good


โดย: เนเน่จัง IP: 124.157.236.191 วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:20:25:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

forsia
Location :
ปัตตานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




คุณแม่ลูกสาม ย่างสามสิบ รับจ้างแปลงาน กับสอนพิเศษเลี้ยงชีพ หลงใหลในงานฝีมือ บ้าเย็บผ้ามากๆชอบทำอาหารแต่เวลาไม่อำนวย ชอบอ่านและสะสมหนังสือมากๆไม่ใช่กูรูงานผ้า แต่ถ้าถามมาตอบได้จะตอบค่ะ ภาพและข้อความในบล็อกเซฟเก็บไว้ใช้ส่วนตัวได้ค่ะ แต่ห้ามนำไปเผยแพร่ที่อื่นโดยมิได้รับอนุญาตนะคะ หากต้องการหลังไมค์มาขอกันซักนิดจะขอบพระคุณมากค่ะ



: Users Online
^=^ My How To ^=^
กระเป๋าหูรูดทรงตะกร้าก้นเหลี่ยม
Bottle Sewing Kit
Friends' blogs
[Add forsia's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.