The Last Airbender หนังที่เหมาะกับเด็กๆและครอบครัว The Last Airbender ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับภาพยนตร์เชื้อสายอินเดีย เอ็ม.ไนท์ ชมาลานที่นำมาจากการ์ตูนเรื่องดังทางจอแก้ว Avatar: The Last Airbender มาดัดแปลงสร้างเป็นหนังจอเงินคนแสดงจริง ซึ่งภาพยนตร์แนวอภินิหารแบบนี้ที่มาจากโทรทัศน์ย่อมต้องมีตัวละครมากหน้าหลายตา รวมถึงในรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละตัวละคร ถือเป็นเรื่องท้าทายต่อตัวผู้กำกับภาพยนตร์ฯมาก หากการที่จะทำให้หนังลงตัวในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงกับสามสิบหกนาทีโดยไม่ได้รวมท้ายเครดิตอีกเจ็ดนาทีเพื่อตอบสนองต่อแฟนหนังที่มาจากจอแก้ว และแฟนหนังจอเงินนับว่าหนักเอาการ สำหรับผมแล้วไม่เคยผ่านการดูในฉบับการ์ตูนมาก่อนย่อมไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรมายังไงแน่นอนผมจึงค่อนข้างโชคดีที่ได้มาดูในฐานะคนดูหนัง ในฐานะอย่างคนดูหนังอย่างผมจึงคิดว่าผู้กำกับภาพยนตร์ฯก็ทำหนังเรื่องนี้ออกมาในเวลา 96 นาทีได้อย่างน่ายกย่องทีเดียวครับ ตลอดเรื่องราวเฉพาะตัวหนัง 96 นาทีเปี่ยมความสนุกเพลิดเพลินบันเทิงใจสำหรับครอบครัวซึ่งผู้กำกับภาพยนตร์ฯทำได้อยางน่าพอใจในสไตล์หนังที่ง่ายๆไม่มีความซับซ้อนหรือลูกเล่นใดๆเปรียบเสมือนการฟังนิทานปรัมปราอภินิหารที่มีพวกภาพเคลื่อนไหวที่มาพร้อมภาพเทคนิคพิเศษที่ตื่นตาตื่นใจมาให้ชมด้วยในขณะฟัง เพียงแต่ขาดความลึกเข้มข้นเท่านั้นเองซึ่งปัญหาก็มาจากเรื่องราวการ์ตูนซีรีย์เรื่องยาวที่มันมีเนื้อหามากมายนั่นเองเป็นตัวตั้ง ทำให้ผู้กำกับภาพยนตร์ยึดแกนเรื่องเดิมแล้วดัดแปลงบางอย่างเพื่อลดบทบาทบางเรื่องราวแล้วเล่าเรื่องย่อลงมาให้กระชับกับเวลาเพื่อเด็กๆดูกัน ผมว่านี่คือหนังแบบเด็กๆดูกันจริงๆ เพราะกระทั้งบทพูดกันระหว่างตัวละครก็เป็นภาษาแบบที่เด็กสามารถฟังและเข้าใจง่าย เวลาของหนังก็ไม่นานเหมาะสมกับความบันเทิงสำหรับครอบครัวอย่างแท้เลย หนังมาในสูตรความสำเร็จของแนวทางเดิมๆที่คนดูคุ้นๆกันตัวละครทุกตัวแบนราบมีมิติเดียวยกเว้น ลุงของเจ้าชายอัคคีซูโก นามอิโรห์ รับบทโดย ชอว์น ทู้ป ที่ดูมีมิติที่สุดมีอะไรซ่อนเร้นเป็นตัวละครที่เป็นสีเทา ไม่ขาวไม่ดำเหมือนตัวละครอื่นๆ ซึ่งคนอื่นๆในท้องเรื่องถ่ายทอดการแสดงได้เหมือนตัวละครจากนิทาน แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาเหล่านั้นแสดงไม่ดีนะครับ ทุกคนต่างสอบผ่านในฐานะพอใช้ ตามที่ผู้กำกับภาพยนตร์ฯต้องการตามบทภาพยนตร์   ฉากการต่อสู้ในเรื่องมีความตื่นตาในตัวละครสำคัญระหว่าง อัง(โนอาร์ ริงเกอร์) กับเจ้าชายอัคคีซูโก(เดฟ ปาเทล) หรือหมู่บ้านเล็กที่อังร่วมกับพลังธาตุดินต่อสู้กับพลังอัคคี จะดูน่าสนใจและภาพที่ได้สวยงามมาก แต่เมื่อเป็นการต่อสู้ในระดับที่ใหญ่ขึ้นพลังของตัวหนังกับอ่อนยวบไร้ความอลังการตื่นตาตื่นใจทั้งสิ้น เป็นความบกพร่องของผู้กำกับภาพยนตร์ฯที่ไม่สามารถทำได้ถึงในฉากที่นำไปสู่ไคลแมกซ์ของเรื่องราวได้เลย เพราะการจะทำไปให้ถึงในจุดนั้นได้หนังยังขาดความน่าเชื่อถือและความลึกพอในบทภาพยนตร์นั่นเอง ผู้ชมจึงได้ดูเพียงผิวนอกที่ตกแต่งไว้ด้วยอาภรณ์สวยงามเท่านั้น ภาพเทคนิคพิเศษต่างๆในภาพยนตร์ที่อยู่ในงานการดูแลของไอแอลเอ็มยังคงมีมนต์ขลังและเนียนตาอยู่ในมาตรฐานเช่นเดิม ขาดก็เพียงแต่บทภาพยนตร์ที่ธรรมดาไป จึงทำให้ผู้ชมได้ชมเพียงความสนุกเพลินๆกับการผจญภัยเพื่อไปสู่จุดหมายของอังและเหล่าสหายธาตุทั้ง 3 เท่านั้นเองหลังจากได้ดูจบลง แต่พูดได้ว่าหนังก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไรเลยหากมองจากมุมคนที่ไม่เคยดูการ์ตูนมาก่อนอย่างผม หากจะหาหนังดูคลายเครียดในแบบแฟนตาซี ระหว่างธรรมะ และอธรรม คำพูดที่ไม่หยาบมีอะไรตื่นตาให้กับตัวเองและครอบครัวก็น่าสนใจดีนะครับ คะแนนความพึงพอใจ   6/10 ความยาวของภาพยนตร์ : 103 นาที ระดับวัยของผู้ชม : อายุ 5 ปีขึ้นไปโดยมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำ เพราะมีฉากการต่อสู้ ผู้กำกับภาพยนตร์ : เอ็ม.ไนท์ ชามาลาน   บทภาพยนตร์ : เอ็ม.ไนท์ ชามาลาน ผู้อำนวยการสร้าง : เอ็ม.ไนท์ ชามาลาน, สก๊อต อเวอร์ซาโน, ไมเคิล ดังเต้ ดิมาติโน, แคธธลีน เคนเนดี้, แซม เมอร์เซอร์, แฟรงค์ มาร์แชล, ไบรอัน คอนเนี๊ยซโก นักแสดง : โนอาห์ ริงเกอร์, เดฟ ปาเทล, นิโคลา เพล์ทซ์, แจ็คสัน ลาห์โบน, ชอว์น ทู้ป, อาซีฟ มันดวี, คลิฟ เคอร์ติส, ซีเชลล์ เกเบรียล ลำดับภาพ : คอนราด บัฟ ผู้กำกับภาพ : แอนดรูว์ เลสนีย์ Free TextEditor   Create Date : 30 กรกฎาคม 2553 4 comments Last Update : 30 กรกฎาคม 2553 14:52:46 น. Counter : 1026 Pageviews. Share Tweet

ผมเป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ครับ ผมคิดว่าคำวิจารณ์ในแง่ลบน่าจะมาจาก 1.การติดภาพเดิมจากการ์ตูน 2.ฉบับภาพยนตร์เน้นไปที่เทววิทยามากกว่าปรัชญาทางพุทธมหายาน ในขณะที่ในฉบับการ์ตูนนั้นเน้นไปที่จิตวิญญาณน้อยมาก แต่เน้นไปที่ผู้อวตารกับคุณธรรมของผู้อวตารมากกว่า 3.ตัวละครสำคัญโดนตัดไปไว้ภาคหน้า ได้แก่ KingBumi กับนักรบกิโยชิ(แต่ปรากฏตัวให้เห็นในตัวอย่าง) 4.หนังซีเรียสเกินไป ตลกน้อยมากๆ ในขณะที่ฉบับการ์ตูนนั้นตลกมาก เป็นตลกแบบใสๆ 5.อัปป้า(ตัวไบซันบินได้) กับโมโม่(ตัวลีเมอร์ครึ่งค้างคาว) มีบทน้อยเกินไป 6.ตัวละครอิโร่ในการ์ตูนฮายิ่งกว่านี้ และไม่ใช่แขก 7.เผ่าไฟในฉบับภาพยนตร์แขกมากๆ แต่ขณะที่ในฉบับการ์ตูนนั้นดูมุมไหนๆก็จีน 8.เผ่าลมแขกมากๆ มันจะแขกไปไหนเนี่ย ในขณะที่ฉบับการ์ตูนจะตาตี่กันหมด 9.ชื่อตัวละครโดนเปลี่ยน ข้อนี้แฟนๆรับกันไม่ได้ Aang แอง กลายเป็น อัง Iroh ไอโร กลายเป็น อิโร่ เหตุผลคือ ให้ชื่อออกเสียงเป็นเอเชีย ข้อนี้ผมไม่เห็นด้วยกับผู้กำกับเลย เหตุผลในการเปลี่ยนชื่อของแกฟังไม่ขึ้นมากๆ เปลี่ยนชื่อให้ดูเป็นเอเชียแต่ตอนcastingเอาฝรั่งหมดเลย สรุปงานนี้หนังสอบผ่าน แต่สอบตกสำหรับแฟนๆการ์ตูน และผู้กำกับกักงานบางส่วนไปต่อภาคหน้าซึ่งไม่รู้จะมีหรือไม่   โดย: Fanๆ IP: 58.8.166.115 30 กรกฎาคม 2553 23:34:27 น.

เราเป็นคนนึงทีเป็นแฟนการ์ตูนค่ะ ก็ดีใจที่การ์ตูนที่เราชอบได้มาเป็นหนัง แต่อาจจะเพราะติดภาพการ์ตูนมากไป ทำให้เราผิดหวังนิดหน่อย อย่างคุณ fanๆ บอกละคะ เราติดภาพการ์ตูนและ เผ่าไฟ อ่ะ ขัดตามากอยากให้เป็นคนจีน ส่วน uncle iroh เป็นตัวที่เราชอบมากตอนเป็นการ์ตูน แต่ในหนังดูแนวไปเรกเก้ 555+ Prince เองก็เหมือนกัน Zuku ควรสง่างามกว่านี้ แล้ว มีบางอารมที่ควรจะน่ารัก น่าสงสารอ่อนโยน อ่อนไหว complicated young man ไรงี้อ่ะค่ะ เฮ้อ ตอนสู้กันไคลแมกซ์ของเรื่องก็เห็นด้วยอ่ะค่ะ ว่ามันดูไม่น่าทึ่งกับพลัง ตอนฉากที่เผ่าดิน ก็เมหือนกัน ชนะง่ายเกินไป แต่ appa ก็น่ารักดีนะคะ ขนดูนิ่ม 555 เราไปดู 3D ด้วยลากเพื่อนๆไป โดนด่าค่ะงานนีน้ 3D มันไม่ดีเพาะเค้าไม่ได้ทำเป็น 3D ตั้งแต่แรก   โดย: Octoant IP: 124.157.135.203 31 กรกฎาคม 2553 0:00:10 น.

ขอบคุณครับคุณแฟนๆ และ คุณ Octoant ครับที่นำข้อมูลมาเสนอพร้อมกับความคิดเห็น ผมไม่เคยดูเลยได้ความรู้เพิ่มขึ้น โชคดีเป็นของผมไปเพราะไม่ติดภาพการ์ตูน อย่าว่าแต่แฟนการ์ตูนเลยครับ ตัวผมเองดูแล้วยังตะหงิดๆเลยในเรื่องเรื่องที่มีแต่หน้าแขกเยอะจัง   โดย: forever movie 31 กรกฎาคม 2553 10:18:42 น.

แงๆ ฟังแล้วเริ่มไม่อยากไปดูหนังโรงแล้ว กลัวผิดหวังเจ้าค่ะ ซิกๆ เป็นแฟนการ์ตูนเหมือนกัน เฮ่อ... แต่คงไปดูอยู่ดีเพราะอดไม่ได้ (งิๆ) ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ดีๆนะคะ   โดย: love love IP: 58.9.133.199 31 กรกฎาคม 2553 16:04:10 น.