นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมีโอกาสได้ไปเยือนเมืองกล้วยไข่ เคยสัมผัสแต่แม่น้ำมูล แม่น้ำโขง คราวนี้ได้ไปสัมผัสแม่น้ำปิงบ้าง กำแพงเพชรอยู่ห่างจากเมืองหลวงของเราแค่ 353 กม.แค่นั้นเอง ดูแล้วไม่ไกลเลย แต่ถ้าเดินทางจากอิสานบ้านฉันก็ไกลโข กว่าจะเดินทางไปถึงทำเอาเหนื่อย นี่ขนาดเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวนะ กว่าจะไปเยือนถิ่นกล้วยไข่ได้ทำเอาหมดสภาพไปหลายวันเลยทีเดียว ตอนที่ยังไปไม่ถึงก็คิดไปต่างๆนานาว่า เมืองกำแพงแห่งนี้มีอะไรให้เราเที่ยวได้บ้าง ถึงแม้ไปคราวนี้ไม่ได้เน้นการเที่ยวเป็นงานหลักก็ตาม แต่เวลาที่เราเดินทางไปเยือนต่างถิ่นสิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คือการไปสำรวจถิ่นนั้นๆให้ประจักษ์กับตาใช่ไหม...ฉันก็เหมือนกันอยากไปให้เห็นกับตา เพราะเมืองไทยของเราสวยทุกที่อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเวลาไม่เอื้อนักก็ตามที

วันเสาร์ที่ 15 พ.ย. มีเวลาก็ตอนบ่ายสามโมงกว่าแล้ว เราเลยขับรถชมกำแพงที่สร้างด้วยหินศิลาแลงยาวเฟื้อยเชียว ยาวเท่าไหร่นั้นมิอาจทราบได้ แหะๆ พอดีขี้เกียจเสิร์ซหาในเน็ต เอาเป็นว่ายาวล้อมเมืองเก่าเลยก็แล้วกันเนาะ 555+ (ง่ายจังไอ้เปิ้น) แต่ก็ไม่ได้ชมจนสุดหรอก แค่ขับวนดูนิดหน่อยก็ไปต่อที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรกันแล้ว ไม่ได้ถ่ายภาพของกำแพงด้วย เพราะนั่งอยู่บนรถอย่างเดียว...

เมื่อไปถึงอุทยานฯ ก่อนจะเข้าไปชมข้างในได้ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท เมื่อเข้าไปข้างในอุทยานฯก็เจอโบราณสถานขนาดใหญ่ในพื้นที่หลายไร่เลยทีเดียว ฉันแปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมวัดในสมัยก่อนถึงได้อยู่ติดกันแบบนี้ แต่ฉันไปชมไม่ได้ทุกวัดหรอก เพราะพื้นที่กว้างเหลือเกิน ดูแค่สองสามวัดก็กลับกันแล้วหละ ถ่ายภาพนิดหน่อย แสงจ้าถ่ายภาพไม่สวยเลย (โทษแดดซะอย่างนั้น) ซึ่งที่จริงแล้วฝีมือการถ่ายภาพของฉันมันยังไม่ถึงขั้นต่างหากเล่า เงอๆ

ตั้งอยู่นอกเมืองกำแพงเพชรไปประมาณ 5 กิโลเมตร ตามถนนสายกำแพงเพชร - พรานกระต่าย แล้วเลี้ยวซ้ายตรงกิโลเมตรที่ 360 อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรประกอบด้วยกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นศาสนสถานเป็นส่วนมาก เช่น วัดพระแก้ว วัดพระสี่อิริยาบถ วัดช้างล้อม ซึ่งนักท่องเที่ยวจะพบเทคโนโลยี่ในการสร้างสมัยโบราณ เช่น การใช้เสาศิลาแลงเป็นเสาค้ำอาคาร โดยเสาแต่ละต้นถูกสกัดขึ้นมาจากศิลาแลงใต้ดิน มีน้ำหนักต้นละไม่ต่ำกว่า 30 ตัน

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2551 0:00:04 น.		20 comments
Counter : 988 Pageviews.
Share Tweet