|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สิงคโปร์ Ep.3.2 ... Fighthing!!.. ตามหาเจ้าสิงโตทะเล Merlion
หลังจากทานข้าวที่ Lau pa sat เสร็จ เดินย้อนกลับทางเดิมไปขึ้น MRT เพื่อไปลงสถานี ออกจาก City hall เดินตามทางออก B แล้วเลี้ยวซ้ายเดินไปตามถนน North Bridge ตอนที่ก้าวออกจาก MRT เป็นเวลาบ่ายสองตรง แดดเปรี้ยงๆๆ เลยค่ะ วันนี้ตรงกับวันหยุดพอดีคนเยอะมาก ออกมาปุ๊ปเจอรั้วด้านซ้ายมือของโบสถ์ St.Anrews แต่ต้องเดินไปอีกหน่อยนะคะ เพราะทางเข้าอยู่ ด้านหน้าตรงสี่แยกไฟแดงของถนน coleman
โบสถ์ St.Anrews ถูกสร้างเมื่อ คศ. 1838 โดย G.D coleman เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก โบสถ์นี้เคยถูกฟ้าผ่าถึงสองครั้ง จนถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาใหม่ค่ะ จุดเด่นคือผนังด้านนอกของตัวโบสถ์สร้างจากปูนพิเศษ ชื่อว่า Chunam ที่มีส่วนผสมจากไข่ขาว เปลือกหอย มะนาว น้ำตาล เปลือกมะพร้าว และน้ำ สีจะขาวสะอาดเนียนตามากๆ และภายในยังมีการจัดแสดงภาพ และสิ่งของสมัยก่อน รวมทั้งการอุทิศให้กับนายทหารที่เสียชีวิตที่เสียชีวิตระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ตอนเปิ้ลเข้าก็มีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง เข้ามาเยี่ยมชมพอควรนะคะ
โบสถ์ St.Anrews
ภายในโบสถ์ค่ะ
ย้อนมาเก็บภาพนอกโบสถ์อีกครั้ง
ออกจากโบสถ์เดินข้ามถนนตรงสี่แยก Coleman ไป ก็จะเจออาคารรัฐสภาหลังใหม่Paliament house จะอยู่ด้านซ้ายมือ ตกแต่งด้วยสวนปาล์ม ตอนแรกดูแล้ว ไม่แน่ใจคะว่าใช่อาคารรัฐสภารึเปล่า ดูไม่ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างเท่าไหร่ ถ้าเดินเลยป้ายไปคงไม่รู้เลยค่ะ ว่าเป็นรัฐสภา เอิ๊กๆๆๆ ขอบอกว่าบ้านเรา สวย โอ่อ่า อลังการงานสร้าง กินขาดดดดดดดดดดค๊า
เดินข้ามถนนไป
Paliament houseไม่รู้ว่าทำไมต้องปลูกต้นปาล์มอยู่ที่ป้ายด้วย
เดินตามทางเข้าไปด้านในอีกนิด
อีกด้านนึงค่ะ
ระหว่างถ่ายรูป Paliament house อยู่ก็เหลือบไปเห็นอาคารฝั่งตรงข้ามรูปร่างแปลกตาดีค่ะ ที่สิงคโปร์จะมีอาคารแบบนี้ค่อนข้างเยอะ เปิ้ลว่าคงเกี่ยวกับฮวงจุ้ยด้วยแน่เลย
จาก Paliment house เดินตรงต่อไปเรื่อยๆ จะพบ สะพาน Elgin ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำสิงคโปร์
สะพาน Elgin
เชิงสะพานซ้ายมือมีบันไดลงไปเดินเลียบแม่น้ำสิงคโปร์ค่ะ ถ้าอากาศร่มลมตกคงน่านั่งเล่นพักผ่อน แต่คอนนี้ไม่ไหวค่ะ ร้อนมาก แดดเปรี้ยง ไม่มีลมเลย เก็บภาพมาฝากกันอย่างเดียวค่ะ
เดินตรงไปตามทางเดินเลียบแม่น้ำจะมีที่ท่าเรือขายตั๋วสำหรับนั่งเรือชมวิวในแม่น้ำสิงคโปร์ค่ะ
เรือชมวิวที่ว่าค่ะ
ฝั่งตรงข้ามค่ะ ตึกเยอะ มองๆไปก็เพลินและสวยดี ฝั่งตรงข้ามเป็น Boat quay ตอนเย็นๆจะเป็นร้านอาหารประดับประดาด้วยไฟสวยมากค่ะ แต่เสียดายมาเที่ยวนี้ไม่ได้มา Boat quay ตอนกลางคืน
ไม่ไกลจากท่าเรือ จะมีรูปปั้นของท่านSir Stamford raffles ทำจากหินอ่อนสีขาว ซึ่งจุดตรงรูปปั้นนี้เป็นจุดที่ท่าน Sir ได้เหยียบแผ่นดินสิงคโปร์เป็นจุดแรก ตอนเปิ้ลไปเขากำลังเตรียมงานแสดงดนตรีอะไรสักอย่างช่วงกลางคืนค่ะ วิวเลยไม่แจ่มเท่าไหร่
Sir Stamford raffles
เดินเก็บรูปให้เป็นที่เกะกะทีมงานอยู่พักใหญ่ ก็เดินไปเรื่อยๆ โซนตรงนี้มีตึกเก่าๆสวยๆ เรียงรายเต็มไปหมดค่ะ มีทั้งได้บูรณะ และไม่ได้บูรณะ
หลังนี้เป็นอาคารรัฐสภาหลังเก่าค่ะ ตอนนี้ดัดแปลงมาทำพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับศิลปะค่ะ มีเด็กๆมารวมตัวแถวนี้มากเลยค่ะ ดีจัง ได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ความจริงๆแล้วไม่ได้จะแวะนะคะ แต่ว่า อากาศมันร้อนมาก เลยเข้าไปแช่แอร์ บวกแวะชมซะหน่อยเพราะฟรีอ่ะค่ะ อิอิ
อาคารเก่าๆอีกหลัง
หลังจากนั้นก็เดินย้อนกลับมาทางเดินตรงรูปปั้นท่าน Sir Stamford raffles สีขาวด้านหน้า แล้วเดินเลียบแม่น้ำสิงคโปร์ ไปเรื่อยๆจะเจอ Asian Civilizations Museum ซึ่งทางนี้เป็นการเดินที่อ้อมและไกลมากกกกก แถมแดดร้อนเปรี้ยงๆ อ้าว ไม่มีลมเลยค่ะ เปิ้ลต้องนั่ง..หอบ เอ๊ย นั่งพักริมแม่น้ำสิงคโปร์อยู่ช่วงหนึ่งก่อนเดินต่อ พอเดินเข้า museum ไปใกล้ๆแล้วเพิ่งบางอ้อ!! ว่า ไฉนเราช่างโง่เช่นนี้ เพียงแค่เดินจากตึกเก่าตามรูปด้านบน ชั่วตึกเดียวก็ถึงด้านหลัง Museum นี้เหมือนกัน โอย
.. จะบ้าตาย ตรู โง่จริง!!
จริงๆเห็น museum แห่งนี้ก็อยากเข้าไปแช่แอร์อีกรอบแต่ต้องเสียงตังค์ และกลัวเวลาไม่ทันเลยแค่ขอไปเข้าห้องน้ำ แอบเก็บภาพด้านในมานิดหน่อย (น่าน
เขาจะให้ตำรวจมาจับช้านไหมเนี่ย!!)
พอพักหายเหนื่อยก็เดินต่อไปเรื่อยๆจนเจอ สะพาน Anderson ซึ่งจะอยู่ด้านขวามือ ฝั่งตรงข้าม
หันไปด้านซ้ายมือก็จะเจอ รูปปั้นท่าน Sir Stamford raffles สีดำ ซึ่งจะอยู่ด้านหน้าโรงละคร Victoria &Memmorial เป็นสถานที่แสดง Symphony orchestra ของสิงคโปร์,คอนเสิร์ต และละครต่างๆค่ะ
เดินต่อไปอีกนิดก็เจออาคารศาลฎีกา ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้วค่ะ
มีแรงเดิน ก็เดินข้ามสะพาน Anderson ไปเรื่อยๆ จะเจอ สะพาน Esplanade มีลานกว้างสำหรับชมวิวแล้วทางลอดใต้สะพานค่ะ สะพาน Esplanade เห็นชิงช้าไหวๆไกลๆไหมค่ะ เป็นของเล่นใหม่อีกเหมือนกันค่ะ เสียดายว่าไปคราวนี้ไม่ได้แวะไปเล่น
เดินลอดสะพาน Esplanade ไป (ค่อยยังชั่วเดินช่วงนี้ร่มค่ะ ไม่กลางแดดจ้าแล้ว) ออกจากทางลอดไปก็จะเจอพระเอกของเราแล้วค๊า
แอ่น แอน แอ๊น
. Merlion
เงยหน้ามอง Merlion
.ในที่สุด
ช้านนนนก็ทำได้
. เปิ้ลมาถึงจนได้ เย้ เย้ เย้ นี่ถ้ามีธงชาติไทยจะไปปักบอกความสำเร็จเลยนะนั่น เดินไปเก็บรูปมุมต่างๆของ Merlion ให้มากสุดเท่าที่ทำได้ กว่าเดี๊ยนจะมาถึงแกได้นี่เหนื่อยไม่ใช่เล่นเลยนะยะ เก็บรูปเสร็จแล้ว หาที่นั่งร่มๆ ลมพัดเย็นๆ น้ำสักขวด นั่งมอง Merlion ประมาณกว่าครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ เพื่อพักเหนื่อยและชื่นชมกับความสำเร็จของตัวเอง โฮะ โฮะ โฮะ
ประหนึ่งเอดิสันนั่งมองหลอดไฟหลอดแรกที่ประดิษฐ์ได้อยู่เป็นวันๆนั่นแหละค๊า
Merlion เป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศสิงคโปร์ เดิมตั้งอยู่ลานกว้างอีกฝั่งของสะพาน Esplanade แต่ฮวงจุ้ยไม่ดี เลยเปลี่ยนมาอีกฝั่งซึ่งเป็นฝั่งปัจจุบัน โดยหันหน้าออกทะเล เพื่อเรียกคนมาสิงคโปร์มากๆ เห็นจะจริง เพราะคนมาเที่ยวสิงคโปร์มากมายทีเดียว
เปิ้ลกับ Merlion
มุมตรงข้ามกับ Merlion หันหน้าออกทะเลที่ว่าค่ะ
หายเหนื่อย อิ่มเอมเต็มที่กับ Merlion ก็เดินข้ามสะพาน Esplanade ต่ออีกฝั่ง แอบบอกนิ้ดนึง บนสะพาน esplanade เนี่ยแอบมีรถเข็นขายน้ำอยู่ด้วยนะคะ ถูกกว่าซื้อที่ร้านใกล้ Merlion มั่กๆๆๆๆ ถ้าไม่หิวมาก อดใจมาซื้อบนสะพานดีกว่า
บนสะพาน Esplanade
เดินข้ามสะพานไปก็ถึง ตึก Esplanade ลักษณะตึกมีหนามแหลมคล้ายทุเรียน จึงเรียกกันว่า ตึกทุเรียน เหอ เหอ ตึกนี้จะประกอบด้วยสองส่วนสำคัญด้วยกันค่ะ คือ Theatre สำหรับจัดแสดงคอนเสิร์ตและละคร และส่วน Concert Hall สำหรับจัดงานแสดงดนตรีค่ะ นอกจากนี้ด้านในยังมีส่วนย่อยๆลงไปอีก บริเวณรอบๆก็ร่มรื่น สำหรับนั่งชมวิวริมแม่น้ำสิงคโปร์ได้สบายๆอีกด้วยค่ะ
ตึก Esplanade
บรรยากาศด้านในค่ะ แอบนั่งรับแอร์เย็นๆตามเคย
ได้เดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุดด้วยค่ะ วิวเป็นแบบนี้
เมื่อมองลงมา
เสร็จแล้วคราวนี้หาทางลงไปทางเชื่อม Citylink mall เพื่อไปต่อที่ Suntec city ไม่เจอค่ะ เลยไปถามพี่ยามด้านหน้า พี่ยามก็ดีใจหายพาเดินลงบันไดเลื่อนจนมาถึงทางเดินใต้ดินเพื่อไปทางเชื่อม
Citylink mall
แอบมีโฆษณา animation ตามผนังที่เดินไปด้วยค่ะ ใช้ประโยชน์คุ้มค่าจริงๆ
เดินตามป้ายไปเลยค่ะ จะไป citylink mall
Citylink mall เป็นทางเดินใต้ดินที่ยาวมากๆ เชื่อมระหว่างตึกหลายตึกค่ะ เนื่องจากมันเป็นทางเชื่อมที่ยาวมาก จึงก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ด้วยการทำเป็นห้างสรรพสินค้าขึ้นมาค่ะ น่าน
สุดยอดอ่ะ คิดได้ไง ทำเป็นที่ขายของไปเลย แล้วก็เป็นทางเดินอีกด้วย นับเป็นแหล่งชอปใต้ดินที่ยาวที่สุดของสิงคโปร์เลยค่ะ
มีลานกว้างเป็นลานกิจกรรมสำหรับวัยรุ่นด้วย
น้ำพุ? รึเปล่า สวยดีค่ะ
ออกจาก Citylink mall เดินตามทางเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเข้าสู่ Suntec city ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ มีทั้งหมด 4 zone อาคาร 5 หลัง ค่ะ บอกกันว่าเป็นที่ๆฮวงจุ้ยดีมากๆ เปิ้ลเดินกินลมชมบรรยากาศในห้างไปงั้นๆ เพราะของเขาก็ไม่ได้ถูกกว่าบ้านเราเท่าไหร่ สักห้าโมงกว่าเปิ้ลก็รีบเดินลงไปชั้นล่างสุดค่ะ เพื่อไปชม Fountain of wealth ซึ่งจะเปิดให้ชมตอน 18.00 น. แต่ก่อนจะเปิดให้ชม เขาจะเปิดให้เราไปสัมผัสใจกลางของน้ำพุค่ะ โดยให้เดินวนตามเข็มนาฬิกา ใช้มือขวาสัมผัสใจกลางน้ำพุ พร้อมทั้งอธิษฐานให้ครบสามรอบ แน่นอนค่ะ
ไม่พลาด เดินวนไปคิดไป
อูย
เที่ยวนี้มาคนเดียว
ขอให้มีคนกลับไปด้วยกันเถิ้ดดดดดด
..555555555555555555
เมื่อเปิดการแสดง Fountain of wealth
พอถึงตอนนี้ เปิ้ลทิ้งตัวนั่งแหมะตรงข้างๆน้ำพุมันเนี่ยแหละค่ะ เมื่อยขามากกกกกก เหนื่อยมากกกกกกก นั่งดูน้ำพุไป รับลมเย็นๆจากน้ำพุไป โอย
.เพิ่งรู้สึกค่ะว่าวันนี้เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ขึ้นมาด้านบนช่วงสักทุ่มนึงแล้วค่ะ น้ำพุยังแสดงอยู่ แต่ว่าเขาเปิดไฟสีต่างๆประกอบ สวยๆดีค่ะ
ด้านหน้าตึกหลังหนึ่งในหลายๆตึกของ Suntec city ค่ะ
มื้อค่ำวันนี้ Richard กับพี่สาวสุดสวย มารับไปทานอาหารที่ food center อีกที่หนึ่ง จำไม่ได้แล้วค่ะว่าชื่ออะไร แต่ไหนๆมาถึงสิงคโปร์ต้องลองกินข้าวมันไก่สิงคโปร์ดูสักที หน้าตามันเป็นอย่างนี้ค่ะ
ดึกคืนนั้น พี่สาวกับเพื่อนอยากไปช้อปปิ้งกันต่อที่ ห้างมุสตาฟา ซึ่งอยู่ใน Little India ของสิงคโปร์ เป็นห้างที่เปิดตลอดทั้งวันทั้งคืนค่ะ ขายของเยอะมั่กๆๆๆๆ วันที่เปิ้ลไปคนฮินดูในสิงคโปร์เยอะมาก ออกมาช้อปปิ้งกันเต็มไปหมดเลยค่ะ รวมทั้งตามถนนหนทางร้านค้า เพราะว่าอยู่ในช่วง เทศกาล Deepavali คล้ายๆกับปีใหม่ของชาวฮินดูที่นั่นค่ะ มีการประดับไฟตมถนนสวยดีค่ะ
วัด Sri veeramakaliamman ไม่ได้เข้าไปหรอกค่ะ มีแต่เก็บภาพด้านหน้ามาอย่างเดียว อิอิ
เดินๆๆๆๆ ตามถนนที่ว่าประดับประดาไฟสวยงามไปจนถึง MRT แล้วจับ MRT กลับที่พักเกือบ 5 ทุ่ม เหนื่อยมากกกกกกค่ะวันนี้ อาบน้ำเสร็จ นอนหลับเป็นตายเลย
Create Date : 23 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2552 19:05:16 น. |
|
20 comments
|
Counter : 2335 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:05:40 น. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:12:30 น. |
|
|
|
โดย: NuHring วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:13:03 น. |
|
|
|
โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:31:03 น. |
|
|
|
โดย: FreakGirL วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:47:53 น. |
|
|
|
โดย: wheel we go วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:4:14:44 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:5:19:45 น. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:30:25 น. |
|
|
|
โดย: wheel we go วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:5:01:03 น. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:56:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:18:42 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:34:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:51:59 น. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:53:26 น. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:24:31 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:17:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:57:22 น. |
|
|
|
โดย: gigAgain วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:41:19 น. |
|
|
|
|
|
|
|