เหนือฟ้า พาไป@FlywithMoM

อินโดนีเซีย: คาวาอีเจี้ยน (Kawah Ijen)

02.00 น. วันที่ 26 ต.ค. 55 ได้เวลานัดของกลุ่มเรา กับ ทอมมี่ เพื่อไปเดินขึ้นเขาคาวาอีเจี้ยนกัน


...ก่อนมาที่นี่ก็หาข้อมูลว่า ควรจะรีบเดินขึ้นเขาเพื่อจะไปดู เปลวไฟสีเงิน จะเกิดเฉพาะตอนกลางคืน แล้วก็ต้องลงไปด้านล่างที่ชาวบ้านเขาไปแซะกำมะถันแบกกันขึ้นมา ... ภูเขาไฟอีเจี้ยน สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2,380 เมตร ต้องเดินขึ้นเขาทางชันประมาณ 2 กม. แล้วก็จะมีทางราบประมาณ 1 กม. นี่คือข้อมูลที่เราอ่านไป พร้อมกับดูภาพอันน่าตะลึง ทำให้อยากเห็นมากๆ ...บอก ทอมมี่ ช่วยมาเคาะประตูตีสอง ด้วยนะ ...

จัดกระเป๋าตั้งแต่ก่อนนอน เอาของมาเฉพาะที่จำเป็น 3 กม. ขึ้นเขา อืม ...น้ำดื่ม อาหารเช้าง่ายๆ ทางโรงแรมก็จัดให้ ..กล้อง ผ้าปิดปาก-จมูก เสื้อกันหนาว ไฟฉาย พร้อมใจเต็มร้อย อ้อ อย่าลืม ยาดม ยาลม ยาหม่อง...พร้อม 

เราตื่น ตีหนึ่งครึ่ง เพื่อล้างหน้า แปรงฟัน ... จากนั้น ตีสองแป๊ะ ทอมมี่ ตามมาเคาะแต่ละห้อง ก้รีบออกไปขึ้นรถ ซึีงต้องใช้เวลาอีกประมาร 30 นาที จากที่พัก มาจุดเริ่มเดิน ...ออกมาจากรถ หนาว มืด ..แต่ ดาว เต็มฟ้า สวยมากๆ 

รู้สึกว่า จะมีแต่พวกเรา 7 คนนะ ทางเดินก็ทำถนนขึ้นได้ดีมาก (ทางเดินทำให้นึกถึงตอนเดินขึ้นเขาคิชกุฏจันทบุรี) ผ่านมาสักพัก พี่ติ๊ด พี่สุ เริ่มออกอาการ เหนื่อย หยุดพักเป็นระยะ ...เราก็ต้องหยุด แล้วทางก็จะเริ่มชันขึ้น ...ป้าตา ที่ว่าเดินป่ามาเยอะคิดว่า 3 กม. สำหรับตัวเอง สบาย ...แต่ หยุดเที่ยวป่ามานานก็เหนื่อยเหมือนกันวุ้ย ...พยายามนึกถึง เปลวไฟสีน้ำเงิน อยากดู ๆๆๆๆๆ  

เดินมาได้สักพัก ทอมมี่ คงเห็นท่าว่าพวกเราอาจจะอดดูเปลวไฟสีเงิน แล้วก็ได้ เลยบอกว่า มาดูอะไรนี่ ปิดไฟฉาย แล้วก็เอาไฟแช็คมาจุดหินก้อนเล็กๆ ที่ ทอมมี่ เห็นวางอยู่บนขอนไม้ ...สิ่งที่เห็นคือ กำมะกันจะเกิดแสงสีเงินไหล ...พวกเราก็ได้เห็นเปลวไฟสีเงินแล้ว 555+ 

เดินต่อมาอีกหน่อยเจอ ตะกร้าที่ใช้แบกกำมะถัน วางอยู่ 1 หาบ สงสัยชาวบ้านคงจะขึ้นมาขนกันตั้งแต่ค่ำ ลองยกหนักน่าดู ทอมมี่ บอกเขาแบกกันคนละ ประมาณ 80-90 กิโลกรัม ... 







ในเมื่อพวกเราเห็น เปลวไฟสีเงิน กันแ้ล้ว..จะรีบไปทำไม 555+ ก็เลยเดินไป หยุดไป ให้สาวๆ ได้มีกำลังใจกันบ้าง ...เดินผ่านกระท่อมกลางทาง ไว้สำหรับชั่งกำมะถัน ตอนนี้ยังปิดอยู่ ...ต่อจากนี้ก็เริ่มชันอีกครั้ง ซึ่งตัวเองเริ่มไม่หยุดพักแล้ว เพราะการเดินขึ้นเขาถ้าเดินๆ หยุดๆ จะทำให้ขามันล้าไม่อยากเดิน เลยต้องก้าวเดินไปเรื่อยๆ ทำให้ทิ้งห่างกลุ่ม ...

แล้วก็มาเจอทางราบ เดินสบาย ทำให้เดินได้เร็วขึ้น ตอนนี้เลยมีแต่ ป้าตา และ อุ๋ม เดินมาจนฟ้าสว่าง ดูเวลาแค่ ตีห้าครึ่งเอง ...





เห็นปากปล่องภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยนแล้ว ...ไม่น่าเชื่อ ดูสวยแบบน่าตะลึง และแฝงน่ากลัว แค่ปากปล่องก็ใหญ่มากเลย สวยคนละแบบกับภูเขาไฟโบรโม เห็นแล้วหายเหนื่อยจริงๆ 








ตอนนี้มีสองสาว ที่ยืนตะลึงกับความสวยอลังการของอีเจี้ยน ...แล้วก็เจอชาวบ้านที่เขาขึ้นมาแบกกำมะถัน ทักทายเพื่อชวนให้ถ่ายรูป และขายกำมะถันที่ทำเป็นรูปต่างๆ ขายให้นักท่องเีที่ยวเป็นรายได้เสริม จากการแบกกำมะถันไปชั่งขายให้กับผู้ว่าจ้าง ซึ่งราคาก็กิโลกรัมละ ไม่กี่บาท เขาต้องลงไปดมกลิ่นกำมะถัน บางคนใส่แค่หมวกไม่เห็นปิดจมูกเลย อายุเฉลี่ยน่าจะอยู่ไม่เกิน 50 ปี ชีวิตต้องสู้จริง ๆ 





เห็นไปมองทางเดิน สาวๆ ของเราเริ่มจะเดินมาถึงกันแล้ว ...นักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติ และคนอินโดนีเซีย ก็ทยอยมาเรื่อยๆ บางคนมาก่อนพวกเราซะอีก ลงไปถ่ายรูปด้านล่าง









มองลงไปข้างล่าง ก็ยังมีชาวบ้านลงไปแบกกำมะถัน เรื่อยๆ นะ ...ไปบอก ทอมมี่ ฉันจะลงไปถ่ายรูปข้างล่างนะ อุปกรณ์กันกลิ่นพร้อม ..ทอมมี่ บอก โน อันตราย เพราะไม่แน่ใจว่า ตรงที่เขาแซะกำมะถันจะมีการปะทุ เมื่อเดือน ก.ค. 55 เพิ่งมีการส่งกลิ่นของกำมะถันออกมามาก เจ้าหน้าที่ต้องลงไปบอกนักท่องเที่ยวที่ลงไปถ่ายรูปด้านล่างให้กลับขึ้นมา ...แล้ว ทอมมี่ ก็ยืนคุมเราไว้ตลอด (เชื่อเขาไว้ก่อน แต่คิดว่าครั้งหน้าฉันต้องได้ลงไป) 









รอจนแสงพระอาทิตย์มา 07.00 น. ก็ถ่ายกันเต็มที่ แล้วก็โบกมือลา เดินลงเขากัน ทอมมี่ บอกว่า ไม่คิดว่า สาวๆ จะใช้เวลาเดินขึ้นเขากันได้ดีมาก ไม่คิดว่าจะทำกันได้ ... 4 สาวแองเจิ้ล ยิ้มร่า 






รอบๆ บนปล่องภูเขาไฟ มีทางเดินให้ไปชมวิวได้รอบเลย แต่เนื่องจากเราต้องรีบลงไป เก็บของแล้วนั่งรถกลับเมืองสุราบายา (ประมาณ 10 ชม.) ทำให้ต้องฝากไว้คราวหน้าอีกแล้ว 









ชีวิตยังต้องสู้ และดิ้นรนกันต่อไป ...เพื่อครอบครัว 





เหลือ 1 หนุ่ม 1 สาว ที่ถ่ายรูปเพลิน 4 สาวแองเจิ้ล กับ ทอมมี่ เดินลงกันมาก่อน ตลอดทางที่เดินลง ก็ยังเห็นนักท่องเที่ยวเดินสวนขึ้นมาตลอด รวมทั้งอาม่า อายุ 75 ปี ชาวอินโดนีเซีย มาพร้อมครอบ ต้องปรบมือให้เลย แข็งแรงสุดๆ  







จุดรอชั่งน้ำหนัก ...สงสัยยังพักอยู่ ไม่เห็นทำงานเลย รอถ่ายรูปตอนกำลังชั่งไม่ไหว เลยต้องเดินลงมาก่อน 



ตอนขึ้นยังมืดอยู่ เลยไม่เห็นวิวสองข้างทาง แต่ตอนลง เห็นวิวแล้วก็เหมือนทางขึ้นเขาคิชกุฎ จันทบุรี จริงๆ นะ แต่ที่นี่โหดน้อยกว่า เดินสบายกว่า คือเป็นทางให้รถโฟร์วิล ขึ้นมาได้เลย ... 



เราลงมาถึงที่จอดรถ เห็นรถตู้บริการทัวร์จอดเต็มเลย แล้วเราก็ทำเวลาดีมากๆ ถึงเก้าโมงกว่า  ทอมมี่ ให้แวะน้ำตกน้อยๆ ให้ชม จะเห็นว่าพื้นมีสีเหลือง มีกลิ่นกำมะถันมากกว่า ที่ตอนขึ้นเขาคาวาอีเจี้ยนอีก ...เลยวิ่งขึ้นรถกลับที่พัก กลับของไปนอนที่สุราบายา  1 คืน  





 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2555
5 comments
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2555 16:50:48 น.
Counter : 4943 Pageviews.

 

ชีวิตชาวบ้านที่นี่น่าสงสารมาก....อยู่กับความตายตลอดเวลา

 

โดย: wildbirds 15 พฤศจิกายน 2555 19:06:26 น.  

 

กลิ่นกำมะถันท่าจะรุนแรงเหมือนกันนะคะ บริเวณนั้น แล้วเค้าไม่ใส่อะไรป้องกันเท่าไหร่นี่ แลดูจะป่วยเอาง่ายๆเน๊อะ
วิวตรงปากปล่องภูเขาไฟนี่ สวยมากๆเลย

 

โดย: FreakGirL 17 พฤศจิกายน 2555 1:51:54 น.  

 

ตื่นเต้นมากค่ะเห็นปากปล่องภูเขาไฟ

 

โดย: tuk-tuk@korat 18 พฤศจิกายน 2555 11:45:05 น.  

 

แวะมาเยี่ยมในวันหยุด...สวัสดีครับ

ตามไปเที่ยวชมด้วย สี่สาวเดินกันเก่งจังเลย ภาพสวยครับ

มีความสุขกับวันหยุดพักผ่อน นะครับ

 

โดย: **mp5** 18 พฤศจิกายน 2555 17:26:07 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่นำมาฝากค่ะ ยังสงสัยว่า เดือนเมษากำลังจะไปชมภูเขาไปลูกนี้ จะปีนขึ้นไปดูไหวไหมเนี่ย ทางขึ้นลำบากน้อยกว่า ผ้าแดงที่เขาคิชฌกูฐ หรือ คะ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล (อาจารย์สุวิมล ) 12 มีนาคม 2557 13:07:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เหนือฟ้า พาไป
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




เมื่อเธอยังอยู่... ทำไมไม่พูดคำว่ารัก
แต่เมื่อเธอจากไป... ทำไมอยากพูดคำว่ารัก
ทุกทุกวัน ทุกทุกชั่วโมง ทุกทุกนาที ทุกทุกวินาที
ณ เวลานี้ ฉันทำได้เพียงพาเธอไปกับฉันทุกทุกที่
เพราะฉันต้องการอยู่กับเธอ... ตลอดเวลา
...ณ ที่เหนือฟ้า ฉันจะพาเธอไปด้วยกัน...

Color Codes ป้ามด



Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เหนือฟ้า พาไป's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.