วันนี้เรามาเที่ยวชมคุ้มเจ้าหลวงพิริเทพวงศ์ (เรือนสีเขียว) ส่วนคุ้มวงศ์บุรี (เรือนสีชมพู) คงอดเที่ยว เพราะไปแวะแค่ด้านหน้า ก็มีป้ายงานแต่ง ทั้งสองวันเลย...จะแอบขอเป็นแขกของคู่บ่าวสาวก็ไม่ได้ ไม่ได้เตรียมชุดมากันเลย...อดล่ะซิ
บริเวณที่ตั้งของคุ้มเจ้าหลวงมีอาณาเขตครอบคลุม ถึงที่ตั้งของหอสมุดประชาชนจังหวัดแพร่ และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองแพร่ในปัจจุบัน
เป็นคนชอบบ้านไม้ และชอบสีเขียว อยู่แล้วเลยรู้สึกเหมือนเย็น สบายใจ สงบ ...เป็นการทดสอบด้วยว่าใครเคยอยู่บ้านไม้มาก่อน 555...แล้วเกี่ยวมั๊ย กับการเดินเพลิน จนลืมเวลาเนี่ย
แค่ชั้นล่าง ก็มีของให้เดินชม เดินดู เรียนรู้ มากมายเลย...สังเกตุภาพขาวดำสิ มีจุดเด่นตรงไหน ...(เขาฮิตมาตั้งนานแล้วนะ จะบอกให้ 555)
เจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์อุดร (พระยาพิริยวิไชย) (พ.ศ. ๒๔๓๒ ๒๔๔๕) มีนามเดิมว่า เจ้าน้อยเทพวงศ์ สมภพเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๓๗๙ เป็นโอรสองค์โตของเจ้าหลวงพิมพิสารและแม่เจ้าธิดา
เมื่ออายุได้ ๕๓ ปี ได้รับสถาปนาขึ้นครองเมืองแพร่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๒ ในฐานะเมืองประเทศราชของไทย (ประเทศสยาม) มีบรรดาศักดิ์ เป็นพระยาพิริยวิไชย จนกระทั่งตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๙ ได้รับสถาปนาขึ้นเป็น เจ้าพิริยเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่
ก่อนขึ้นครองเมืองแพร่ท่านมีภรรยาคนแรกนาม เจ้าบัวถามหายศปัญญา แต่ภายหลังได้เลิกร้างกันไป ต่อมาได้สมรสกับภรรยาคนที่สองนามว่า เจ้าบัวไหล เป็นธิดาของเจ้าไชยสงครามกับแม่เจ้าอิ่น มีบุตรธิดารวมด้วยกัน ๗ คน
ที่สำคัญคนสุดท้องนาม เจ้าอินทร์แปลง หรือ อินทร์แปง เทพวงศ์ เป็นบิดา นายโชติ แพร่พันธ์ หรือเจ้าอินทรเดช เทพวงศ์ (นามปากกา ยาขอบ) ซึ่งเป็นนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียง ได้แต่งบทประพันธ์เรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ
และก็เพราะด้วยความที่ชมเพลิน รวมทั้งถ่ายภาพด้วย เพื่อนๆ ในคณะ ลงไปด้านล่างเกือบหมดแล้ว...เลยโดนเร่ง ทำให้สับสน ถ่ายภาพมาก็จะมีภาพพระแท่นบรรทม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนีนาถ รวมทั้งพระแท่นบรรทมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ...ไม่แน่ใจว่าถ้าลงภาพไปจะถูกต้องหรือไม่ (ต้องกลับไปเืยือนเมืองแพร่อีกแล้ว)
แล้วก็มีเสียงเรียกจากด้านล่าง...คนที่อยู่ด้านบนนะ ลงมาได้แล้ว เดี๋ยวเวลาไม่พอไปเที่ยวอีกที่นะจ๊ะ
ด้านล่าง คุ้มเจ้าหลวง จะเป็นคุก ...เดี๋ยวแวะดูสักหน่อย แต่ดูจากประตูทางเข้าแล้ว คนส่วนสูงหญิงไทยอย่างเราสบายมาก ...555
ส่วนหน้าทางเิดินจะแสดงภาพถ่าย และเครื่องมือการทำโทษ ...น่ากลัวนิดหน่อย ไฟเปิดแต่ไม่สว่างพอให้นึกจินตนาการเอาว่าน่าำำกลัวขนาดไหน
แล้วก็มีห้องเล็กแยกออกที่เห็นมี 3 ห้อง ห้องแรกเปิดไฟ เลยชะโงกดูเป็นห้องโล่งๆ เพดานไม่สูง น่าจะขังรวม แล้วด้านในก็มีห้องแยกอีก แต่แคบ มืด อีก 2 ห้องคงเหมือนกันแต่ไม่เปิดไฟ ...ไม่กล้าเข้า ให้น้องผู้ชายสองคน เดินถอยหลังเข้าไปดูให้
แค่เราเข้าไปชม ยังอึดอัด (นี่ขนาดสะอาดเอี่ยม ไม่มีกลิ่นเหม็นอับเลย ) เหมือนขาดอิสระ ...
รถตู้จอดในสวนสาธารณะ ข้างๆ คุ้มเจ้าหลวง ทำให้พวกเรา ต้องเข้า-ออก ประตูพิเศษด้านข้าง ...คนในพื้นที่พาไป 555
แหล่งท่องเที่ยวอีกหนึ่ง ที่คนมาแพร่ ต้องแวะ...หรือปล่าวนะ (เพราะมาก่อนหน้านี้ 2-3 คนพามาแวะตลอด)
บ้านประทับใจ (บ้านเสาร้อยต้น) ...ครั้งนี้เลยถ่ายรูปน้อยมาก (รูปถ่ายบ้านมาไม่เยอะ ติดนางแบบซะเยอะ) ตอนแรกว่าจะไม่เข้าไปล่ะ แต่เห็นต้นไม้เยอะกว่าเมื่อก่อน เลยเข้าไปชมสวน ร่มรื่นดี ...
ค่าบ้านประทับใจ 20 บาท จะได้พวงกุญแจไม้เล็กมาเป็นที่ระลึก
ก่อนเข้าบ้านแวะช้อปผ้าไหม เครื่องเงิน ก่อนมั๊ย
ด้านล่าง ก็มีร้านขายของที่ระลึก เสาไม้สักต้นเบ้อเริ่ม ด้านล่างแกะสลัก โต๊ะรับแขก
มีมุมถ่ายรูปเยอะ ให้สมกับการท่องเที่ยวแบบไทยๆ สมัยนี้ 555
ไ่ม่ค่อยมีภาพด้านบนบ้านเยอะนัก (ถ่ายแต่นางแบบ) ...เลยเดินลงมาชมสวนด้านข้างๆบ้าน รอเพื่อนๆ
ตอนหน้าไป แพะเมืองผี จริงๆ ล่ะน๊า