|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ครั้งแรกกับภูกระดึง(ตอนที่ 3)
21 Jan 06 ตอนแรกคิดว่าความเหนื่อยจากเมื่อวานคงจะทำให้พวกเราหลับกันยาว แต่ลมหนาวของที่นี่ก็พัดมาปลุกเราเป็นระยะๆ จนเรานอนต่อกันไม่ไหว ต้องออกมาหาอะไรอุ่นๆกินกันตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง ตามโปรแกรมของวันนี้ เราจะเที่ยวน้ำตกในบริเวณป่าเปิด(ส่วนป่าปิดต้องรอเดือนเมษา-พฤษภา จึงจะเปิดให้เข้าได้) และปิดท้ายกันที่ผาหล่มสัก ซึ่งเป็นระยะทาง10 กว่ากิโลเห็นจะได้ มื้อเช้าของวันนี้จึงต้องกินกันเต็มที่ จะมามัวกินขนมปังกับกาแฟคงไม่อยู่ท้องแน่ แล้วระหว่างทางไม่มีร้านอาหารให้แวะกินข้าวด้วย ดังนั้นต้องเตรียมมื้อเที่ยงไปเอง ส่วนมื้อเย็นก้หากินเอาตามร้านค้าริมหน้าผาต่างๆเอา ก่อนมานั้น เราเองก็คาดกันไว้ว่าช่วงนี้น้ำคงเริ่มน้อยแล้ว และก้เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ จากน้ำตกวังกวางที่เห็นแทบเรียกได้ว่าไม่มีน้ำเลย ที่เห็นอยู่ดูจะเป็นน้ำหยดมากกว่าน้ำตกซะอีก เราใช้เวลาเที่ยวน้ำตก 3-4 แห่งกันไม่นานนัก จากนั้นจึงแวะกินข้าวเที่ยงกันที่สระอโนดาต มีหลายกลุ่มซึ่งมาถึงก่อนหน้าเรา และแวะพักเที่ยงกันที่นี่เหมือนกัน คงเป็นเพราะบรรยากาศที่ชุ่มชื้นและเย็นสบาย น่าเสียดายที่น้ำในสระค่อนข้างขุ่นไปหน่อย ถึงจะเรียกว่าสระ แต่เราจะเห็นทางน้ำที่เชื่อมต่อกับสระอโนดาตแห่งนี้อยู่ คิดว่าคงจะเชื่อมต่อกับน้ำตกซักแห่งหนึ่งที่เราผ่านมา ผมว่าช่วงเดือนตุลา สระแห่งนี้คงจะสวยและใสกว่านี้เป็นแน่ หลังจากนั่งพักกันจนข้างเรียงเม็ดดีแล้ว เราก้เริ่มออกเดินทางไปยังผาหล่มสัก ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายของเราวันนี้ ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงเราก้มาถึงหน้าผาอันโด่งดังจนถือเป็นสัญญลักษณ์ของภูกระดึงแห่งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาถึงก่อนก้จะหามุมร่มๆปูเสื่อที่ยืมมาจากร้านอาหารมานั่งพักหรือนอนพักกัน รอเวลาให้พระอาทิตย์อ่อนแรงลดแสงลง แต่ก้มีบางกลุ่มที่เริ่มถ่ายรูปกันแล้ว พอซัก 5 โมงเย็น บรรยากาศริมหน้าผาก้เริ่มคึกคักขึ้นมา นักท่องเที่ยวต่างก้เริ่มหาที่นั่งเพื่อจะดูพระอาทิตย์ตกดิน ตากล้องก้เริ่มหาทำเลถ่ายรูปกัน ในที่สุดเวลาที่เรารอคอยก้มาถึง ดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าก่อนหน้านี้ เริ่มลดแสงสว่างจนเราสามารถเห็นลูกกลมๆสีส้มเข้มอยู่เหนือทิวเขา ถึงตอนนี้เราเริ่มจะได้ยินเสียงลั่นชัตเตอร์กันไม่ขาดสาย เห็นนักท่องเที่ยวที่ต่อคิวกันถ่ายรูปที่ผาหล่มสัก และสัมผัสถึงความหนาวเย็นที่ย่างกรายเข้ามาหลังการจากไปของแสงตะวัน มีไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่รอจนสิ้นแสงสุดท้ายของตะวัน เราเองก้เป็นหนึ่งในนั้น เพราะเป็นที่รู้กัน(โดยเฉพาะคนถ่ายรูป)ว่า การดูพระอาทิตย์ตกจะมีช่วงที่สวยงามอยู่สองช่วง คือช่วงที่เห็นดวงอาทิตย์เต็มดวงเริ่มลับขอบฟ้าและหลังจากที่ลับขอบฟ้าไปแล้ว จึงทำให้เราอยู่รอ พอความหนาวเริ่มทักทาย ความหิวก้ตามต่อท้ายมาติดๆ เลยตัดสินใจกินข้าวกันก่อนค่อยเดินทางกลับ ทำให้เราต้องรั้งตำแหน่งกลุ่มสุดท้าย พวกเราบางคนเริ่มกลัวว่า ระหว่างทางอาจจะเจอสัตว์ป่า แต่ผมเชื่อว่าทางเดินกลับซึ่งจะเรียบริมหน้าผาไปไม่มีแหล่งน้ำ คงยากที่จะมีสัตว์มาหากินอยู่แถวนี้ แล้วก้เป็นอย่างที่คิดไว้ เราไม่ได้เจอกับสัตว์ป่าระหว่างทาง หรืออาจไม่ทันสังเกตุก้ได้ เพราะพวกเราเร่งฝีเท้ากันเต็มที่ เนื่องจากไม่อยากถึงที่พักดึกเกินไป ทำให้ระยะทางจากผาหล่มสักถึงที่พักตั้ง 9 km พวกเราใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทำเอาเหนื่อยกันไปตามๆกัน แต่หลังอาบน้ำเสร็จก้สบายขึ้นเยอะ หลังจากที่ทางอุทยานฯปิดไฟฟ้าได้ไม่นาน พวกเราที่กำลังจัดการเหล้าที่แบกขึ้นมา 1 ขวด ก้เริ่มเลื้อยเข้าเต๊นท์กัน ทั้งๆที่กินไปได้แค่ครึ่งขวด แต่ด้วยความเหนื่อยบวกกับต้องตื่นไปดูพระอาทิตย์ขี้นในวันรุ่งขึ้นทำให้เราต้องรีบเข้านอนกัน
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2550 |
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2550 22:51:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 230 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|