Bloggang.com : Travel the world - Solo Europe 55 วัน 11 ประเทศ : ตม.ไทย vs ตม.เยอรมัน

Solo Europe 55 วัน 11 ประเทศ : ตม.ไทย vs ตม.เยอรมัน

วันที่ 14 มิถุนาก็มาถึง ขึ้นเครื่องบ่าย 2 ถึงไทย 2 ทุ่ม รอต่อเครื่องไปมิวนิคอีกเกือบ 5 ชั่วโมง ช่วงเวลานั้นไม่รอให้เสียป่าวรีบวิ่งออกมาซื้อของใช้ย่อยๆแถวสยาม เพื่อนเราก็แบบ เห้ยอย่าเลยมึง เดี๋ยวตกเครื่องอีก 55555

กลับมาถึงสนามบิน ช่วงเวลานั้นคนไม่ถึงกับเยอะ แต่ก็ไม่น้อย พอมีเวลาเหลือค่ะ ระหว่างต่อแถวรอตม.ปล่อยออกนอกประเทศถึงตาเราค่ะ เนื่องจากเราบินมาจากออสเตรเลียจะได้บัตรขาเข้าขาออก เราใช้บัตรขาเข้าไปแล้วฉีกมาเหลือซีกเดียวคือบัตรขาออก กรอกเสร็จตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน ก็ยืนให้ตม. ปรากฏว่าตม.ไม่ยอมปล่อยให้เราออกนอกประเทศค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่กลัวอะไรมาที่สุด ตม. ถามเสียงเครียด ไม่เป็นมิตร ไม่ถ้าด้วยว่าจะไปไหน ถ้าแค่ว่า อีกฝั่งอยู่ไหน ถ้าไม่มีก็ไม่ให้ออก มันเป็นกฏที่ใบขาเข้าขาออกต้องมี 2 ฝั่ง ถ้าถือพาสปอร์ตไทย เราก็ชี้แจงไปว่า เราไม่ได้อยู่ไทย แต่มาทรานซิทเครื่องที่นี้แค่ 5 ชั่วโมงเลยออกไปซื้อของ พร้อมยื่นบอร์ดดิ่งพาส 2 ใบยืนยัน ตม. บอกไม่ได้ ตะโกนเสียงดังมาก ตอนนั้นทั้งอาย ทั้งกลัวตกเครื่อง ถ้าถือพาสปอร์ตไทยไม่มี 2 ฝั่งก็ไม่ให้ออก ตอนนั้นเครียดสิเครียดมาก เราก็เอาตั๋วขากลับให้ดู บอกกลัวไม่ทันเครื่อง เพราะถ้าออกไปกรอกใหม่แถวยาวมาก ต่อเมื่อกี้เกือบครึ่งชั่วโมง ยังไงบนเครื่องบินขากลับ เค้าก็ต้องแจกใบขาเข้าขาออกอยู่แล้ว ยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นปัญหา ตัดสินใจขอพาสปอร์ตคืน แล้วบอกหนูจะไปกรอกใหม่ค่ะ

เรารีบวิ่งออกมาด้านหลังตรงโต๊ะที่มีไว้ให้กรอก แต่ดันไม่มีใบขาเข้าขาออกวางไว้ เจ้าหน้าที่พนักงานแถวนั้นไม่มี รอประมาณ 5 นาที คนก็เริ่มเยอะขึ้นๆ พอดีมีพนักงานเดินผ่านเลยเดินเข้าไปขอ พี่เค้าก็ชี้ไปอีกด้านข้างบรรไดคนละฝั่งที่มีตม. บอกให้เดินเข้าไปขอในนั้นแล้วคนเยอะมาก ตอนั้นทั้งเครียดทั้งกลัวแทบร้องไห้เกิดมาไม่เคยตม.โหดขนาดนั้น เดินขอโทษทุกคนที่ต่อแถว แทรกๆเข้าใบบอกว่าขอใบขาออกเฉยๆค่ะ มีคนทำหน้าไม่พอใจเราก็เข้าใจก็ได้แต่ขอโทษ พอได้มาก็รีบเดินออกมากรอกที่โต๊ะมือสั่นน้ำตาจะไหล กรอกเสร็จก็เดินกลับไปฝั่งเดิมที่ไปขอใบขาออกมา เพราะพึ่งรู้ว่าฝั่งนี้เป็น gate automatic ไม่ต้องคุยกับตม. เสร็จแล้วก็ผ่านมาด้วยดี มีเวลาเกือบชั่วโมงก่อนบอร์ดดิ่ง ก็เดินดูรอบๆ เอาใหม่ๆ พรุ่งนี้จะต้องดีกว่านี้ พอลงเครื่องปุ๊ปจะเป็นประสบการณ์ใหม่ทันที Think positive!

สิ่งที่เราขอมากที่สุดบนไฟลท์นี้ขอให้คนน้อย 3 ที่นั่งจะเป็นของเราทันที 5555 ตอนเช็คอินมาจากบริสเบน เราถามพนักงานอยู่ค่ะ ว่าขอที่นั่งเดี่ยวถ้าเป็นไปได้เพราะต้องบิน 20 ชั่วโมงกว่าๆ พนักงานบอกไฟลท์ไปไทยนี้เต็ม แต่ไฟลท์บินไปยุโรป คอนเฟิร์มให้ 90% ว่าไฟลท์นี้ว่าง ขึ้นเครื่องมาปุ๊ปว่างจริงๆค่ะ ทุกคนได้ที่นอนเป็นของตัวเอง สัญญาณรัดเข็มขัดดับปุ๊ปก็เริ่มจัดที่นอน ซักพักพนักงานก็มาปุกเสริฟอาหารค่ำ จากนั้นก็หลับๆตื่นมา 3 รอบได้ ก็ไม่ถึงซักที ในที่สุดชั่วโมงก่อนถึงที่หมาย พนักงานเดินมาเสิร์ฟอาหารเช้า จัดการตัวเองให้เสร็จสรรพ จนสัญญาณรัดเข็มขัดดัง เครื่องบินปรับระดับลงจนเห็นทุ่งหญ้าสีเขียว มิวนิก เยอรมันนี~~~~~

ด้านสุดท้ายก็มาถึงค่ะ เคยอาจจะเจอว่าตม.ที่นี้โหดลองลงมาจากอังกฤษ ระหว่างต่อแถวเห็นทุกคนโดนสอบถามหมด บางคนก็เดินตามเจ้าหน้าที่ไป ระหว่างที่แถวอื่นเลื่อนเอาๆ แถวเรากับอยู่ที่เดิม ตม.โหดสัสเยอรมันแน่เลย 😥 แต่ไม่กล้าเปลี่ยนแถวกลัวโดนสงสัย 55555 เราคิดว่าเตรียมตัวมาดีไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว ก่อนถึงตาเรา ผู้หญิงคนนึงแถวถัดไป ถูกถามนานมาก แต่ก็ผ่านไป แล้วคนต่อมาเป็นเพื่อน ตม.เรียกเธอคนนั้นกลับมาอีกรอบ มองแล้วเสียวสันหลัง555

ถึงตาพี่ผู้ชายคนข้างหน้าเป็นไทย เห็นพี่เค้าตอนเดินลงมาจากชั้นบิสสิเนส เฟิร์สคลาสลำเดียวกับเรา แต่งกายด้วยสูท โดนเจ้าหน้าที่ถามเยอะมากกินเวลาเกือบ 5 นาที ฝรั่งแถวข้างๆ จากลำดับ 3 จนมายืนข้างๆเรา ได้ยินว่าพี่เค้าเข้ายุโรปบ่อยเพราะมาทำงาน(ธุรกิจส่วนตัว) เราแบบฮิบหายแล้วได้ตม.โหด TT พอพี่เค้าผ่านไป เราก็เดินหน้าตั้งเข้าไปเลยค่ะ สบตากับตม.พร้อมฉีกยิ้ม คำถามแรกที่ยิงมาเลย มากับคนเมื่อกี้เหรอ เราก็ป่าวค่ะ มาคนเดีย เจ้าหน้าทีก็ตรวจดูพาสปอร์ตแปปๆ พาสปอร์ตเราใหม่เอี่ยมพึ่งทำธันวาปีที่แล้ว มี 3 สแตมป์คือเข้าออกมาเลยวันเดียวกัน ขาเข้าออสเตรเลีย ช่วงเมษา เสร็จแล้วนางก็ถามมาทำอะไรกี่วัน เราก็ตอบมาแบ็กแพ็กรอบยุโรป 55 วันค่ะ เจ้าหน้าทีเอาพาสปอร์ตไปปั้มฉึกฉึก

'Have a nice trip in Europe' :)