จินตนาการ สานสื่อ สืบสานฝัน
มิมีเขต ขีดกั้น ความฝันใฝ่
ในโลกฝัน จินตนาการ สุดกว้างไกล
ตามแต่ใจ จะใฝ่หมาย .. โลกส่วนตน

ในโลกฝัน เป็นสิทธิ์เรา ใฝ่สร้างเสริม
จินตนาการ แต่งเติม สัมฤทธิ์ผล
สิทธเสรี ไร้กีดกั้น ฝันดาลดล
ดีเลิศล้น โลกฝัน จินตนาการ


ขอแจมด้วยคน จ้า คุณดอกไม้

. ..

. .. ในประเทศศรีลังกา มีวิหารแห่งหนึ่ง..ชื่อว่า "คัลวิหาร" หรือวิหารศิลา ณ วิหารแห่งนี้ มีพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่
จำนวน ๔ องค์ ทั้งหมดประดิษฐานเรียงต่อเนื่องกัน เนื่องจากสลักจากแนวหน้าผาหินแกรนิตของภูเขาแนวเดียวกัน กล่าวกันว่านี่คือสุดยอดของงานปฏิมากรรมแบบศรีลังกา

ผู้ที่มาพบเห็นจำนวนไม่น้อย จะรู้สึกเหมือนถูกสะกดจิตใจ
ให้สงบนิ่งเงียบ ความประทับใจ ที่แผ่มาจากองค์พระพุทธรูป"ปางรำพึง"สูง ๗ เมตร มีรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าที่อิ่มเอิบ คุณพ่อโทมัส เมอตัน ซึ่งเป็นนักบวชในศาสนาคริสต์
ยกย่องรอยยิ้มนี้ว่างดงามกว่ารอยยิ้มของโมนาลิซาเพราะ
เป็นรอยยิ้มที่เรียบง่าย ซื่อตรง-ไร้ปริศนา คุณพ่อยังกล่าวถึงรอยยิ้มของพระพุทธรูปทั้ง ๔ ว่าเป็นรอยยิ้มอันยิ่งใหญ่
แม้มีขนาดมหึมาใหญ่โตแต่ประณีตลึกซึ้ง เป็นรอยยิ้มแห่ง
ความหมดสงสัย.. แจ่มแจ้งในทุกสิ่ง และไม่ผลักไสสิ่งใด
เปี่ยมไปด้วยความสงบสันติอย่างแท้จริง และนี่คือ เอเซียที่สัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์.. แจ่มกระจ่าง สมบูรณ์แบบ ฯ

พระไพศาล วิสาโล ศิษย์เก่าโรงเรียนคาทอลิค.. แห่งหนึ่ง
เขียนไว้ว่า..น่าทึ่งที่หินแกรนิตทั้งแข็ง หยาบ และกระด้าง
สามารถก่อเกิดผลงานปฏิมากรรมอันงดงามอ่อนช้อยและบันดาลความรู้สึกที่ลึกซึ้งออกมาได้ หลายคนคงอดสงสัยไม่ได้ว่า เขาเหล่านั้น สร้างสรรค์งานปฏิมากรรม อันวิเศษ
นี้ได้อย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ว่า ช่างนิรนามเหล่านั้นมิได้
ร่างพระพุทธรูปไว้ในใจก่อน แล้วจึงไปหาเนินผา-ภูเขาหิน
ที่มีขนาดตามต้องการ "หากแท้ที่จริงเพียงแต่มองเนินเขา
ก็มองเห็นองค์พระพุทธรูป..ปรากฏอยู่ในนั้นแล้ว"

ประกาศกอิสยาห์กล่าวถึง"เลวีอาธาน"ในบทที่ ๒๗ ข้อ ๑
ไว้นิดเดียว ไม่มากพอจะทำให้ใครสามารถจินตนาการได้ว่าเหตุการณ์ ปรากฎออกมาเช่นไร เพราะอิสยาห์เพียงแต่
ต้องการอธิบายนิมิตรของท่าน ตอนนี้ว่า..พระเป็นเจ้าทรงฤทธานุภาพ พระองค์ทรงขับไล่ความชั่วร้าย เฉกเช่นเดียวกับ"เลวีอาธาน"ซึ่งเป็นดั่ง"พญานาคในทะเล"และประหารมังกรนั้นเสีย ดังการทำลายความทุกข์ ความชั่วร้าย..ฯ

ภาพสัตว์ทะเลที่เรียกว่า"เลวีอาธาน"ถูกพระเจ้าทรงใช้พระแสงดาบแข็งแกร่งลงโทษมันนั้นดูน่าตื่นตาน่าตื่นเต้นและ
วิจิตรบรรจง สวยงามด้วยลายเส้นแสงเงา ภาพพิมพ์โลหะ
ซึ่งเกิดจากจินตนาการอันบรรเจิดของศิลปินกุสตาฟ โดเร

. .."ลาเปียตา" รูปแกะสลักหินอ่อน ซึ่งหลายคนได้ชื่นชมแล้วถึงกับนิ่งอึ้ง เพราะรับรู้ถึงสีหน้าและความรู้สึกของแม่พระมารี ที่มีต่อพระเยซูเจ้า พลันจิตใจถูกโน้มนำ ให้รำพึงถึงความรัก ความเสียสละ ด้วยเลือดเนื้อ และชีวิตทั้งหมด
ของพระองค์ รวมถึงความทุกข์ของแม่ซึ่งต้องสูญเสียบุตรชายสุดที่รักต่อหน้าต่อตา เคยมีคนถาม ไมเคิล แอนเจโลศิลปินก้องโลก ผู้แกะสลักประติมากรรม"ลาเปียตา"อันงดงามนี้ว่า..เขาทำได้อย่างไร !? ไมเคิล แอนเจโล.. ตอบว่า

"เขาเพียงแต่..จินตนาการเห็นภาพนี้ ปรากฏอยู่ในแท่งหิน
แล้วสิ่งที่เขาทำก็คือสลักเอาส่วนเกินออกมา เพื่อเปิดเผยสิ่งที่มีอยู่แล้วข้างในแท่งหินนั้น ..ฯ "

เมื่อมองย้อนกลับมาที่ชีวิตของเรา.. รูปแกะสลักทั้งสองนี้กำลังจะบอกอะไรเรา ใช่หรือไม่ว่า..ไม่ว่าในตัวมนุษย์เรา
ทุกคนนั้น.." มีสิ่งดีงาม.. มีความงดงาม ฯ ซ่อนอยู่ภายใน"

และแน่นอน..ในอีกด้านหนึ่ง-เราพบว่าเราก็มีสิ่งที่ไม่ดีอยู่
แต่ใครเล่าจะดีพร้อมไปเสียหมด..การยอมรับตัวเองอย่างที่เราเป็น ควบคู่กับการ"กระเทาะ"สิ่งไม่ดี-ที่ห่อหุ้มออกไป

คัด-ตัดตอน จากบทความ "สิ่งดีที่มีอยู่" โดยนริศ มณีขาว
ขอขอบพระคุณ : หนังสือ "อุดมศานต์" ตุลาคม 2005 **