วัดป่ากรรมฐานเขาใหญ่- วังน้ำเขียว
1.
ฉันไปถึงวังน้ำเขียวตอนบ่ายจัด สายฝนกระหน่ำเมื่อตอนกลางวันหยุดตก สองข้างทางกลางหุบเขาเริ่มมีหมอกลง ลมหนาวเย็นเฉียบ..พัดผ่านหัวใจ ฉันกระชับผ้าคลุมไหล่กอดตัวเองให้แน่นขึ้น
อากาศในหุบเขาเปลี่ยนจากร้อนเป็นหนาวกระทันหัน ไม่มีใครในกลุ่มเตรียมตัวรับลมหนาวมาเลยสักคน โดยเฉพาะฉันมองดูอาการจะหนักกว่าเพื่อน เพราะเป็นคนไม่ชอบอากาศหนาวเลยสักนิดเดียว
เราหยุดไหว้พระฟังธรรมตามวัดต่างๆกลางหุบเขา อากาศที่หนาวจัดทำให้ฉันไม่มีสมาธิฟังธรรมมากนัก
แสงสุดท้ายของวันเริ่มฉาบสีส้มตามชายฟ้า ถนนหนทางบนเส้นทางเขาใหญ่-วังน้ำเขียวมองดูสวยงาม คืนแรก...พวกเราสวดมนตร์เย็นทำวัตรเย็น และเข้าพักที่วัดเขาใหญ่เจริญธรรม อากาศยามค่ำคืนหนาวจับจิตจับใจ ฉันไม่สามารถเดินจงกรมตามที่ตั้งใจไว้ได้..น่าเสียดายจริงๆ ก่อนนอนฉันภาวนาขอให้ลมหนาวพัดผ่านไปเร็วๆด้วยเถอะ
2.
เช้ามืด..อากาศเริ่มอุ่นขึ้นกว่าเมื่อวาน ฉันรู้สึกดีขึ้นลงมาเดินรอบๆที่พัก ใส่บาตรข้าวเหนียว และฟังธรรมจากหลวงพ่ออุทัย สิริธัมโม
หลังจากนั้นก็กราบลาหลวงพ่อแล้วก็เดินทางต่อไปวัดป่ารัตนวัน ฉันตกหลุมรักวัดป่าอันเงียบสงบท่ามกลางบึงน้ำ และดอกบัวบานสะพรั่งรอบๆวัดทันที ที่นี่..ฉันมีโอกาสฟังธรรมดีๆจากพระอาจารย์ฟิลลิป น้ำเสียง ท่าทางและแววตาที่เต็มไปด้วยความเมตตาของท่าน สะกดใจของฉันให้สงบนิ่งและค่อยๆเย็นลง
บางช่วงฉันแอบน้ำตาซึมไปกับคำถามแนวปรัชญา ที่พระอาจารย์บอกให้ลองถามตัวเองว่าเราเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไรและมีจุดมุ่งหมายในชีวิตอย่างไร ถ้าเราตอบคำถามตัวเองได้เราก็จะมีจุดยืนและเดินไปตามแนวทาง ที่เราต้องการนั้นได้อย่างถูกต้องและชัดเจน
ฉันรู้สึกดีใจที่สุดในชีวิตที่ได้มากราบและฟังธรรมดีๆ จากพระอาจารย์ฟิลลิปในวันนี้ อย่างน้อยๆก็ทำให้ใจที่ยังไม่มีจุดยืนอันมั่นคงของฉัน เริ่มมุ่งมั่นและมองเห็นอะไรๆได้กว้างขึ้นกว่าเดิม
3. จากนั้นก็เดินทางไปทำบุญไหว้พระตามวัด ต่างๆอีก 2-3 วัด เราแวะไปกราบหลวงพ่อกัญหาที่วัดทรัพย์เจริญธรรมาราม และวัดเขาแผงม้าระหว่างทางผ่านร้านกาแฟ A cup of love เห็นผู้คนแต่งตัวน่ารักๆนั่งพักดื่มกาแฟบรรยากาศเหมือนอยู่ในฝัน เห็นแล้วอดเปรียบเทียบกับบรรดาน้องเณรตัวกระเปี๊ยกที่พากันวิ่ง เล่นจีวรปลิวกลางแดดเปรี้ยงที่วัดป่าสิริธโรไม่ได้
คืนนี้พวกเราพักค้างคืนที่วัดป่าภูหายลง ต้องเปลี่ยนรถเป็นรถท้องถิ่นถึงจะขึ้นไปบนวัดซึ่งอยู่บนภูเขาได้ หลังทำวัตรสวดมนตร์เย็นอากาศไม่หนาวมากนัก ฉันออกไปเดินจงกรมอยู่คนเดียวจนดึก แสงจันทร์นวลส่องผ่านกิ่งไม้มาทักทาย ก่อนจะบ๊ายบายลาพระจันทร์ไปนอน
4.
อากาศเช้ามืดบนวัดป่าภูหายหลงสะอาดสดชื่น สมกับที่อยู่ในเขตุโอโซนอันดับ 7 ของโลก ฉันปีนเขาขึ้นไปไหว้พระ ดักดูพระอาทิตย์ขึ้น และเดินจงกรมรอบๆโบสถ์บนภูเขา..รู้สึกด๊กับวันนี้จริงๆ
ตอนเดินลงจากภูเขาเพื่อมาใส่บาตรตอนเช้า ฉันเห็นดอกไม้ป่าบานตามทางเดินเยอะแยะเต็มไปหมด...ชอบจัง
ออกจากวัดภูหายหลงพวกเราก็เดินทางต่อไปวัดป่าภูหลวง เพื่อทอดผ้าป่าและกราบหลวงพ่อไมที่พี่ๆในคณะให้ความเคารพนับถือมาก วัดป่าภูหลวงกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง มองดูแห้งแล้ง และอยู่ค่อนข้างไกลจากชุมชน
กว่าจะไปถึงก็ทำเอาคณะของเราเกือบถอดใจ แต่ด้วยความศรัทธาที่มีอยู่ในที่สุดพวกเราก็พากันไปถึงจนได้..สาธุ
ในที่สุดการเดินทางไหว้พระวัดป่ากรรมฐานเขาใหญ่- วังน้ำเขียว 3 วัน 2 คืนก็จบลงด้วยดีอย่างที่ตั้งใจไว้
Thanks
- ชมรมจริยธรรมของที่ทำงานที่จุดประกายสิ่งดีๆ ให้คนทำงานตัวเล็กๆอย่างพวกเรา
- รถสีฟักทองและคนนำทางใจดีที่พาเราไปในทุกๆที่ อย่างปลอดภัยและส่งกลับบ้านก่อนเที่ยงคืน รู้สึกเหมือนเป็นซิลเดอร์เลล่ายังไงก็ไม่รู้อ่ะ...อิอิอิ (ถ้าจะให้ดีน่าจะมีเจ้าชายให้ด้วยนะจ๊ะ)
- พี่ณี พี่สาวใจดีที่ร่วมหัวจมท้ายทำบุญด้วยกันอย่างเบิกบานใจ
- น้องลูกปลา..เด็กรถที่คอยช่วยเสริฟน้ำและผ้าเย็นให้เจ่เจ้ตาตี่ รวมทั้งช่วยหิ้วกระเป๋าใส่ท้ายรถให้ด้วย
Special Thanks - ลมหนาวกลางฤดูร้อนที่พัดมาจากไหนก็ไม่รู้ ขอบคุณที่พัดมาบอกว่าไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักนิดเดียว บนโลกใบนี้จ้ะ
Create Date : 02 เมษายน 2553 |
Last Update : 3 เมษายน 2553 2:56:32 น. |
|
0 comments
|
Counter : 4975 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|