|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
หนาวกว่านี้มีอีกมั้ย ณ ดอยอ่างขาง
คราวที่แล้วผมไปดอยอินทนนท์ด้วยความต้องการจะพิสูจน์ความหนาว และก็ได้พบกับความหนาวสมดังใจหวังที่อุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียส ในยามเช้าแปดโมงกว่าๆ ซึ่งตามเกณฑ์ของคนกทม. อย่างผมก็ถือว่าหนาวใช้ได้ แต่ทริปนี้ผมไม่ได้คิดจะหยุดอยู่ที่ 14 องศาเซลเซียส ผมจึงวางแผนขึ้นอีกหนึ่งดอยที่ขึ้นชื่อว่าหนาวจับใจที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย นั่นคือ "ดอยอ่างขาง" นั่นเอง ในอดีต ผมเคยเยี่ยมเยือนดอยอ่างขางแห่งนี้มาแล้ว ซึ่งถ้าจะนับเวลาคงต้องย้อนกลับไปถึง 15 ปีเลยทีเดียว คราวนั้นผมมีโอกาสได้สัมผัสกับความเย็นเยือกอย่างที่มิได้คาดหมายมาก่อน อุณหภูมิ ณ คืนนั้นเมื่อ 15 ปีก่อน ลดลงต่ำถึง -4 องศาเซลเซียส....ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิด และผมก็ไม่ได้พิมพ์ผิดด้วย มันคือ ลบ 4 องศาเซลเซียสจริงๆ หนาวสุดๆขนาดที่ว่าเพื่อนร่วมทริปคนหนึ่งเอาถุงนอนไปนอนข้างกองไฟ ลูกไฟกระเด็นใส่ถุงนอนไหม้ยังไม่ตื่น คราวนี้ผมกลับมาอีกครั้ง แต่เนื่องจากมากับคุณพ่อคุณแม่ และภรรยา ผมจึงไม่ได้นอนเต้นท์ ใจจริงอยากจะพักในสถานีเกษตรหลวง แต่ก็เต็มเสียอีก เลยไปพักที่อ่างขางวิลล่า และนี่คือ วิวจากตรงห้องพักครับ
อุณหภูมิช่วงที่มาถึงต้องพักก็ 20 กว่าๆ เพราะว่าเป็นช่วงบ่ายที่ยังมีแดดอยู่ เก็บข้าวเก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปเที่ยวในสถานีฯกันเลย
บรรยากาศในสถานีฯสวยงามมากครับ มีแปลงปลูกผักเมืองเหนือ สตรอเบอรี่ ดอกไม้ โดยเฉพาะกล้วยไม้รองเท้านารี ผมถ่ายรูปไปเป็นร้อยๆเลยครับ เอามาให้ชมทั้งหมดคงไม่ไหว เลยขอนำแค่บางมุมมาก็แล้วกัน เริ่มจากแปลงปลูกต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย นั่นเอง
ใกล้ๆกันมีแปลงปลูกต้นบ๊วย ดอกบ๊วยเป็นแบบนี้นี่เอง
บรรยากาศที่นี่โรแมนติกมากครับ เหมาะกับการพาแฟนมาฮันนีมูน
และนางเอกประจำสถานีฯ รองเท้านารี ครับ
เดินเที่ยวมาพักใหญ่ก็ถึงเวลารับประทานอาหารแล้ว แน่นอนว่าต้องเป็นที่สโมสรอ่างขาง แน่นอน พนักงานเสิร์ฟที่นี่พูดไทยไม่ชัดซักคน สงสัยจะรับชาวเขาแถวๆสถานีฯมาทำงาน แต่ทุกคนให้บริการได้ประทับใจจริงๆครับ
ที่นี่พอตกเย็นแล้วความหนาวเริ่มเข้ามาเยือนครับ ทานๆข้าวไปพอคุยกันควันเริ่มออกปาก เอาเทอร์โมมิเตอร์ออกมาดู ปรากฏว่าอุณหภูมิลงต่ำไปอยู่ที่ 12 องศาแล้ว เลยต้องรีบทานและกลับเข้าที่พัก ตกดึกอากาศมันก็เย็นลงเรื่อยๆ ผมลองเช็คดูตอนประมาณ 5 ทุ่มมันอยู่ที่ 7 องศา เริ่มรู้แล้วครับว่าหนาวเข้ากระดูกดำมันเป็นยังไง ตื่นเช้ามาตี 5 เพราะตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น หนาวกว่าช่วงดึกอีกครับ ดูอุณหภูมิตอนนี้ 5 องศา เท่านั้น ใส่เสื้อ 3 ตัวเดินไปขึ้นรถขับไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งบอกได้ว่าหายเหนื่อยจริงๆครับ เมื่อเห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากหมู่เมฆที่ขอบฟ้า
และในที่สุดก็เผยตัวขึ้นมาทั้งดวงจนได้
พอดวงอาทิตย์ขึ้นมาก็ช่วยผ่อนคลายความหนาวไปได้ พร้อมทั้งทำให้เราเห็นวิวสวยๆของดอยอ่างขางกัน
จากนั้นเราไปกันต่อที่ฐานปฏิบัติบ้านนอแลกันครับ ที่นี่เป็นจุดที่สุดชายแดนระหว่างไทยกับพม่า เมื่อ 15 ปีที่แล้วผมก็เคยมา จำได้ว่ายังไม่ได้รับการพัฒนาเท่านี้ ตอนนั้นเคยคุยกับพี่ทหาร แกบอกว่าที่นี่มี 2 ฤดู (หนาวกับร้อน เหรอพี่ ผมถามไป) แกบอก หนาว กับ หนาวชิบหาย มาคราวนี้พัฒนาไปมากจริงๆ มองข้ามรั้วกั้นชายแดนไปเห็นฐานทหารพม่าอยู่บนยอดเขา
พร้อมกับมีโอกาสได้ยืนเคารพธงชาติกับพี่ๆทหาร แหม กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้ยืนเคารพธงชาติแบบนี้
ก็ได้พิสูจน์กันเรียบร้อยแล้วว่า "ยิ่งสูงยิ่งหนาว" จริงๆ ยิ่งมาที่ดอยอ่างขางแห่งนี้แล้ว หนาวจับใจสุดๆ แต่คนที่นั่นเขาบอกว่าแค่นี้สบายๆ ก็อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาชินกับสภาพอากาศแบบนี้ แต่ที่แน่ๆ น้องหมาตัวนี้ถึงกับต้องนอนตากแดดแก้หนาวกันเลย สำหรับการพิสูจน์ความหนาวของผมก็จบลงแค่นี้ครับ โอกาสหน้าจะเก็บภาพรายทางของทริปนี้มาให้ชมกัน ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาครับ
Create Date : 17 มีนาคม 2551 |
Last Update : 18 มีนาคม 2551 11:01:37 น. |
|
6 comments
|
Counter : 2109 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Opey วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:10:00:49 น. |
|
|
|
โดย: Opey วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:23:17:05 น. |
|
|
|
โดย: Opey วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:14:38:04 น. |
|
|
|
โดย: Opey วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:10:33:53 น. |
|
|
|
โดย: Opey วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:11:23:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|