เสพภาพยนตร์เป็นจานหลัก พักสายตาฟังเจป๊อบเป็นจานรอง ให้อาหารสมองด้วยโดระมะ แปลเนื้อเพลงญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
8 กันยายน 2552
 
All Blogs
 

BALLAD 名もなき恋のうた หนังใหม่ผกก. ALWAYS



(นี่ไม่ใช่บทวิจารณ์.... เป็นความเห็นส่วนตัวเชิงความรู้สึกล้วน ๆ ไม่มีการลงประเด็นเนื้อหา, ไม่เหมาะแก่การตีพิมพ์ลงในสื่อสิ่งพิมพ์ใด ๆ และจงอย่าเชื่อจนกว่าคุณจะไปดูด้วยตนเอง)

ก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่าวงการหนังญี่ปุ่น(สายเมนสตรีม)นั้น ขับเคลื่อนด้วยวงการโทรทัศน์เป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะบอกว่าการที่สถานีโทรทัศน์สร้างภาพยนตร์จะมีความได้เปรียบกว่า ในเชิงการประชาสัมพันธ์นั้นก็คงจะปฏิเสธไม่ได้

ช่วงนี้ถ้าเปิดช่องอาซาฮิแล้วก็คงจะโดนโฆษณาหนังเรื่อง Ballad พร้อมกับไอ้ตัวชินจังวิ่งไปวิ่งมาบนหน้าจอเพื่อโปรโมตหนังเรื่องนี้ จริง ๆ แล้วต่อให้ไม่มีการประโคมโปรโมตหนังเรื่องนี้ ส่วนตัวก็อยากไปดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่เห็นทีเซอร์ตัวแรก ๆ ในโรงเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วด้วยซ้ำ และแล้ว ก็ขอมานั่งพิจารณาแรงจูงใจต่าง ๆ ที่อยากไปดูหนังเรื่องนี้

๑. เพราะงักกี้เล่น .... อันนี้ ถูกต้องนะค้าบบบบบบบบบบ ผมไม่สนนักแสดงนำฝ่ายชายมากนัก ต่อให้เป็นคุซานางิวง SMAP ก็ตาม 555555 ส่วนงักกี้ น่ารักโคดดดดดดดดดดด (เป็นเรื่องแรกที่ได้ดูงักกี้ในโรง)
๒. เพราะหนังเรื่องนี้ กำกับโดยผกก. ยามาซากิ ทาคาชิ ที่มีผลงานก่อนหน้าอย่าง ALWAYS:三丁目の夕日ทั้งสองภาค และเรื่องอื่่น ๆ ได้แก่ Juvenile, Returner
๓. โปรดักชั่นขนาดมหึมา แม้ว่าจะไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก เพราะทั้ง Red Cliff ทั้ง The Last Samurai มีอะไรที่อลังการกว่าให้เราเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว
๔. เหตุผลก็จะกลับมาหาน้องงักกี้...ซะงั้น

แต่แล้ว หลังจากไฟในหนังดับลง โฆษณา 映画泥棒(Eiga dorobo) จบลง เราก็ได้ชมหนังเรื่องที่รอคอยเสียที...

ปรากฏว่า ความรู้สึกหลังเอนเครดิตขึ้น ไม่ต่างอะไรจากการไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้เลย....

(บทความต่อจากนี้ เราไม่ได้สปอยล์ก็จริง แต่อยากให้คุณไปดูหนังเรื่องนี้ก่อนอ่าน...)

เหตุผล...
๑. หนังเฉย ๆ มาก...
ตอนแรกเราก็คิดไปคล้าย ๆ กับว่าหนังเรื่องนี้จะอยู่ในอารมณ์ประมาณ เจาะเวลาหาจิ๋นซีเวอร์ชั่นเด็ก แต่ไม่รู้ทำไม ไอ้เด็กบ้านี้ไม่ได้มีความรู้สึกตกใจ ตื่นเต้น ฯลฯ ตอนที่ต้องกลับไปในยุคโบราณเลยแม้แต่น้อย ตอนแรกก็ไม่คิดจะติดใจอะไรกับตรงนี้หรอก แต่นึกไปนึกมาว่า ปกติ ต่อให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นในหนังมาแล้วกี่ร้อยเรื่อง แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับเราจริง ๆ นี่ มันก็คงต้องมีอะไรมากกว่านั้นสิ เช่น ตกใจ ตื่นกลัว พูดจาเริ่มไม่เป็นภาษาคน ฯลฯ ตอนแรกนึกว่าเด็กมันคงจะเพ้อฝันมากไป จนคิดว่าเรื่องแบบนี้มันธรรมดาไปแล้ว ที่ไหนได้ พ่อแม่ที่ตามมาทีหลังก็ไม่ได้มีความรู้สึกตกใจใด ๆ ไม่ทราบว่ามันเป็นเพราะหนังไม่อยากจะเสียเวลากับเนื้อหาส่วนนี้ไปรึเปล่าเลย ไม่มีอะไรอย่างที่กล่าวมาให้เห็น

ต่อมา หนังก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมาย ทั้งที่ข้าพเจ้าที่โง่ภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว ก็ยังต้องไปนั่งฟังภาษาโบราณซึ่งไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่ แต่ก็พอจะเดาเรื่องได้ไม่ยากนัก ... รวม ๆ ก็ยังบอกได้ว่า บทหนังไม่ได้มีอะไรเลย ธรรมดามาก ๆ

และตอนจบ... จบได้ขัดใจข้าพเจ้ามาก ไม่อยากสปอยล์ จึงไม่ขอพูดถึง

๒. โปรดักชั่น แม้มันจะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เราไม่ได้รู้สึกเหมือนกับตอนดู ALWAYS เลย ทั้งที่ทั้งสามเรื่องนั้น ก็ได้ดูในโรงหมด ดังนั้นตัดประเด็นว่าภาพแบบนี้จะเหมาะกับการดูในโรงเท่านั้น เทียบมาตรฐานแล้ว ต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ไม่ผิด แต่บังเอิญมีคนทำไว้ดีก่อนหน้านี้ไปแล้ว ส่วน ALWAYS ใครไม่ได้ดูในโรงคงไม่เข้าใจในความอลังของงานสร้าง

๓. กลายเป็นว่าด้วยทุกองค์ประกอบทั้งหมด งบประมาณที่ลงไปในหนังเรื่องนี้ สุดท้าย กลายเป็นว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังสำหรับเด็กเสียมากกว่า จะว่าไปจะทำหนังสำหรับเด็ก หรือครอบครัวก็ไม่ได้ผิดอะไร ทั้งที่จริง ๆ หนังก็มีการให้ข้อคิดสำหรับเด็กและพ่อแม่ตามประสาหนังแฟนตาซีสำหรับเด็กทั่ว ไป(แบบที่ไอ้กันมันทำไว้นานมากแล้ว) แต่องค์ประกอบด้านบทนั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร

(อันนี้ต้องย้ำว่า พูดในฐานะที่ฟังภาษาญี่ปุ่นโบราณแทบไม่รู้เรื่อง ถ้ามีซับไตเติ้ล หรือใครฟังออก อาจจะรู้สึกดีกว่านี้ก็ได้)

นั่นแหละครับ หลังจากออกจากโรงเดินไปเดินมาสักพัก หยิบหนังสือพิมพ์แจกฟรีแถว ๆ สถานีรถไฟมาอ่าน พออ่านคอลัมน์ที่เขียนโปรโมตหนังเรื่องนี้ก็ถึงกับหงายหลังและถึงบางอ้อไป ตาม ๆ กัน

หนังเรื่องนี้ สร้างจากหนังภาคพิเศษของชินจังเรื่อง 映画『クレヨンしんちゃん 嵐を呼ぶアッパレ!戦国大合戦』 ซึ่งในการ์ตูนก็เหมือนกัน ที่ครอบครัวของชินจัง อยู่ ๆ ก็ต้องพลัดหลงไปในยุคสมัยสงคราม และมีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องความรักของเจ้าหญิงเรนกับองครักษ์หนุ่ม

อันนี้ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะคาร์แรกเตอร์ของเจ้าหนูตัวเอกของเรื่องที่บุคลิกไม่ได้เหมือนชิน จังเลยแม้แต่น้อยหรือเปล่า ทำให้หนังจืดชืดไม่เป็นท่า

ก็คงต้องลองไปดูกันเองว่าหนังเป็นอย่างไรกันบ้าง ส่วนตัวถ้าหนังเรื่องนี้ไม่มีน้องงักกี้ให้ดู เราก็คงไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับหนังเรื่องนี้มากนัก

ป.ล. มาทราบเอาทีหลังว่าเด็กที่เล่นบทนำนั้น เป็นเด็กคนเดียวกับหนังเรื่อง いま、会いにゆきます。(Be with you)




 

Create Date : 08 กันยายน 2552
1 comments
Last Update : 8 กันยายน 2552 19:18:56 น.
Counter : 1823 Pageviews.

 

สุดยอด

 

โดย: พัก IP: 11.0.100.47, 101.109.13.173 23 มกราคม 2555 13:50:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Filmism
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add Filmism's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.