รักเหนือรัก
สองวันในเวียงจันทร์

ป้าฟิล์ม หายไปนาน
ขอบคุณมิตรรักที่แวะมาส่งข่าว ทิ้งไว้
ไม่ได้ไปไหน
และอากาศก็ร้อนนนมั่กๆ
พาลทำให้ไร้อารมณ์สุนทรี
ไม่นึกอยากถ่ายภาพ
และที่สำคัญ

งานยุ่งมากๆ ค่ะ น้องๆที่ห้องทำงาน
เป็นบ้าไปคนหนึ่ง ( นี่เรื่องจริงนะ เออ )
นอนโรงบาลอีกคน
เห็นทีจะไม่ไหว..เป็นแบบนี้อีกหน่อย ต้องมีอันเป็นไปอีกคนแน่
อยากลาพักร้อนนนนนนนนนนน

วันดีคืนดี ..
มีเหยื่อหลงมาโปรด
เพื่อน: จะไปทำธุระที่เวียงจันทร์ ไปด้วยกันป่าว
ป้าฟิล์ม: ไปๆ (วันไหน ไปยังไง ไม่ถามสักคำ)

จัดการสั่งเสีย both boys
แม่จะไปเที่ยวเวียงจันทร์ เน้อ
เจ้ากัส : จาปายด้วย แง๊ๆ จาปายด้วย
แม่มาน : แม่จะไปดูลาดเลาก่อน ไว้คราวหน้าพาไป จะได้ไม่ลำบาก ..(มารดาอยากหนีเที่ยว คริคริ )




กรุงเวียงจันทร์ เมืองหลวงของบ้านพี่เมืองน้องของเรา
มีอะไรน่าสนใจ ..ไม่รู้ จ้ะ
แล้วจะไปดู อะไร ..ไม่รู้จ้ะ
จะไปพักที่ไหน ...ไม่รู้จ้ะ
แหะๆ
สรุปว่า สองวันสองคืนที่อยู่เวียงจันทร์
ส่วนมากจะเดินเล่น ถ่ายรูปนิดหน่อย ดื่มน้ำปั่น ชมวิว กินข้าว และนอน

เอาละ ข้ามขั้นตอนการเดินทางที่ฉุกละหุก มาที่เช้าแรกที่เวียงจันทร์เลยดีกว่า
คงจะไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มมาหลายคืน
เช้าแรกเราก็ตื่นสายตะวันโด่ง ลืมนึกถึงเรื่องที่ตั้งใจไว้คือไปเดินตลาดเช้าซะสนิท
(ไม่คิดจะไปแก้ตัวหรอก)
หลังจากที่คนชวนมาเป็นเพื่อนทำธุระ ทำธุระเสร็จเรียบร้อย
ทีนี้ถึงตาเอ็งพาข้าเที่ยว

เวียงจันทร์เดือนกุมภาพันธ์
อากาศร้อนนน
แดดก็ดูเหมือนจะร้อนกว่าบ้านเราสองสามเท่า
หาความสดชื่น แทบไม่มี
บรรยากาศก็เป็นไปตามคำที่ได้ยินมาคือ เหมือนๆ ต่างจังหวัดบ้านเรานั่นเอง
มองไปรอบๆ
นักท่องเที่ยวฝรั่งเยอะมาก
บ้างมาเป็นคู่ บ้างมาเดี่ยว บ้างก็วัยรุ่นมากันกลุ่มใหญ่
ส่วนใหญ่จะเดิน เดิน เดิน

เอานะ เราเลียนแบบฝรั่ง
เราจะเดินเล่นในเวียงจันทร์
เดินไป เดินมา วนไปวนมา



ปล. ไม่รู้ขยันเดินอะไรกันนักหนา แดดจัดมากๆ อากาศก็ร้อนมากๆ
หมวกก็ไม่ได้พกไป พยายามหาร้านซื้อหมวกไม่มี ถามคนแถวนั้นเขาบอกต้องไปตลาดเช้า ...ของขายเยอะ คงได้ซื้อยู่หรอกตรู อิ อิ


เดินๆ ไปเรื่อยๆ เจอวัด sisaket
สวยดี แวะดูดีกว่า
หลวงพี่สองรูปทำท่าเดินมา เลยยกกล้องค้างไว้ ทำท่าถ่ายรูป
ที่แท้ เล็งท่าน
พอเดินผ่านท่านส่งยิ้มให้น้อยๆ พร้อมโบกมือขอโทษนะโยม
(คงไม่บาปหรอกเนอะ)





ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ



ประตูชัย (ใช่ไหมนี่)
ตอนบ่ายแก่ๆ มีเปิดน้ำพุด้วย
ที่จริงกะว่า ตอนค่ำจะแวะมาอีกรอบ
แต่สลบเหมือดเลยไม่ได้แวะมา เสียดายเหมือน
แต่จะให้กลับไปแก้มืออีกรอบก็ม่ายไหว




เดินได้ไม่เท่าไหร่ก็ค่ำแล้ว
เลยมุ่งหน้าไปทางริมโขงหาของกินและกะนั่งชมวิวแม่น้ำโขงยามค่ำ
เมนูมีตำบักหุ่ง ปลาเผา รายการอาหารก็คล้ายๆ กับบ้านเรา
แต่คงใส่ผงชูรสเยอะอย่างที่ได้ยินมา
ตอนค่ำรู้สึกคอแห้งผิดปกติต้องดื่มน้ำบ่อยๆ



บรรยากาศริมโขง



หลังจากกินอิ่ม หนังตาเริ่มหย่อน
รูปเริ่มก็ไม่นึกอยากถ่าย
วันแรกที่เวียงจันทร์ ก็เลยจบลงง่ายๆด้วยการนอน
(ถ่อสังขารเดินทางมาตั้งไกล ..ก็ไม่ทิ้งนิสัย อิ อิ )



วันรุ่งขึ้นเราเปลี่ยนแผนโดยการเช่ามอไซด์ซิ่งดีกว่า
แต่แค่จอดไฟแดงแรกเท่านั้น ตำรวจก็เป่านกหวีดปิ๊ดๆ แล้วชี้มาที่เรา
หลังจากทำท่าเด๋อๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวสักพัก ไฟก็ไม่หายแดงสักที
ตำรวจก็เรียก มานี่ ๆ
นักท่องเที่ยว: หยังคะ
ตำรวจลาว: บ่ว่าซาวลาว ซาวต่างซาด ถ้าทำผิดระเบียบวินัย ก็ต้องถูกปฏิบัติลงโทด เซ่นกัน
นักท่องเที่ยว:ยังไม่รู้ตัวว่าทำไรผิด
ตำรวจ: เจ้าจอดรถกายทางม้าลาย (จอดรถเลยทางม้าลาย)
นักท่องเที่ยว: ห๋าๆๆ แล้วทำไง ต้องเฮ็ดจังได๋
ตำรวจ: เฮา จะเขียนใบสั่งให้ไปจ่ายที่..ฟังไม่ถนัก วันจันทร์เด๋
นักท่องเที่ยว: ข้อยสิะจ่ายได้จังได๋ ข้อยสิ เมือบ้านแล้ว
ตำรวจ:จ่ายที่นี่ก็ได้ แต่ค่าปรับแพงกั่วค่าเซ่ารถเด๋
นักท่องเที่ยว: ฮ่วย บ่ว่าตำรวจเมืองไหน ครือกันหมด

เลยแก้เซ็งด้วยการขับมอไซด์ออกไปนอกเมือง
เลาะริมโขงไปเรื่อยๆ

เจอสาวน้อยน่ารัก



แม่น้ำโขงหน้าแล้ง



ขับมอไซด์เข้าไปในป่า เจอลำธาร เล็กๆ



อากาศร้อน ถนนมีแต่ฝุ่น และ รู้สึกว่า ใบหน้าจะเริ่มเกรียม
เลยกลับเข้าเมืองหาน้ำปั่นกินแก้ร้อน
ต่อไปชมวัดทาดหลวง วัดใหญ่ และเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง



ภาพนี้แอบถ่ายฝรั่ง
โปรดสังเกตกระเป๋าที่พี่ท่านสะพาย




เกือบห้าโมงเย็น ส่งมอไซด์เรียบร้อย เก็บข้าวของ จ้างรถตุ๊กๆ ไปส่งขึ้นรสบัส
โชคไม่ค่อยดี เจอแต่ตุ๊กๆ เรียกราคาโหดๆ และ แกล้งขับรถวนไปมาให้เราคิดว่า ไกล ทั้งที่ใกล้ๆ




จัดการเอกสารผ่านจากฝั่งลาวเรียบร้อย
สิ่งที่ไม่น่าเกิดก็เกิดได้
ป้าฟิล์ม: เพื่อน เราเดินกันไม๊ เราจำได้ว่าไม่ค่อยไกลนะ
เพื่อน: ได้เลย ได้ เลย กริ๊ดดๆ
เดินไป เดินมาสักพัก
เฮ้ย ทำไมมันไม่ถึงที่จอดรถเราซักที
เฮ้ย นี่ๆ อย่าบอกนะ ว่า เราต้องเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพ
กริ๊ดดด
เพื่อน: อ้าวนึกว่า อยากเดิน
ป้าฟิล์ม : คือว่า เรานึกว่านี่มันเป็นฝั่งไทยและเราเดินอีกแป๊บเดียวก็ถึงที่ที่เราฝากรถไว้
เพื่อน:55555 เดินๆๆๆๆ
ป้าฟิล์ม: ทำไงได้ ตรูแก่จนหลงขนาดนี้แล้วหรือตรู
ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินนับก้าว ไปเรื่อยๆ พร้อมกับมองตามรถบัส รถยนต์ ที่วิ่งฉิวๆ ผ่านไป



เริ่มทำใจเมื่อเดินมาถึงกลางสะพาน จึงเงยหน้ามองรอบๆ
โอ้ สวยยยยฟร่ะ แม่น้ำโขงยามเย็น มีหมอกบางๆ ลอยอ้อยอิ่งขึ้นจากน้ำ
ไฟบ้านเรือนเริ่มเปิด ทำให้มีเงาสะท้อนระยิบระยับ
ลมพัดมาอ่อนๆ เย็นๆ
รู้สึกขอบคุณเพื่อนมากมาย ....ขอบใจนะที่ไม่ทักท้วงเมื่อตอนที่เราชวนเดิน
ทั้งๆ ที่แกรู้ว่า เราต้องเดินข้ามสะพาน
เพื่อนบอก ..นึกว่า อยากเดินจริงๆ อิ อิ

เสียดายจัง ที่ถ่ายรูปไม่ได้อย่างที่ตาเห็น







Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2552 22:12:54 น. 7 comments
Counter : 1467 Pageviews.

 
สวยมากเลย แม้จะบ่นว่าร้อน มีแต่ฝุ่น หน้าเกรียมแล้วเกรียมอีก แต่ฝีมือก็ไม่ตกเลยป้าฟิล์ม

พี่ว่าฝั่งหนองคายก็มีอะไรให้ถ่ายรูปเยอะอยู่เด้อ

ว่างๆ ไปให้ถึงหลวงพระบางเด้อ


โดย: ดวงลดา วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:47:11 น.  

 
เฮาก็ว่า หายไปไสน้อ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:50:57 น.  

 
แวะมาแก้ไขขนาดภาพนิดหน่อย
สวัสดีค่ะ พี่ด้า แวะไปเยี่ยมบ้านแระ อิจฉาเจ้าของบ้านอย่างแฮง
หวัดดีจ้ะ น้องชุน กริ๊ดดดด เพิ่งเหน ยินดีด้วยนะ กับตำแหน่ง best book blog


โดย: filmgus วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:54:43 น.  

 
Oh!!!! my eyes feel so hot.
อิจฉาจัง......


โดย: gutofmadness วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:12:43:34 น.  

 


มาตามไปเที่ยวเวียงจันทน์ค่ะ



โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 2 มีนาคม 2552 เวลา:21:11:19 น.  

 
อยากไปมากเลยค่ะลาว ยิ่งมาเห็นภาพสวยๆแบบนี้ด้วยอีก


โดย: petunia lover วันที่: 3 มีนาคม 2552 เวลา:5:16:54 น.  

 
แมวที่บ้านก็ได้กินแต่อาหารเม็ดค่ะขนาดว่ารักแมวนา อิอิ
วันหลังพาแมวแปดตัวที่บ้านมาให้ดูบ้างน่ะค่ะ


โดย: petunia lover วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:23:56:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

filmgus
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เวบblog ของคุณแม่ลูกสอง ที่ชอบถ่ายรูป
อ่านหนังสือ ดูหนัง และฟังเพลง
เดิมใช้พื้นที่บลอกโพสภาพและเขียนไดอารีเรื่อยเปื่อยเท่านั้น แต่ตอนนี้ แม่ฟิล์มกัส ขอใช้พื้นที่บลอก เขียนเรื่องราว
แรงบันดาลใจที่ได้ผ่านการอบรมศีล 5 กับคุณแม่สีใบตอง บุญประดับ มาเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ชาวบลอกและผู้ที่หลงเข้ามาอ่าน เผื่อได้เป็นประโยชน์ต่อชีวิต
เป็นแรงบันดาลใจ และ ทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นนะคะ
โดยเนื้อหาต่างๆ ได้อ้างอิงจากหนังสือประกอบการดำเนินงาน โครงการ "คืนมนุษย์สู่เหย้า เพื่อเฝ้าเมือง" ที่สร้างหลักสูตรโดย ทันตแพทย์หญิงสีใบตอง บุญประดับ ผู้อำนวยการบ้านเกื้อรัก Love Line Family Center
ส่วนเรื่องราวและรูปภาพที่เป็นฝีมือแม่ฟิล์มกัสในนี้
ถ้าท่านใดต้องการนำไปใช้ประโยชน์สามารถคัดลอก หยิบจับ หรือ จกเอาไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต




แม่ฟิล์มกัส ขอเชิญชวนทุกๆคนที่หลงเข้ามา
ลองครองตนให้มีศีล 5 ดูนะคะ
เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ก่อน
ทำไปทีละนิด แล้ววันหนึ่ง ไม่นานเลย
จะพบความสุขอย่างมหัศจรรย์ขึ้นในใจ
โดยไม่ต้องใช้เงินทองซื้อหามา

รักคนอ่านทุกคน จ้า



บลอกล่าสุดค่ะ



พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง) แปล



การพัฒนาตนเอง เพื่อการพ้นทุกข์



หลุมพรางชีวิต




คนเต็มรัก



กุญแจสำคัญของทุกชีวิตที่ต้องการความสุข


เติมรักด้วยรัก



ความสุขอยู่ในอุ้งมือเรา


บทนำ





Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
28 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add filmgus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.