เพื่อนสนิท: ดูจนสนิท คิดจะเขียนนานแล้ว ...ไข่ย้อย ดากานดา และนุ้ย
ตั้งชื่อได้สะเปะสะปะมากๆ แต่ก็บอกถึงสิ่งที่อยากสื่อ วันนี้จะเขียนถึงหนังไทยในใจตลอดกาล แต่ไม่เป็นหนึ่งเดียวเพราะมีอีกหลายเรื่องที่ประทับใจไม่แพ้กัน ถ้าจะพูดถึงหนังที่ดูซ้ำบ่อยที่สุดของเรา เพื่อนสนิทติดชาร์ทแน่นอนไม่แน่ใจว่าเป็นอันดับหนึ่งหรือสอง (ที่สูสีกันมากเห็นจะเป็นเรื่อง The holiday <2006> ที่หยิบมาดูทุกคริสมาสต์ทุกเทศกาลเหงา ทุกฤดูหนาวและทุกฤดูเหงา ซึ่งก็แพลนไว้ว่าจะเขียนถึงในโอกาสหน้า ๆ) ส่วนตัวมีประสบการณ์เพื่อนแอบรักเพื่อนแน่นอนถึงได้อินขนาดนี้แต่เค้ามารักเรานะ อิอิ ซึ่งตอนจบก็ไม่ต่างจากหนังเท่าไหร่ T_T เอ้า พร่ามมานานแล้ว เข้าเรื่องกันเถอะ เรื่องนี้ดูครั้งแรกในโรงหนังตอนม.4 ถูกดึงดูดเข้าไปให้ดูด้วยคำโปรย ฉันรักแกว่ะ โดนมาก แล้วก็หลงรักเข้าเต็ม ๆ เป็น romcom ที่ไม่ขาดไม่เกิน ให้อารมณ์ความรักของศิลปินที่ดูอ่อนไหว เซอร์ และหวานแบบปนเท่ เอาแล้วสิ ไม่เคยรักหนังเรื่องไหนขนาดนี้ช่วงนั้นต้องไปเสาะหาทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือต้นฉบับแห่งความเซอร์ของไข่ย้อยความตรึงใจของดากานดา และความน่ารักของนุ้ย กล่องไปรษณีย์สีแดงนั่นเอง หรือ เจ้าชายน้อยผู้มาสอนเรื่องความสัมพันธ์ที่ทำให้ไข่ย้อยน่าจะเข้าใจอะไร ๆรวมถึงใจตัวเองได้ดีขึ้น (เล่มนี้ คนนั้นที่มีเรื่องราวเพื่อนสนิทในเวอร์ชันเจ้าของบล็อกเป็นคนซื้อมาให้ด้วยแหละแหะ ๆ นึกถึงแล้วก็ .... ไม่รู้จะอารมณ์ไหนดี) ช่วงนี้ก็อยู่แถบภาคใต้แอบไปตามรอยไข่ย้อยมาหลายที่แล้วเหมือนกัน คล้าย ๆ ตามรอยซีรีย์เกาหลี 55^^ ทุกวันนี้เห็นดอกชงโคทีไรก็ใจไหวหวั่น ไม่มีปัญญาวาด ต้องหยิบกล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ เรียกได้ว่าเป็นเอามากมาก มาก กับเรื่องนี้จริง ๆ วันนี้ก็ฤกษ์งามยามดีหยิบเรื่องนี้มาดูรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ได้นับแล้ว ไม่น่าเชื่อว่ามันจะผ่านมา 7-8 ปีแล้ว เปิดเรื่องด้วยหมูหนุ่มติสท์จากวิจิตรศิลป์ออกเดินทางไกลไปในดินแดนที่เค้าไม่คุ้นเคย หมูกำลังมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งทะเลใต้โดยไม่รู้เลยว่าที่แห่งนั้นจะทำให้จิตใจที่อ่อนไหวเหลือเกินของมันได้ทำงานหนักอีกครั้ง สารภาพว่าแอบคิดว่านุ้ยเป็นนางร้ายของเรื่องที่มาแย่งความรักของไข่ย้อยจากดากานดา555 แต่เวลาผ่านไป เราก็ยังคิดอย่างงั้น เอ๊ะ จะบอกทำไม ด้วยความที่ในชีวิตจริงเราเป็นสถานะคล้ายๆ กับดากานดา แบบว่า...เข้าเรื่องหนังต่อเถอะ แก่นสารของหนังเรื่องนี้ขยายออกมาจากหนังสือได้ดีมากไม่ได้ทำให้อรรถรสส่วนไหนเสียไปเลย แถมยังแต่งเติมในด้านความรักให้มีเรื่องราวมากขึ้นอินมากขึ้น แค่ตัดส่วนท่องเที่ยวเชิงสารคดีของหนังสือออกไปอย่างสมดุล ทำให้หนังสนุกไม่น่าเบื่อเลยตลอดทั้งเรื่อง (แอบคิดว่าคนเขียนบทเอากล่องไปรษณีย์) ส่วนที่ชอบที่สุดของหนังเรื่องนี้คือตัวละครและนักแสดงที่ถ่ายทอดออกมาราวกับเป็นตัวละครนั้นจริงๆ เนื่องจากทุกคนยังใหม่ เรายังไม่ได้ติดภาพบุคลิกอื่นจากที่ไหนมา - ไข่ย้อย เซอร์ ติสท์ ได้ใจกวนทีนหน่อย ๆ ขี้อายนิด ๆ เก็บความรู้สึกเก่งและก็มีวิธีระบายความรักออกมาในแบบของตัวเอง วาดรูปละเลงความรักความโกรธท่องเที่ยวไป สมกับการเรียนวิจิตรศิลป์ อารมณ์ศิลปินมั่ก ๆ ซึ่งจุดนี้ซันนี่ถ่ายทอดได้ดี และเราก็ชอบซันนี่มาจนถึงทุกวันนี้ไม่ว่าเค้าจะสวมบทไหนก็ไม่โดนใจเท่าไข่ย้อยอีกแล้ว -ดากานดา - - - นุ่น ศิรพันธ์ เธอคือดากานดาอย่างแท้จริง คิดภาพคนอื่นในบทนี้ไม่ออกจริงๆ สาวเหนือสวยเก๋ มีบุคลิกที่ทำให้เพื่อนอย่างไข่ย้อยตกหลุมรักได้ไม่ยากเลยถ้าไม่รักสิแปลก ทั้งซน ซ่า สดใส อยู่ด้วยแล้วคงมีความสุข ในขณะเดียวกันก็มีความเท่ห้าวอยู่ในตัวในแบบที่ไม่มากไม่น้อยเกินไป -นุ้ย สาวใต้ตาคม เป็นกันเองที่มาทำให้ไข่ย้อยหวั่นไหวส่วนตัวคิดว่าน่าจะใต้ได้มากกว่านี้ เอ๋มณีรัตน์ที่มารับบทนี้ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แต่คิดที่ว่า เธอน่าจะมีบุคลิกอย่างสาวใต้แท้ๆ มากกว่านี้หน่อยในด้านหน้าตาผิวพรรณที่น่าจะคมเข้มกว่านี้ -พี่แตน ตัวละครนี้แจ้งเกิดโอปอล์ได้อย่างสวยงาม มาก เธอเคยมีผลงานมาก่อนหน้านี้ แต่เรื่องนี้แหละที่ทำให้ทุกคนรู้จักเธออย่างจริงจังเรียกได้ว่าขโมยซีนจนเด่นเกินหน้าเกินตาสาวนุ้ยซะด้วยซ้ำแต่ตัวหนังก็รักษาสมดุลความเด่นของเธอเอาไว้ได้ดีไม่ได้มากเกินขนาดนั้น เป็นสีสันที่น่าจดจำที่สุดของหนังเรื่องนี้แล้ว เรียกได้ว่าเห็นหน้าเธอก็เตรียมหัวเราะได้เลย ฮาจริงอะไรจริง -นี่ยังไม่รวมถึงสีสันอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด เช่น อิม อชิตะ ฟุเหยินพ่อแม่ดากานดา ลุงที่อยู่ใน รพ. สิ่งที่ทำให้หนังลื่นไหลมากๆ ก็เป็นการตัดต่อสลับไปมาระหว่างอดีตปัจจุบันที่มีจุดเชื่อมโยงทุกครั้งไม่ใช่การตัดไปตัดมาง่อย ๆ ไม่มีที่มาที่ไป เช่น นาฬิกาที่เดินถอยหลังหนังสือเจ้าชายน้อยที่นางเอกทั้งสองคนอ่าน การนับขณะที่อีกฝ่ายที่เราชอบหลับอยู่ หรือการบอกรักในสองที่สองเวลา เป็นต้น อ้อ..ที่ต้องชมอีกอย่างคือดนตรีประกอบที่เสริมฟีลได้ดีมาก อินร้อยเท่าพันเท่าทั้งเรื่อง 555 เป็นคนที่ดูเรื่องนี้แล้วอินที่สุดรึเปล่าไม่รู้ แล้วหนังเรื่องนี้มันดูมีอะไร ๆ มากกว่าที่เห็นผิวเผิน เพราะได้ใส่สัญลักษณ์และเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้าไป ชนิดที่ว่าเห็นแล้วอิน อิ๊นนนน อิน เข้าไปอีก เช่น ตัวละครเจ้าชายน้อย พู่กันที่ล้างสะอาด เพลงโปรดเถิดดวงใจ การเหลาดินสอหัก รูปดอกไม้เต็มห้อง รูปวาดของหญิงสาวทั้งสอง ร่มเล็กร่มใหญ่ของนุ้ย ดอกชงโคดอกขี้เหล็กอเมริกัน นอกจากนี้ก็มีการเก็บมุขตลกเล็กๆ น้อย ๆ ตลอดเรื่อง ไม่ปล่อยให้คนดูเงียบนิ่งเกินไปซักฉากการเล่นกับอารมณ์คนดูที่ให้ลุ้นแบบเรียบ ๆ ไม่หวือหวา แต่พอดูแล้วมันอิ่ม ประทับใจ ตัวอย่างเช่น ฉากพัสดุของไข่ย้อยที่ส่งมาถึงมือดากานดาก็ซึ้งชวนสะกิดต่อมน้ำตายอมรับว่าดูครั้งแรกคลอ ๆ อยู่นะ ฉากสะเทือนใจ --- ฉากที่สะเทือนใจที่สุดยกให้อารมณ์เกรี้ยวกราดของไข่ย้อยที่ระบายลงกับรูปดอกไม้และกล้องก็แพนไปถึงภาพวาดดอกไม้ต่าง ๆ เต็มห้องที่สื่อถึงความรักที่ไข่ย้อยมีต่อดากานดาราวกับว่าถ้าเค้าคิดถึงเธอเมื่อไหร่เค้าจะวาดรูปดอกไม้... แต่เธอไม่เคยรู้เลย หรือจะเป็นฉากที่ร้องเปิดโถด เอ้ย โปรดเถิดดวงใจเพี้ยนสนทเมื่อหญิงอันเป็นที่รักไปรับดอกไม้จากชายอื่น ส่วนอีกฉากที่ได้ฟีลไม่แพ้กันก็คือฉากคอมแฮงค์ ในเวลาที่ไม่สมควรแฮงค์ที่สุด ซันนี่สื่อในสามฉากนี้ได้ดีมาก เยี่ยมมมมม ตอนจบ ---- เรื่องนี้จบได้ดีทีเดียว แต่ไม่ถึงกับถูกใจที่สุด เพราะค่อนข้างจะไม่เคลียร์ทำให้คนที่เชียร์ทั้งนุ้ยและดากานดาต่างมีความหวังในฝ่ายที่ตัวเองเชียร์แต่มันทำให้ชวนคิดว่าไข่ย้อยเอนเอียงไปด้านนุ้ยแล้ว คนเชียร์ดากานดาอย่างเราก็ค้างคาใจจนถึงทุกวันนี้555+ แต่เป็นแบบนี้อาจจะดีที่สุดแล้วก็ได้... คะแนนสำหรับเรื่องนี้ ให้ 9.8/10 หักคะแนนอะไรไม่รู้ ยังไม่อยากให้เต็ม กวนมะ
ส่วนเรื่องอื่นที่แพลนว่าต้องเขียนถึงแน่ๆ เนื่องจากเป็นหนังประจำตัว ดูเป็น 10 กว่ารอบ(หรือมากกว่านั้นนะ) ควรค่าแก่การกล่าวถึง ได้แก่ - The holiday -Love letter อันนี้เป็นการให้สัญญาตัวเองไว้ ^^ เพราะตั้งใจจะเขียนนานแล้วเหมือนกัน เอาไว้อ่านความรู้สึกตัวเอง ณ ตอนนั้น (ซึ่งก็ควรเขียนนานแล้ว)
Create Date : 17 มิถุนายน 2555 |
Last Update : 17 มิถุนายน 2555 17:08:25 น. |
|
12 comments
|
Counter : 5956 Pageviews. |
|
|
เขียนได้ค่อนข้างดีครับ เก็บรายละเอียดหนังได้เยอะเลย
ผมก็ไม่ชอบตอนจบแบบที่หนังจบ แม้คนสร้างจะบอกว่า แค่เอาหนังสือกลับไปคืนนุ้ยก็เถอะ
ที่ผมชอบที่สุดอีกอย่างในเรื่องนี้ คือ เนื้อหาบางอย่างของเจ้าชายน้อยไปซ้อนทับกับเนื้อหาของเพื่อนสนิท อย่างน่าทึ่ง
ตอนที่นั่งดูละครเวทีกัน ไข่ย้อยก็หลับ แต่เขาก็ได้มาอ่านเจ้าชายน้อยทีหลัง
มันได้บอกอะไรกับไข่ย้อยหลายอย่าง
ตรงนี้ผมชอบ
......แต่ในแง่รายละเอียดแบบจริงจัง
หนังยังหลุดๆในรายละเอียดหลายอย่างที่คนทั่วไปมักมองไม่เห็นหรือเพราะไม่รู้จัก มองยังไงก็ไม่รู้ เช่น ตอนไข่ย้อยอกหัก เดินมึนๆไปขึ้นรถไฟ เขาเดินผิดด้านบนสะพานเหล็กที่จะไปรถไฟ แต่คนทำหนังคงเจตนาแค่อยากโชว์สะพานมากกว่า เลยไม่ได้คิดรายละเอียดอะไรตรงนี้
555 รักทุกอย่างของหนังเรื่องนี้ครับ เป็นหนังไทยที่ดีและตั้งใจทำ ดูสนุก ไม่ดูถูกคนดู
มีอะไรๆให้เขียนได้อีกมากมายไม่จบไม่สิ้น
ดากานดา.. ฉันรักแกว่ะ