เงินมันก็พิสูจน์ความเป็นเพื่อได้ด้วยนะ ไม่เชื่อลองดูสิ
จริงๆอากาศที่กรุงเทพเริ่มหนาวมาตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อคืนตอนนอนก็ไม่ต้องเปิดพัดลม แต่เป็นคนชอบห่มผ้าหนาๆ อุ่นดี ตื่นตอนเช้าแทบไม่อยากลุกจากเตียง ขี้เกียจมากกกก วันจันทร์เนี่ย เข้ามาทำงานเช้านี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ เพราะว่าคนที่ต่างประเทศยังไม่ตื่นกัน ไม่มีใครจะคุยด้วย อยู่กับน้องที่ทำงานสองคน เหงาๆ นั่งเล่นเน็ตช่วงเช้า ช่วงบ่ายถึงเริ่มทำงาน หัวหน้าก้ไม่เข้า สั่งงานจากทางโทรศัพท์อย่างเดียว เป็นอย่างงี้มานานแต่ก็ชินแล้วแหละเจอเรื่องไม่เข้าหูแต่เช้า 1. แม่โทรมาบอกว่า ใบเสร็จที่เราจ่ายค่าคอนโดมาที่บ้าน ปรี๊ดขึ้นมาทันที ไม่ได้โกรธแม่นะ โกรธพนักงานบัญชีบริษัทของคอนโดที่จอง เคยย้ำนักย้ำหนาสองครั้งว่าให้ส่งใบเสร็จมาที่ที่อยู่ปัจจุบัยที่กรุงเทพ ที่รัชดา ไม่ต้องส่งไปตามทะเบียนบ้าน เพราะถึงส่งไปเราก็ไม่ได้เห็น เราอยากได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ก็โทรไปด่าพนักงานคนนั้นตามระเบียบบอกให้ส่งตัวสำเนามาให้ใหม่ตามที่อยู่ปัจจุบัน2. เพื่อนส่งเมสเสจมาบอกว่าขอยืมตังค์ เดือดร้อนจริงๆ จะคืนสิ้นเดือนโห....มันเล่นส่งเบอร์บัญชีมาเสร็จสรรพ เล่นกันงี้เลยเหรอว่ะ มีเงินส่งเมสเสจแล้วทำไมไม่โทมาขอดีดีว่ะ แต่เพื่อนคนนี้ก็ค่อนข้างสนิทกัน อยากจะช่วยอยู่หรอก แต่เงินเราโอนเข้าบัญชีเงินเก็บที่มันไม่มีเอทีเอ็มหมดแล้ว เหลือไว้แค่เงินสด ไม่กี่พันเอาไว้ใช้ จนถึงสิ้นเดือน แต่มันเล่นจะเอาถึงสองพันนี่ ฆ่าชั้นเลยดีมั้ยเนี่ย แล้วก็ยังเข็ดไม่หายเพราะเพื่อนคนนี้ ก็เคยยืมตังค์ไปแล้วก็คืนครึ่งเดียว และต้องทวงอยู่นาน และมีเพื่อนอีกสองคนยืมคนละพัน สองพัน ก็ไม่คืนอีกเช่นกัน มันบอกจะคืนปลายปีที่แล้ว พอเจอหน้าไม่เห็นมันพูดถึงเลย อีกคนก็ยืมตั้งแต่เดือนเมษาปีนี้บอกว่าสิ้นเดือนจะโอนให้ หายไปไม่รับโทรศัพท์อีกเลย ทีโทมาขอเงินก็ร้องไห้จะเป็นจะตาย พูดโน่นนี่ให้คนสงสาร ทำกันอย่างนี้แล้วก็จำไว้ ไม่มีวันเจริญแน่ พวกไม่รักษาคำพูดวันนี้บ่นแต่นี้ดีกว่า แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่ ก็ชั้นมันโง่เอง ขี้สงสาร ไม่เข้าเรื่อง ก็เลยต้องตกเป็นเหยือของพวกที่คิดว่าตัวเองฉลาด (แกมโกง)ถึงเงินจะน้อยแต่ชั้นมันคนเห็นค่าของเงิน ชั้นจึงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้โดยไม่ต้องไปหยิบยืมใคร (อย่างเพื่อนพวกนั้น) เอ้ออ..เริ่มปวดหัวเข้าแล้วไงล่ะไปทำงานต่อดีกว่า