Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
รักแห่งสยาม (เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากหนัง) ตอนที่3

หมายเหตุ

บทความเหล่านี้ มาจากกระแสความดังของหนังเรื่องรักแห่งสยาม เนื้อหาที่ท่านจะได้อ่านต่อจากนี้ ผมได้รับเรื่องเหล่านี้จากการดาวน์โหลดไฟล์มา และเห็นว่า ยังไม่เคยมีใครเอามาลงให้อ่านกัน จึงนำมาเสนอเพื่อนๆนะคับ ถ้าใครบอกได้ว่าใครเป็นผู้ที่แต่งเรื่องนี้ขึ้น ก็มาบอกได้ทางคอมเมนต์นะคับ ถ้าหากคุณไม่พอใจกับการที่ผมเอาเรื่องนี้มาให้อ่านก็ขออภัยนะคับ



(ต่อจากตอนที่แล้ว)





พอกลับถึงบ้านหญิงก็ลามิวแล้วเข้าบ้านไป มิวเดินเข้าบ้าน เขารู้สึกตัวลอยๆ เดินไปหยิบตุ๊กตามาจากโต๊ะเอามาไว้ที่เตียง
“มันจะเป็นยังไงต่อไปนะ ความเข้มแข็งเฮือกสุดท้ายมิวใช้ไปหมดแล้วนะ” มิวพูดกับตุ๊กตา แล้วมิวก็หยิบโทรศัพท์มาส่งข้อความไปหาโต้งว่า
“นี่เบอร์เรานะ”

โต้งกำลังนอนฟังเพลงอยู่ ได้ยินเสียงแมสเสจเข้าก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความที่มิวส่งมา เซฟเบอร์ลงเครื่องไว้นอนเอาโทรศัพท์แนบอกไว้ยิ้มและอย่างมีความสุข

วันรุ่งขึ้นหญิงมาเรียกมิวที่หน้าบ้าน มิวก็ลงมาเปิดประตูให้

“มีอะไรเหรอหญิงเพิ่งจะแปดโมงกว่าเองนะ” มิวเดินขยี้ผมยุ่งๆ ลงมาเปิดประตู

“หญิงมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ” มิวทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่หญิงทำหน้าเคร่งขรึม

“อืมๆ เข้ามาก่อนแล้วกันเดี๋ยวเราไปล้างหน้าแป๊บนึงนะ”

“ไปเหอะ เดี๋ยวรอ” พูดจบหญิงก็เดินขึ้นไปข้างบนตามมิวไป มิวแยกไปห้องน้ำส่วนหญิงนั่งอยู่ในห้อง มองดูตุ๊กตาไม้ที่ตอนนี้อยู่บนเตียง หญิงยิ้มเล็กๆ พร้อมถอนหายใจออกมา

“เสร็จแล้ว ขอโทษนะห้องรกยังไม่ได้เก็บที่นอนเลย” พูดพลางเก็บตุ๊กตาไม้ไว้บนโต๊ะอย่างเดิม แล้วจัดแจงเก็บที่นอน “ตกลงมีอะไร” มิวถาม

“เมื่อวานคุยอะไรกับโต้งเหรอ”

“ถามทำไม ไม่มีอะไรหรอก ก็ถามนู่นถามนี่ เป็นไงสบายดีไหม”

“แค่นั้นแน่นะ”

“ไม่แค่นั้นแล้วจะแค่ไหนเล่า”

“มิว ตอนนี้มิวคิดยังไงกับโต้ง” มิวถึงกับสะอึกไปกับคำถามแทงจุดตายของหญิง

“ก็ เอ่อ…ไม่ยังไงหรอกเพื่อนกันน่ะ”

“ให้มันแน่ใจนะมิว ตอนนี้มิวมีหน้าที่เยอะ มีงาน หญิงไม่อยากให้มิวเครียด ตั้งแต่นั่งรถกลับบ้านเมื่อวานมิวดูเบลอๆ ชอบกล”

“เราไม่รู้สิหญิง เราสับสน การที่เรามีความหวังแล้วเราผิดหวังมันทำร้ายเรามากเลยนะ กว่าเราจะกลับมาเป็นมิวในวันนี้ หญิงก็รู้ว่ามันยากมันนานขนาดไหน เรากลัว เรากลัวที่จะมีความหวัง เรากลัวการเริ่มต้น แต่อีกใจนึงเราก็อยากยอมรับมัน และอีกสิ่งหนึ่งที่เราคิดว่ามันน่ากลัวก็คือความไม่แน่นอน”

“ค่อยๆ คิดนะ มิวแล้วตอบตัวเองให้ได้ ถ้ามีรักย่อมมีหวังจำไว้ แต่ผลสรุปจะเป็นยังไงมันคือสิ่งที่เราต้องเผชิญ ไม่ใช่คาดเดาเอาเอง เราไม่รู้หรอกว่าวันหน้าจะเป็นยังไง แต่เราต้องรู้ว่าปัจจุบันเราจะทำอะไร เรารู้สึกอย่างไร แล้วก็ทำตามหัวใจตัวเองก็พอ”

“อืม ขอบใจนะหญิง”

“หญิงแค่ไม่อยากให้มิวเป็นเหมือนตอนนั้นอีก หญิงรู้ว่ามันไม่สนุกเลยที่ต้องอยู่กับความรู้สึกนั้น”

“แต่หญิงก็ผ่านมาได้”

“มิวเองก็เหมือนกัน ครั้งที่แล้วมิวผ่านมาได้ครั้งนี้มิวก็ต้องผ่านไปให้ได้”
มิวและหญิงยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น

“วันสัมภาษณ์วันไหนนะโต้ง” สุนีย์ถามก่อนออกไปทำงาน

“อีกสองวันน่ะแม่ วันจันทร์นี้แหละ”

“แล้วเตรียมตัวหรือยังล่ะ ทำอะไรให้พร้อมนะ ไม่ใช่มากระวีกระวาดก่อนไป”

“รู้แล้ว แม่ไม่ต่องห่วงหรอก”

“ก็ดีแล้ว เอ้อวันนี้จะไปไหนหรือเปล่า”

“ไม่อ่ะ ไม่แน่ใจ แต่คงไม่ไปมั้ง”

“อืมๆ ไปแล้ว” สุนีย์ขับรถออกไปทำงานตามปกติ โต้งเดินกลับมาเตรียมจะขึ้นบนบ้าน

“ขึ้นแล้วเหรอโต้ง พักนี้ขลุกอยู่ในห้อง เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์เหรอ”

“ก็ทำนองนั้นแหละพ่อ โต้งขึ้นแล้วนะ”

“เออ แล้วตกลงเรื่องงานเลี้ยงว่าไง”

“ยังไม่ได้คุยเลยพ่อ เดี๋ยวตอนเย็นบอกแล้วกัน เดี๋ยวไปข้างบนก่อนนะ”

“เออๆ ไปเถอะตั้งใจล่ะ”

โต้งเดินขึ้นห้องไป หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู กดเบอร์ไปเรื่อยๆ โทรถามเพื่อนกลุ่มเก่าๆ ของเขา ส่วนมากบอกว่าไม่ค่อยสะดวก ถ้าจะเลี้ยงฉลองให้ไปบ้านเขาดีกว่า โต้งจึงบอกไปว่าไม่เป็นไร แล้วค่อยว่ากันอีกที โทรไปจนหมดทุกคนจนมาถึงหญิงกับมิว โต้งเลือกที่จะโทรหามิว

“มิวเหรอ โต้งนะ”

“ว่าไงโต้ง มีอะไรหรือเปล่า”

“เอ่อไม่มีอะไรหรอก คือว่ามิวมาเที่ยวบ้านเราไหม”

“อะไรนะ ไปบ้านโต้งเหรอ” มิวถามอย่างแปลกใจ

“อืม พ่อเราเขาอยากฉลองที่เราสอบติดน่ะ พ่อบอกให้มาชวนมิวแล้วก็คนอื่นๆ ในวงมิว”
“เหรอ ยังไงเดี๋ยวเราไว้โทรไปบอกนะโต้ง ตอนนี้เราต้องไปทำงานน่ะ แล้วคุยกันนะ”
“อืม งั้นแค่นี้นะ” โต้งนอนลงทอดสายตาไปที่เพดานอย่างเหม่อลอย

มิวและเพื่อนๆ ในวงมีคิวให้สัมภาษณ์วันนี้ที่สถานีวิทยุแห่งหนึ่ง ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วเหลือมิวที่ยังง่วนกับโทรศัพท์
“เร็วๆ มิว เหลือ สปอตอีกสองตัวก็เข้าสัมภาษณ์แล้วนะ” ผู้จัดการวงเรียกมิวอย่างรีบร้อน
“ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละพี่” มิวกดส่งแมสเสจแล้วรีบร้อนเข้าห้องจัดรายการไป
เสียงแมสเสจดังขึ้นที่โทรศัพท์ของโต้ง โต้งหยิบขึ้นมาอ่าน
“วันนี้เราสัมภาษณ์วิทยุวันแรก ฟังด้วยนะโต้ง คลื่น….. นะ”
โต้งลุกจากเตียงอย่ารีบร้อนไปเปิดวิทยุคลื่นดังกล่าว

….. ผมเพชรครับ กีต้าร์ครับ
“และน้องคนนี้คนสุดท้าย แนะนำตัวเลยครับ”
“ผมมิวครับ ร้องนำครับ”
“ตอนนี้ก็รู้จักกันไปทุกคนแล้วนะครับ เยอะจริงๆ จำไม่หวัดไม่ไหวกันเลยทีเดียว”
“พี่ว่าเข้าคำถามสามัญประจำบ้านดีกว่าว่ามารวมกันได้ยังไง”
……………….(การสัมภาษณ์ต่อไปเรื่อยๆ)………………………..

“อ่ะมาถึงผลงานปัจจุบันบ้าง เพลงกันและกันที่เป็นซิงเกิ้ลแรกนี้ พี่ได้ข่าวว่ามิวเป็นคนแต่งเองเหมือนอีกหลายๆ เพลง แต่มันค่อนข้างพิเศษกว่าทุกเพลงนะพี่ว่า มันเหมือนมิวเขียนให้ใครเลยใช่ไหม”
“ใช่ครับ เพลงนี้ผมแต่งขึ้นจากแรงบันดาลใจจากใครคนนึงน่ะครับ”
“แล้วเพลงหวานซะขนาดนี้แปลว่ามิวมีแฟนแล้วสิครับ”
“ผมยังไม่มีแฟนครับ”
โต้งซึ่งฟังอยู่รู้สึกจุกที่คอ มิวก็พูดอะไรไม่ผิดนี่หน่า เพราะมิวยังไม่มีแฟนจริงๆ แต่โต้งก็รู้สึกแน่นในอกอย่างบอกไม่ถูก
“งั้นสาวๆ ยังมีสิทธิอยู่ เอาล่ะครับมาถึงช่วงสุดท้ายแล้วขอให้ตัวแทนฝากอะไรถึงแฟนเพลงหน่อย”
“ก็แฟนเพลงที่เคยฟังผลงานของพวกเรามาก่อนก็ขอให้รักกันต่อไปนะครับ ส่วนคนที่ไม่เคยฟังก็ขอให้ลองฟังดูแล้วกันครับ ยินดีทุกคำติชม แต่ชมเยอะๆ ก็ดีครับ” เอ็กซ์พูดทิ้งท้าย ทุกคนหัวเราะกันใหญ่
“งั้นช่วงนี้เราลาไปด้วยเพลงกันและกันเลยแล้วกันนะครับ ขอบคุณวงออกัสด้วยคร้าบบบบบ”
จบการสัมภาษณ์ทุกคนทยอยออกไปขึ้นรถตู้มิวกับเอ็กซ์เดินรั้งท้าย

“มึงแม่งสงสัยจะเป็นดาราแล้วว่ะ” เอ็กซ์บอกมิว
“ยังไงวะ”
“ก็มึงตอบ ผมยังไม่มีแฟนครับ 555 โครตเหมือนเลย ดีนะมึงไม่พูดว่ามีแต่เพื่อนสนิท”
“อ้าวกูพูดเรื่องจริงทั้งนั้น”
“แล้วไอ้เจ้าของเพลงกันและกันล่ะ” มิวนิ่งไปเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไป
“มันไม่ใช่อย่างนั้นแล้วล่ะ”
โต้งนอนฟังเพลงไปคิดไป ผมยังไม่มีแฟนครับ เสียงของมิวยังดังอยู่ในหัว ไม่กล้าตีความหมายของคำพูดนั้น
ก็เราเองไม่ใช่เหรอที่พูดอย่างนั้นไปเมื่อตอนคริสต์มาส แต่ตอนนี้อะไรๆ มันดีขึ้นแล้วนี่หน่า มิวยังรออยู่ไหมนะ สายตาแห่งความเหงาของโต้งมองไปที่ วิทยุอย่างเหม่อลอย

บนรถตู้มิวถามขึ้นมาว่าพ่อโต้งชวนไปปาร์ตี้ที่บ้าน เขาจะฉลองให้โต้งที่สอบติดใครจะไปมั่ง ส่วนมากต้องการพักผ่อนจึงไม่มีใครไป
“ถ้ามึงไปกูก็ไปแหละไอ้มิว กูไปเป็นเพื่อนมึง”
“แล้วมึงว่ากูควรไปไหมล่ะ”
“อ่าวไอ้นี่ แล้วมาถามกูได้วะ มึงอยากไปก็ไป”
“เอองั้นเดี๋ยวกูไปถามหญิงก่อน”
“งั้นหญิงไปได้ กูถึงไปนะ 555”
“อ่าวไอ้นี่ เห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อน”

มิวกลับมาบ้านจึงโทรไปถามหญิง “เดี๋ยวเราไปหาที่บ้านแล้วกันนะ”
“ไปก็ดีนะ ไหนๆ ก็จะเรียนที่เดียวกัน ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วด้วย ไปดูว่าโต้งหล่อขึ้นไหม”
“จะบ้าเหรอ เอาให้มันเป็นจริงเป็นจังหน่อยสิ ตกลงไปใช่ไหม”
“อืมไปเหอะมิว เผื่อมิวจะมีทางออกอะไรที่ดีกว่านี้ด้วย” หญิงพูดกับมิวด้วยสีหน้าและแววตาเป็นห่วง
“อืมๆ ไปก็ไปงั้นมีสามคนนะ หญิง เอ็กซ์ แล้วก็มิว”
“อะไรเนี่ย เอ็กซ์ไปด้วยเหรอ แย่ๆ กะว่าจะไปจีบโต้งซะหน่อย” หญิงพูดพลางหัวเราะให้มิวสบายใจขึ้น
“ทำเป็นเล่นไปเหอะ เดี๋ยวไอ้เอ็กซ์มันโกรธจริงแล้วจะเป็นเรื่อง” มิวดูผ่อนคลายขึ้น

หญิงกลับบ้านไปแล้ว มิวหยิบมือถือมาจะโทรหาโต้ง แต่เปลี่ยนใจส่งข้อความไปแทน
“ตกลงไปกันสามคนนะ มิว หญิง เอ็กซ์” โต้งอ่านข้อความในมือถือแล้วยิ้ม
แต่ทำไมมิวไม่โทรมานะ มิวไม่อยากคุยกับเราแล้วหรือเปล่า มิวเปลี่ยนไปแล้ว เพราะเหตุการณ์วันนั้น เพราะเราไม่ได้คุยกันตั้งนาน หรือมันเพราะอะไรกันแน่
…………………………………………………………………………………………..
วันรุ่งขึ้น
“ฮัลโหลหญิงเหรอ วันนี้ไปไหนหรือเปล่า ไปเจอกันที่สยามหน่อยสิ”
“ก็ว่างนะโต้ง มีอะไรเหรอ”
“ก็ไม่มีอะไร อยากหาคนคุยด้วยน่ะ เจอกันที่สยามบ่ายโมงนะ”
“อืม ได้ๆ ให้ชวนมิวไปด้วยไหม”
“เอ่อ.... ไม่เป็นไรหรอกเราอยากคุยกับหญิงมากกว่า”
หญิงทำหน้างงๆ นิดๆ แต่ก็พอคิดอะไรออก “แล้วเจอกันบ่ายโมงนะ ตรงน้ำพุแล้วกัน”
“โอเคงั้นแค่นี้นะ”โต้งวางสายไป หญิงทำหน้าคิดอะไรบางอย่างแล้วมองไปที่บ้านมิว

ลานน้ำพุที่สยาม
“ไงโต้งมานานหรือยัง”หญิงถามขณะที่กำลังวิ่งเข้ามา
“เพิ่งมาเมื่อกี๊เมื่อกัน”
“แล้วมีอะไรเหรอถึงชวนเรามา หรือว่าชวนมาเดท”
“ไปคุยที่ร้านไอติมดีกว่า เงียบดี”
“อืม ไปๆ” แล้วหญิงก็มาคล้องแขนโต้งเดินไปแบบทีเล่นทีจริง โต้งมองหญิงแล้วยิ้มๆ
“โต้ง” มีเสียงๆ หนึ่งเรียกมาจากด้านหลังของทั้งสองคน
“โดนัท” โต้งทำหน้าตกใจเล็กน้อยที่หันมาเจอโดนัทมากับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง
“นี่แฟนใหม่เหรอ คบกันตั้งแต่ที่เมื่อไหร่ล่ะ คงไม่ใช่เมื่อคริสต์มาสที่ผ่านมานะ”
หญิงเริ่มรู้สึกตัว กระวีกระวาดเอาแขนออกจากแขนโต้ง
“ป่าว นี่เพื่อนน่ะ ชื่อหญิง หญิงนี่เพื่อนเราชื่อโดนัท เราไปก่อนนะโดนัท โชคดีนะ” โต้งบอกลาแล้วหันหลังเดินต่อไป หญิงผงกหัวยิ้มแหยๆเป็นการลาแล้ววิ่งตามโต้งไป
“คนนี้เหรอแฟนโต้งน่ะ สวยนะ”
“ก็เคยคบกัน”
“อืมๆ ถึงและเข้าไปกันเถอะ” ถึงร้านพอดีและหญิงก็ไม่อยากซักไซร้อะไรให้มากความ

“ตกลงโต้งมีอะไรจะคุยกับเราเหรอ” หญิงพูดไปพลางตักไอศกรีมกินไป
“อ๋อ ตกลงเรื่องปาร์ตี้น่ะ พรุ่งนี้ว่างไหมไปกินข้าวเย็นที่บ้านโต้งแล้วกัน ไม่มีใครมามากก็จัดเล็กๆ”
“ก็ช่วงเช้ามีสอบสัมภาษณ์ นะถ้ามื้อเย็นก็พอได้ โต้งบอกมิวหรือยังไม่รู้มิวมีคิวซ้อมหรือเปล่า”
“ยังหรอกกะฝากให้หญิงไปบอกด้วย” โต้งก้มหน้าตาบอกหญิง
“โต้งมีอะไรกับมิวหรือเปล่า ทำไมไม่คุยกัน” หญิงถามพลางจ้องหน้าโต้ง
“เราไม่รู้จะคุยยังไงน่ะ เราทำตัวไม่ถูก เราไม่รู้ว่ามิวคิดยังไง เหมือนว่ามิวไม่ค่อยอยากจะคุยกับเราเท่าไหร่”
“ทำไมคิดอย่างงั้นล่ะ มิวบอกเหรอ”
“ก็ป่าวหรอก เหมือนความรู้สึกมันดูห่างๆ กันน่ะ”
“ถ้ายังไม่รู้จริงก็อย่าเพิ่งคิดไปไกลสิ คิดมากเกินไปก็ไม่ดีนะ เครียดเปล่าๆ” หญิงทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เออโต้งยืมโทรศัพท์หน่อยสิ ของเราแบตหมดน่ะจะโทรหาที่บ้านซักหน่อย” หญิงทำสีหน้าอ้อนวอน
“อืม เอาสิ” โต้งตอบพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ หญิงรับไปกดเบอร์อย่างรวดเร็ว
“ฮัลโหล” เสียงปลายสายตอบรับโทรศัพท์ หญิงรีบยื่นโทรศัพท์คืนให้โต้ง ทำท่าทำทางบอกให้โต้งคุยแล้ววิ่งหนีออกไปนอกร้าน โต้งรับโทรศัพท์มาอย่างงงๆ ดูที่โทรศัพท์ปรากฏว่าเป็นชื่อมิว โต้งขมวดคิ้วเล็กน้อยมองหาหญิงแต่ก็ไม่เห็นแล้ว
“เอ่อ… มิวเหรอสบายดีไหม”
“ก็เรื่อยๆ แหละ มีอะไรเหรอโต้ง”
“ตกลงเรื่องงานน่ะ เป็นมื้อเย็นพรุ่งนี้นะ ช่วงเช้าเราไปสอบสัมภาษณ์แล้วช่วงบ่ายๆ ค่อยเจอกันที่สยามดีไหม”
“ตามนั้นก็ได้นะ เราสบายๆ อยู่แล้วเพราะพรุ่งนี้ พวกมิวก็ไปที่จุฬาอยู่แล้วล่ะ”
“แล้วมิวต้องรีบกลับไปซ้อมหรือเปล่า”
“เอ่อ… ไม่มีหรอกพรุ่งนี้ไม่มีซ้อมน่ะ”
“เหรองั้นพรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะ”
“อืม ได้ๆแล้วเดี๋ยวไปถึงสยามแล้วโทรหาอีกทีนะ โต้ง….”
“ว่าไงมิว ฟังอยู่”
“เอ่อไม่มีอะไรหรอกแล้วเจอกันแล้วกัน” มิววางสายไป ยิ้มด้วยความดีใจ จากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาผู้จัดการวง “พี่ครับวันพรุ่งนี้ผมขอลาวันนึงนะครับ ไปซ้อมไม่ได้จริงๆมีธุระด่วนมากๆเลยครับ นะนะนะนะครับผม ขอโทษจริงๆ ครับเดี๋ยววันอื่นผมไปซ้อมให้สองเท่าเลย ขอบคุณครับพี่ ขอบคุณมากๆ เลยครับ”
โต้งทำหน้างงๆ เดินไปจ่ายค่าไอศกรีม และเดินออกมาหน้าร้านมองหาหญิงอีกครั้งแต่ไม่เจอ โต้งยิ้มและเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน

ตกลงพรุ่งนี้นะแม่ นัดเพื่อนไปแล้วมากันสามคน เดี๋ยวกลับจากมหาลัยก็มาพร้อมกันเลย”
“อืม บอกแล้วว่าอย่าบอกกระชั้นชิดยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย”
“ไม่ต้องเตรียมอะไรมากหรอกแม่ มีกันแค่หกคน กินข้าวง่ายๆ ก็พอแล้ว”
“อืมก็ดีนะคุณ คนน้อยๆ ไม่วุ่นวายดีด้วยแล้วตกลงใครมามั่งล่ะ” กรถามอมยิ้มอย่างมีความสุข
“ก็มี…มิว เอ็กซ์ แล้วก็หญิง”
“เอ็กซ์กับหญิงนี่ใครนะ” กรถามด้วยความสงสัย
“เอ็กซ์เป็นกีตาร์วงมิว แล้วหญิงก็เพื่อนข้างบ้านมิว ที่ย้ายมาอยู่บ้านเก่าเราน่ะ”
“อ้อ ดีๆ น่าสนุกนะงานนี้ คุณว่าเราทำอะไรกินกันดีล่ะ บาร์บีคิวดีไหมไม่ได้กินกันตั้งนานแล้วนะ”
“แล้วแต่เลยค่ะ ฉันยังไงก็ได้ เราว่าไงโต้ง” สุนีย์ถาม
“ก็แล้วแต่แม่เลย ตามใจพ่อกับแม่แล้วกัน”

“ไงมิววันนี้โต้งโทรมานัดหรือยัง”
“อืมโทรมาแล้ว รู้ได้ไงว่าโต้งจะโทรมาวันนี้ โต้งโทรไปบอกแล้วเหรอ”
“อ๋อเปล่าหรอก ก็เห็นว่าตอบรับว่าไปแล้ว เลยถามเฉยๆว่าโทรมาบอกวันหรือยัง” หญิงตอบทำหน้าตาเลิ่กลั่กพร้อมหัวเราะกลบเกลื่อน
“ก็บอกให้ไปวันพรุ่งนี้นะ ไหนๆ เราก็ไปที่มหาลัยอยู่แล้วก็ไปเจอกันที่สยามเลย” มิวมองหญิงทำหน้าสงสัย
“เหรอๆ งั้นตามนั้นหญิงกลับบ้านก่อนนะ” หญิงลุกพรวดพราดไปจนชนที่วางหมวกหญิงหันมาหัวเราะแหะๆ แล้ววิ่งออกนอกประตูไป
มิวทำหน้างงๆ แล้วยิ้มแบบแปลกใจ
…………………………………………………………………………………………..

วันรุ่งขึ้นที่จุฬาการสอบสัมภาษณ์ของทั้งสามคนผ่านไปด้วยดี ยกเว้นมิวที่ไม่ต้องสอบแล้ว หลังจากสอบสัมภาษณ์เสร็จก็มีกิจกรรมกับรุ่นพี่เล็กน้อย เอ็กซ์กับหญิงไปถึงสยามก่อนจึงโทรมิวกับโต้ง
“อืมเรากำลังไป รุ่นพี่ไม่ยอมปล่อยให้ไปเลย กำลังหาทางชิ่งอยู่” โต้งตอบ “แค่นี้ก่อนนะเค้าปล่อยไปกินข้าแล้ว แล้วเจอกัน”
โต้งทำทีจะไปเข้าห้องน้ำก่อนไปกินข้าวกับรุ่นพี่และเพื่อนๆ แต่ก็แอบแว่บหนีไปสยามทันที

“อ๋อกูอยู่ที่ร้านค้าน่ะ กูดูของอยู่แป๊บเดียวเดี๋ยวกูไปหา มึงอย่าบ่นได้ไหม เดินอยู่กับหญิงไม่ใช่เหรอ โอเคๆ เดี๋ยวเจอกัน”
มิวเดินดูตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆ สำหรับแขวนกระเป๋าจนไปเจอตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลถือไมค์ร้องเพลงอยู่ มิวหยิบขึ้นมาดูแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“พี่ครับๆ ตัวนี้ไม่มีราคาติดอยู่ ตัวนี้เท่าไหร่ครับ”
“อ๋อตัวนั้นพี่ทำไว้โชว์น่ะ มีตัวเดียวด้วย ผ้าแบบนั้นยังไม่มีผลิตออกมาพี่เลยทำเล่นไว้ ลองดูตัวอื่นดีกว่าไหม”
มิวทำหน้าจ๋อย เจ้าของร้านเห็นก็เริ่มสงสาร และจำได้ “น้อง น้องใช่คนที่ร้องเพลงกันและกันหรือเปล่า น้องใช่นักร้องวงนั้นหรือเปล่า ใส่ชุดนักเรียนที่จำไม่ได้เลย พีชอบเพลงของน้องมากนะ”
“ครับ ขอบคุณครับ” มิววางตุ๊กตาหมีลงไว้ที่เดิม แต่สายตายังคงมองไปที่ตุ๊กตาอยู่อย่างอาลัยอาวรณ์ จากนั้นจึงตัดใจกำลังจะเดินออกจากร้านไป เจ้าของร้านตะโกนตามมา
“เอางี้ ตัวนี้น่ะพี่ให้ เพราะไม่รู้จะตั้งราคายังไง แต่พี่ให้น้องถ่ายรูปคู่กับตุ๊กตา ถ่ายคู่กับพี่ แล้วเซ็นต์ลายเซ็นต์ให้หน่อยแล้วกันนะพี่จะได้เอาไว้ติดที่ร้าน”
“ขอบคุณครับพี่ ได้เลยครับ ถ่ายกี่รูปก็ได้เลยครับพี่” มิวตอบพลางกระโดดยิ้มดีใจ
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ พี่ก็เอาตุ๊กตาหมีมาให้
“เอานี่ พี่เย็บชื่อไว้ให้ที่ใต้เท้าหมีตามที่น้องมิวบอกแล้วนะ แล้ววันหลังแวะมาที่ร้านพี่อีกล่ะ”
“ขอบคุณครับพี่” มิวยกมือไหว้ รับตุ๊กตามา ยิ้มแล้ววิ่งออกไปจากร้าน

“ไปไหนมาตั้งนานวะไอ้มิว กูรอจนรากจะงอกติดม้านั่งแล้วเนี่ย”
“มึงนี่อะไรวะ ขี้บ่น อย่างกับคนแก่”
“เอาน่าๆ พอเหอะเถียงกันอยู่ได้ ยังไงก็ต้องรอโต้งอยู่ดี” หญิงสงบศึกสงครามฝีปากลงได้ทันเหตุการณ์
“โทดทีนะที่ให้รอ กว่าจะหลุดมาได้” โต้งบอกพร้อมหอบไปด้วยเนื่องจากวิ่งมา
“ไม่เป็นไรหรอกเข้าใจ หนุ่มหล่อก็มีรุ่นพี่มาติด” หญิงกระเซ้าเอ็กซ์สะกิดแขนหญิงเหมือนเตือนว่าชั้นยืนอยู่นี่นะ
“แล้วมากันครบหรือยัง มิวล่ะ” โต้งถามพร้อมกวาดสายตาไปรอบๆ มองมิว พบว่ามิวกำลังอยู่ห่างออกไปอีกพอควรพร้อมกับกลุ่มนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งที่กำลังพัลวันถ่ายรูป ให้ของขวัญและขอลายเซ็นมิวอยู่ มิวเองก็หัวเราะมีความสุขอยู่ตรงนั้นในมือมีดอกไม้ ตุ๊กตาและก็การ์ดอยู่รวมๆก็สี่ห้าชิ้น พอดีกับนักเรียนกลุ่มนั้น โต้งมองมิวอย่างไม่ละสายตา เขาคิดว่าตอนนี้มิวเหมือนอยู่ไกลเขาเหลือเกิน ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ อาจจะรวมถึงตัวมิวเองด้วย โต้งยืนมองมิวอยู่อย่างนั้นด้วยหัวใจที่สับสนและหวาดกลัว

“อ้าว มาแล้วเหรอ เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับของขวัญนะ” มิวกล่าวลากลุ่มแฟนเพลงของเขาแล้ววิ่งเข้ามาหาเพื่อนๆ ที่รออยู่ “ไปกันเลยเถอะ เดี๋ยวจะเย็นมากไม่ได้ช่วยงานอะไรเลยพอดี” มิวบอกพลางมองหน้าโต้ง โต้งยิ้มให้เล็กน้อย มิวยิ้มตอบ ทั้งคู่มองตากันอยู่ครู่หนึงก่อนที่โต้งจะบอกว่า “เราไปเรียกแท็กซี่กันเถอะ”
ทั้ง 4 คนจึงเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ ให้หญิงนั่งหน้า มิวเข้าไปด้านหลังคนแรก โต้งยืนรอให้เอ็กซ์เข้าไปนั่งก่อน
“เข้าไปเลยโต้ง เราไม่ชอบนั่งกลางว่ะ อึดอัด ไม่อยากเบียดกะไอ้มิว” เอ็กซ์พูดกวนๆ หันไปมองหน้าหญิงแล้วยักคิ้วให้ เอ็กซ์ดันโต้งให้ขึ้นรถไป โต้งจึงเข้าไปนั่งข้างมิว โต้งมองหน้ามิวเหมือนมีอะไรอยากจะพูดด้วย มิวที่มองไปนอกกระจกอยู่หันมาเห็นประสานตากับโต้งพอดีก็ตกใจเล็กน้อย โต้งเลยแก้เก้อด้วยการหันไปชวนหญิงคุย มิวเศร้าลงทักทีโดยไม่มีใครสังเกตเห็น

“แล้วพอเอ็กซ์มาบ้านมิวบ่อยๆ หญิงก็เลยจีบเอ็กซ์ซะเลย” หญิงที่ชวนคุยมาตลอดทาง พูดพลางหัวเราะ
“เอาให้มันน้อยๆหน่อยครับ คุณผู้หญิง เดี๋ยวโต้งก็เข้าใจผิดหมด” เอ็กซ์บอกทำเสียงปรามๆ
“ไม่เป็นไรหรอก สนุกดี” โต้งตอบเอ็กซ์ยิ้มๆ
“ไอ้มิว มึงเป็นใบ้เหรอวะ ไม่พูดอะไรเลยตลอดทาง”
“กูคิดอะไรเพลินๆ อยู่ มึงนี่หาเรื่องกูจัง” มิวหันไปว่าเอ็กซ์ทำให้หันมาเจอโต้งพอดี มิวนิ่งไปพักนึง
“ตกลงโต้งเรียนอะไรนะ” มิวถามแก้เก้อ
“อ๋อ นิเทศน์น่ะ สาขาวิชาภาพยนตร์ มิวล่ะ สาขาไหน”
“สาขาดุริยางคศิลป์ตะวันตกน่ะ”
“ก็ดี ได้เรียนแบบที่มิวชอบพอดี”
“อืม เรียนในแบบที่ชอบ” มิวตอบโต้งไปสายตายังคงมองกันอยู่
รถมาจอดถึงบ้านโต้งพอดี
ทุกคนทักทายพ่อโต้งที่ออกมารับหน้าประตูบ้าน
“น้านีย์ล่ะครับ” มิวถาม
“อ๋อเตรียมอะไรอยู่ในครัวแหละ เข้ามากินน้ำกินท่ากันก่อน อีกเดี๋ยวก็เสร็จ” กรเรียกเด็กๆ เข้าบ้าน “เดี๋ยวโต้งไปติดเตานะ พ่อจะยกของออกมาให้”
“ได้พ่อ เดี๋ยวขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ”
“เออ หนูคนนี้น่ารักดีนะ แฟนมิวเหรอได้ข่าวว่าบ้านอยู่ใกล้กัน”
“ไม่ใช่ค่ะ หนูกับมิวเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ น่ะค่ะ”
“อ๋อ ขอโทษที เห็นมิวเขาหล่อแล้วก็เป็นนักร้อง นึกว่าจะมีแฟนมาด้วยซะอีก”
“แฟนหญิง ก็อยู่หน้าบ้านนั่นไงพ่อ” โต้งพยักหน้าไปทางเอ็กซี่ยืนอยู่หน้าประตู เอ็กซ์ยิ้มเขินๆ
“แล้วโต้งกับมิวยังไม่มีแฟนเหรอ” กรถามต่อ
มิวก้มหน้าก้มตาไม่ตอบอะไร
“พ่อถามอะไรเนี่ย ไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ” แล้วโต้งก็วิ่งขึ้นบ้านไปเปลี่ยนชุด
“ครัวไปทางไหนคะ เดี๋ยวหนูไปช่วยในครัวดีกว่า” หญิงขันอาสา
“ทางโน้นแน่ะ เดี๋ยวโต้งลงมาค่อยให้พาไปแล้วกัน หนูนั่งเล่นไปก่อน แล้วเราชื่ออะไรนะ”
“เอ็กซ์ครับ” เออเอ็กซ์ไปช่วยน้ายกของหน่อยแล้วกัน “ได้ครับ”

มิวกับหญิงไปนั่งรอในตัวบ้าน
“ดังแล้วนะเนี่ย มีแฟนคลับให้ของด้วย” หญิงพูดชมเชิงล้อ
“อะไรกัน นิดหน่อยน่า” มิวตอบเขินๆ
“ตุ๊กตานี่น่ารักจังเลย เด็กคนไหนให้เนี่ย มิวต้องเทคแคร์แฟนเพลงคนนี้มากๆ นะ ทำให้ขนาดนี้เลย มีชื่อมิวติดอยู่ด้วย”
“อันนี้ไม่ใช่หรอก เราไปเดินดูมาก่อนมาเจอหญิงนั่นแหละ”
“เหรอ น่ารักดีนะ ผ้าที่เอามาทำตุ๊กตาก็แปลกดี”
“เหลือตัวเดียวในร้านด้วย”
โต้งเดินลงมาพอดีพร้อมเสื้อและกางเกงสองชุด
“เผื่อใครอยากจะเปลี่ยนน่ะ”
“ไม่เห็นเอามาเผื่อหญิงเลยโต้ง”
“เฮ้ย หญิงจะใส่เสื้อผ้าผู้ชายเหรอ”
“ล้อเล่นน่า โต้งนี่ตลกดีเนอะมิวเนอะ”
“อืมๆ” มิวตอบแบบเขินๆ

มิวขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องโต้ง ก็เห็น CD ที่เคยไรท์ให้วางอยู่ในซอง CD สีเขียว มีลายมือเขียนที่ปกว่า เพลงของมิว วางอยู่ที่บนเตียง มิวยิ้มปลื้มใจ จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ลงไปข้างล่าง เอ็กซ์จึงขึ้นไปเปลี่ยนบ้าง

มิวเดินออกไปที่สนามหน้าบ้านเห็นโต้งกำลังจุดไฟเตาย่างอยู่ มิวเดินเข้าไปเพื่อจะช่วย
“มีอะไรให้ช่วยไหม” มิวเดินเข้าไปหา
“งั้นมิวคอยดูนะว่าไฟติดไหมแล้วเอาถ่านใส่เข้าไป”
“ติดแล้วๆ โอเคแล้วล่ะถ่านติดหมดแล้ว” มิวบอก “หน้าเปื้อนแน่ะโต้ง”
“เหรอเปื้อนตรงไหนอ่ะ เยอะมั้ย”
“ก็เยอะอยู่นะ ทั้งหน้าผากทั้งแก้ม” โต้งทำหน้าเหรอหลาเอาหลังมือเช็ด “มือก็เปื้อนอยู่เช็ดมันคงจะหมดหรอกนะ” มิวพูดพลางหัวเราะนิดๆ ไปล้างหน้าล้างมือเถอะเดี๋ยวจะได้ลงมือกัน
“อืม มิวก็ไปล้างสิ มือมิวก็เปื้อน” มิวก้มมองมือตัวเองที่เปื้อนเหมือนกัน จึงลุกขึ้นไปล้างมือพร้อมโต้งที่ห้องครัว

“แม่ อ้าวสงสัยออกไปแล้วมั้ง” โต้งบอกแล้วหันไปคุยกับมิว
“งั้นเปิดเองก็ได้เดี๋ยวก็ล้างก๊อกเอา” มิวและโต้งล้างมืออยู่ข้างๆ กันโดยใช้ก๊อกคนละอัน มิวล้างเสร็จก่อนเพราะมิวล้างแต่มืออย่างเดียว เหลือแต่โต้งที่ต้องล้างหน้าด้วย มิวจึงยืนคอยอยู่ข้างๆ
“หมดยังอ่ะมิว” โต้งเงยหน้ามาให้มิวดู
“ยังเหลือที่ด้านขวาอีกหน่อย” มิวชี้บอกห่างๆ โต้งเอามือเช็ดหน้าแบบถูๆไปทั่วๆ
“หมดยังอ่ะมิว” โต้งถูไปพลางถามไป
“มาๆ เดี๋ยวเช็ดออกให้” มิวเดินไปใกล้ๆ โต้งพร้อมหยิบทิชชู่มาจากบนโต๊ะ
มิวมองที่รอยเปื้อนด้านล่างแก้มขวาของโต้งแล้วค่อยๆ เช็ด โต้งมองหน้ามิวอยู่โดนตลอดจนมิวรู้สึกตัวจะผลักตัวออก “เสร็จแล้ว…” โต้งคว้ามิวเข้ามากอดไว้ มิวอึ้งอยู่พักนึงแล้วกอดตอบ โต้งน้ำตาไหลออกมาโดยไม่พูดอะไร มิวน้ำตาคลอตาม ครู่หนึ่งมิวตั้งสติได้ก่อนจึงแกะแขนโต้งออกเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกไปก่อน

“โต้งมากินข้าวลูก” เสียงกรเรียก โต้งล้างหน้าอีกครั้งแล้ววิ่งตามออกไป
ที่สนามหน้าบ้านทุกคนอยู่ครบแล้ว มิวนั่งคุยอยู่กับกับสุนีย์และกรเรื่องอาม่า เรื่องการเรียน และเรื่องที่ได้เป็นนักร้อง หญิงกับเอ็กซ์ช่วยกันปิ้งบาร์บีคิวอยู่ที่เตาถัดไปไม่ไกล
“แล้วมิวอยู่ยังไงคนเดียว ไม่เหงาเหรอ” กรถามคำถามแทงใจมิว
“เหงาครับ ผมคิดถึงอาม่าอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังเหงา เล่นดนตรี แต่งเพลงไปเรื่อยเปื่อย แล้วหลังๆ มาทำอัลบั้มก็ทำให้มีอะไรทำมากขึ้น เลยไม่ค่อยคิดมากเหมือนเก่า”
สุนีย์มองหน้ามิวก็ถอนหายใจ “แต่มันก็ทำให้มิวเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทำให้มิวเข้มแข็งขึ้น”
“ก็คงงั้นมั้งครับ ผมก็ไม่แน่ใจ”
“ถ้าเหงาๆ ว่างๆ ก็มาเล่นที่บ้านน้าก็ได้ ตอนเด็กๆ เจ้าโต้งก็ไปค้างกับมิวอยู่บ่อยๆ” กรบอกมิวพลางตบไหล่
“ครับ” มิวตอบอย่างไม่เต็มคำ
โต้งเดินไปปิ้งบาร์บีคิวด้วยท่าทางลอยๆ ตาเหม่อไปที่มิวบ่อยครั้ง
“ไหม้แล้วโต้ง รีบๆ กลับสิ ไม่ดูเลยเสียดายของ” สุนีย์เดินเข้ามาช่วยที่เตา “กินเยอะๆ นะหนูสองคน ไม่ต้องเกรงใจ”แล้วสุนีย์ก็เดินกลับไปหากรในบ้าน มิวเดินเข้ามาสมทบที่เตาคุยกับเอ็กซ์กับหญิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


(โปรดติดตามตอนต่อไป)



Create Date : 18 ธันวาคม 2550
Last Update : 18 ธันวาคม 2550 15:59:47 น. 0 comments
Counter : 1637 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

K_chang
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เฟิร์นคับ เป็นคนภูเก็ต แต่ต้องมาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ งานอดิเรกก็มีบ้าง แต่ที่ติดอยู่ตอนนี้คือการทำบล็อก
และก็คงจะไม่เลิกง่ายๆซะด้วย

ยินดีต้อนรับเข้าสู่K_chang BLOG นะคับ…
Kittipong Jarusathorn
Instagram

Google
free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add K_chang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.