Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
รักแห่งสยาม (เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากหนัง) ตอนที่1

หมายเหตุ

บทความเหล่านี้ มาจากกระแสความดังของหนังเรื่องรักแห่งสยาม เนื้อหาที่ท่านจะได้อ่านต่อจากนี้ ผมได้รับเรื่องเหล่านี้จากการดาวน์โหลดไฟล์มา และเห็นว่า ยังไม่เคยมีใครเอามาลงให้อ่านกัน จึงนำมาเสนอเพื่อนๆนะคับ ถ้าใครบอกได้ว่าใครเป็นผู้ที่แต่งเรื่องนี้ขึ้น ก็มาบอกได้ทางคอมเมนต์นะคับ ถ้าหากคุณไม่พอใจกับการที่ผมเอาเรื่องนี้มาให้อ่านก็ขออภัยนะคับ






หลังจากงานวันคริสมาสต์ โต้งและมิวต่างก็แยกย้ายกันไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง

- โต้งหันมาให้ความสำคัญและความสนใจกับครอบครัวของเขามากขึ้น กรค่อยๆ เลิกกินเหล้า กินยาจนอาการดีขึ้นมาก และได้ช่วยทำงานบ้านแทนสุนีย์ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน โต้งไปเรียนตามปกติตกเย็นก็เรียนพิเศษหลังจากนั้นก็จะกลับบ้านทันทีเพื่อไปช่วยเหลืองานบ้านและนั่งสนทนากันภายในครอบครัว ความรักความอบอุ่นค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในครอบครัวนี้อีกครั้งจนบ้านเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น และกรก็ยอมรับได้แล้วว่าขณะนี้ในบ้านเหลือเพียงสามคนเท่านั้น

- มิวหลังจากงานคอนเสิร์ตมิวเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นพร้อมๆกับวงออกัส มีค่ายเพลงยักษ์ใหญ่เข้ามาทาบทามติดต่อโดยยงคงให้วงออกัสทำงานเพลงเองในสไตล์ของตัวเองแต่ทางค่ายจะรับหน้าที่วางงาน โปรโมทและจัดการเรื่องต่างๆ ที่นอกเหนือจากเรื่องดนตรีให้ วงออกัสมีแน้วโน้มในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับจิตใจของมิว หลังผ่านเหตุการณ์ที่โต้งมอบของขวัญให้มามิวกลายเป็นคนเงียบกว่าเดิมจนทำให้เพื่อนๆในวงเป็นห่วงมาก เอ็กซ์มักจะคอยอยู่เป็นเพื่อนมิวตลอดเวลา ไปค้างที่บ้านบ้างเป็นบางครั้งคราวทำให้จิตใจของมิวดีขึ้น เริ่มเปิดใจให้กับคนอื่นมากขึ้น ประจวบกับที่มีหน้าที่ที่ต้องทำเรื่องของโต้งจึงค่อยๆ เลือนหายไป ไม่มารบกวนจิตใจของมิวมากนัก
ผ่านไปประมาณ 1 ปี โต้งสอบติดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสาขานิเทศศาสตร์โดยเลือกสาขาการสื่อสาร ที่บ้านของโต้งดีใจมากกับการที่โต้งสอบติดเลยจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ ขึ้นในบ้าน ด้วยมื้อเช้าที่พิเศษ
“แล้วชัวร์หรือยัง ดูจากอินเตอร์เน็ตมันจะมั่นใจได้เหรอเดี๋ยวขับรถไปดูบอร์ดที่เกษตรอีกทีไหมโต้ง” สุนีย์กล่าว
“โถ่แม่ เขาบอกว่าติดก็ติดสิ แต่ยังไงเดี๋ยวเรากินข้าวเสร็จแล้วโต้งจะไปดูอีกที”
“คุณนี่ก็ยังไงนะ เจ้าโต้งมันตั้งในเรียนจะตายมันก็ต้องติดสิใช่มั้ยโต้ง”
“ครับพ่อ โต้งก็ว่างั้น” โต้งทำหน้ามัดใจปนทะเล้นใส่ ทุกคนก็หัวเราะกันออกมา

“ไปก่อนนะพ่อ แม่”
“ไม่ให้แม่ไปส่งจริงๆ เหรอ”
“ไปได้น่าแม่ โต้งจะเข้ามหาลัยแล้วนะ เดี๋ยวก็โดนบอกว่าเป็นลูกแหง่อีก”
“เออ ก็ไปให้ดีๆ แล้วกัน แล้วอย่าไปเล่นอะไรมากมาย แล้วก็รีบกลับด้วยเข้าใจไหม”
“ไปได้แล้วโต้ง ยิ่งอยู่แม่แกก็ยิ่งพูดไปเรื่อยนั่นและ”





“งั้นผมไปล่ะ”
โต้งก็ออกไปนั่งรถแท็กซี่เพื่อไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สถานที่สำหรับประกาศผลผู้ผ่านการสอบเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย

“พี่ๆ ผมขอเปลี่ยนคลื่นวิทยุนะ” คนขับรถไม่ว่าอะไร ได้แต่พยักหน้าตอบไปเท่านั้น โต้งจึงนั่งฟังเพลงไปเรื่อยๆ ซักพัก
…. “วันที่ผมขอเปิดผลงานชิ้นแรกของวงดนตรีน้องใหม่ของค่ายเราให้ได้รับฟังกันนะครับ ผมว่าความจริงแล้วบางคนอาจเคยได้ยินเพลงนี้แล้วด้วยซ้ำ ถ้าใครเคยติดตามผลงานของศิลปินกลุ่มนี้ตั้งแต่เริ่มออกเป็นแนวอินดี้มาก่อนครับ ฟังที่นี่เป็นที่แรกเลยนะครับ”
เสียงเมโลดี้ที่คุ้นเคยผ่านเข้ามาในหูของโต้งจนโต้งหยุดและตั้งใจฟัง

~ ~ ถ้าบอกว่าเพลงนี้ แต่งให้เธอ เธอจะเชื่อไหม
มันอาจไม่เพราะ ไม่ซึ้งไม่สวยงามเหมือนเพลงทั่วไป

อยากให้รู้ ว่าเพลงรัก ถ้าไม่รัก ก็เขียนไม่ได้
แต่กับเธอคนดีรู้ไหม ฉันเขียนอย่างง่าย...ดาย

เธอคงเคยได้ยินเพลงรักมานับร้อยพัน
มันอาจจะโดนใจ แต่ก็มีความหมายเหมือนๆกัน

แต่ถ้าเธอฟังเพลงนี้ เพลงที่เขียนเพื่อเธอเท่านั้น
เพื่อเธอเข้าใจความหมายแล้วใจจะได้มีกันและกัน

มีความจริงอยู่ในความรักตั้งมากมาย
และที่ผ่านมาฉันใช้เวลาเพื่อหาความหมาย

แต่ไม่นานก็เพิ่งรู้ เมื่อทุกครั้งที่มีเธอใกล้
ว่าถ้าชีวิตคือทำนอง เธอก็เป็นดังคำร้องที่เพราะและซึ้งจับใจ

ให้มันเป็นเพลง บนทางเดินเคียง ที่จะมีเพียงเสียงเธอกับฉัน
อยู่ด้วยกันตราบนานๆ ดั่งในใจความบอกในกวีว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง
คือทุกครั้งที่รักของเธอส่องใจ ฉันมีปลายทาง

มีทางเดินให้เราเดินเคียง และมีเสียงของเธอกับฉัน
มีทางเดินให้เราเดินร่วมเคียง และมีเสียงของเธอกับฉัน ~ ~



"นี่เป็นผลงานชิ้นแรกของวงออกัสน้องใหม่มาแรงของค่ายเราครับ คือเพลงกันและกัน มีคนเล่าให้ฟังว่าเพลงนี้มีที่มาที่ไปเดี๋ยวยังไงในวันแถลงข่าวซึ่งผมได้รับไปเป็นพิธีกร (หัวเราะ) ผมจะถามเรื่องนี้มาให้ด้วยแล้วกันนะรับท่านผู้ฟัง และหลังจากงานแถลงข่าวเราจะได้พบกับพวกเขาทุกคนที่คลื่นของเราอย่างแน่นอนครับ"

โต้งอึ้งไปชั่วครู่ ภาพความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในสมองของเขา ภาพห้องของมิว ภาพคอนเสิร์ตในงานปาร์ตี้ ภาพคอนเสิร์ตในวันคริสมาสต์ปีที่ผ่านมา ต่างไหลเข้ามาในสมองเขาอีกครั้งหลังจากที่เขาลืมไปมันไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง มียิ้มเล็กๆ ขึ้นมาบนใบหน้าของเขา โต้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหารายชื่อจนมาถึงชื่อ มิว เขานั่งนิ่งมองชื่อนั้นอยู่ครู่หนึ่ง
“น้องๆ จะให้พี่เข้าไปเลยไหมหรือว่าลงข้างนอก รถมันเยอะน่ะนะเป็นไปได้จริงๆ พี่ก็ไม่อยากเข้าไปเท่าไหร่ กว่าจะเข้ากว่าจะออก ให้พี่ไปหากินต่อดีกว่าไหมน้อง พี่คิดว่าถ้าน้องเดินเข้าไปมันน่าจะไวกว่าพี่ขับเข้าไปอีกมั้ง…”
“พี่ พี่ พี่ครับ” โต้งเรียกเสียงดัง “เดี๋ยวผมลงตรงนี้แหละ ผมเดินเข้าไปเอง นี่ตังค์ครับ”
โต้งลงจากแท็กซี่เก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินเข้าไปในตัวมหาวิทยาลัย

เสียงจากกลุ่มและซุ้มต่างๆ ดังมาไม่ขาดระยะ โต้งเดินเข้าไปหาบอร์ดของมหาวิทยาลัยและคณะที่ตนเองเลือกไว้ ไม่นานก็เจอชื่อตัวเอง เพราะว่ารู้อยู่แล้ว โต้งยิ้มนิดๆ จากนั้นก็มีรุ่นพี่เดินเข้ามาล้อมโต้งถามโน่นถามนี่ ชื่ออะไรน้อง ติดไหม เอกไหน คณะไหน พร้อมกับเสียงแซวของรุ่นพี่ผุ้หญิงและรุ่นพี่กระเทยไม่ขาดระยะ น้องคนนี้หล่อจังรู้จักทางไปมหาลัยไหม เด๋วไปพาไปส่ง และก็ส่งเสียงหัวเราะกันอย่างดัง โต้งทำหน้างงๆ แล้วก็ยิ้มเจื่อนๆ ออกมา
“ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับพี่ ปวดฉี่มากทนไม่ไหวแล้ว” โต้งหาทางเลี่ยงสุดชีวิต แล้วก็หลุดมาได้ “ต้องกลับมานะน้องโต้งไม่กลับมาเจอกันที่มหาลัยพี่หอมแก้มแน่เลยนะ” รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนไล่หลังมา โต้งหันไปยิ้มเจื่อนๆให้

จากนั้นโต้งก็เดินไปอีกด้านหนึ่งของบอร์ดเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ (ปวดจริง) ต้องเดินผ่านคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งกำลังล้อมดูอะไรซักอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยุดดู ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือ ภายในกลุ่มดังกล่าวมีคนที่เขารู้จักอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นคนที่เขารู้จักดี หรือแทบจะดีมากด้วยซ้ำ โดนล้อมถ่ายรูป พูดคุยและขอลายเซ็นต์อยู่กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง สองคนนั้นคือมิวกับเอ็กซ์นั่นเอง โต้งยิ้มนิดๆ และจะเดินเข้าไปทัก แต่เห็นจากคนอยู่เยอะและไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรและพูดคุยอะไรกันดี ทักทายยังไงดีนะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไม่ได้คุยกันตั้งนาน ดีไหมนะ โต้งทำหน้าเศร้าๆไปเล็กน้อยแล้วตัดสินใจเดินไปเข้าห้องน้ำดีกว่า เพราะไม่รู้จะเข้าไปทักอย่างไร และมิวจะรู้สึกอย่างไรที่เจอเขาอีกครั้ง โต้งจึงกลับหลังหันเดินไปอีกทาง

เอ็กซ์เงยหน้าขึ้นมาจะถ่ายรูปและพูดคุยกับแฟนเพลงที่รายล้อมอยู่ จึงมองเห็นโต้งแวบๆ พอดีแต่ก็ไม่แน่ใจ จึงสะกิดให้มิวดู “เฮ้ย ไอ้มิวนั่นโต้งหรือเปล่าวะ”
“ไหนๆ”มิวถามพร้อมเขย่งมอง
“นั่นไงที่เดินไปตรงมุมนั่นแล้วไง กำลังเลี้ยวไปที่มุมตึกนั่นไง” เอ็กซ์บอกมิวพลางเขย่งดูไปด้วย
“เออใช่จริงๆ ว่ะ” “ขอโทษนะครับขอตัวก่อนนะครับ” มิวค่อยๆ แทรกตัวออกไปจากกลุ่มคนตรงนั้นแล้ววิ่งตามไปที่มุมตึก พอไปถึงเห็นผู้คนอยู่บริเวณนั้นมากมายแต่ไม่พบโต้งแล้ว มิวหน้าเศร้าลงทันที เอ็กซ์วิ่งตามมา “ไง เจอไหมวะ” มิวส่ายหน้า

หลังจากโต้งเข้าห้องน้ำเสร็จโต้งหยิบมือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง หน้าจอมือถือยังคงเป็นหน้าที่เป็นชื่อและเบอร์โทรของมิวอยู่ โต้งถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วจึงตัดสินใจนำโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกไปยังเบอร์มิว “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…” โต้งกดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม

“มึงก็โทรไปหาโต้งสิวะไอ้มิว” เอ็กซ์บอกเพื่อนอย่างห่วงใย แต่ไม่วายทำหน้ากวนๆ ใส่

“มึงก็รู้ไอ้เอ็กซ์ โทรศัพท์กูหาย เบอร์ใครก็หายหมด เบอร์มึงกูยังไม่ได้เม็มเลย” มิวตอบแบบผสมบ่นเพื่อนเล็กน้อย

“หญิงไง ไปขอกับหญิงสิ เออแต่ไม่เห็นหญิงมาซักที ไหนๆ ก็ไหนๆ มึงโทรไปถามแล้วก็โทรไปตามหญิงด้วยเลยแล้วกัน”

“ฮัลโหลหญิงเหรอ อยู่ไหนเนี่ยไอ้เอ็กซ์มันรอนานมากแล้วนะ” มิวตะโกนใส่โทรศัพท์แข่งกับเสียงกลองที่ดังอยู่รอบๆตัวเขา

“ฮัลโหลมิวเหรอ เราอยู่ที่นี่แล้วล่ะเพิ่งตรวจบอร์ดเสร็จความจริงโทรหาเอ๊กซ์แล้วแต่โทรไปก็ไม่รับ” หญิงตอบป่านสายโทรศัพท์มาในที่ที่อึกทึกไม่ต่างกัน “มิวอยู่หน้าบอร์ดคณะมิวนะเดี๋ยวเราไป ฝากล๊อคตัวเอ็กซ์ไว้ด้วย เจอนะจะตีให้หน้าพังเลย”

“อืมๆ หน้าบอร์ดศิลปกรรมนะ มาให้ไวเลย”

“โอเคๆ แค่นี้นะ”

แล้วหญิงก็โผล่พรวดเข้ามาจากด้านหลังแล้วกอดมิวแบบแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

“โอ๊ย อะไรเนี่ยหญิงตกใจหมด แล้วมากอดเราขนาดนี้ไม่อายคนอื่นมั่งหรือไง” มิวถามหลางเอี้ยวตัวไปมองทำหน้าแหยๆ

“จะอายทำไม ให้เขาเห็นก็ดีเขาจะได้คิดว่าหญิงมีแฟนเป็นนักร้องดัง เก๋จะตายไป” หญิงตอบลอยหน้าลอยตากวนประสาทใส่มิว

“แต่ไอ้เอ็กซ์มันจะเคืองเอานะ พอได้แล้วคนมองใหญ่แล้ว”

“ 555 มิวนี่อายน่ารักเหมือนเดิมเลยเนอะ” หญิงยังคงกวนมิวต่อไป
“เออเราติดบัญชีจุฬาแหละมิว แล้วเอ็กซ์ล่ะ”

“แหมอยากรู้เรื่องของใครก็ถามเจ้าตัวสิคร้าบบบ แล้วนี่จะปล่อยแฟนผมได้ยังครับคุณมิว” เอ็กซ์พูดพลางแกะมือหญิงออกจากมิว

“กูว่ามึงแกะตุ๊กแกของมึงออกไปจากกูดีกว่านะ ชอบแกล้งอยู่เรื่อยเลย” มิวบ่นขำๆ

“หญิงครับแฟนมาแล้วก็มาอยู่กับแฟนดิ่ครับคุณ มานี่ๆๆๆๆ” หญิงละจากมิวมายืนจับมือกับเอ็กซ์

“ว่าไงเอ็กซ์มีชื่อไหม ไม่มีแน่เลยวันๆ นอกจากซ้อมดนตรีก็ไปเหล่สาวๆ ทำตัวเจ้าชู้ติดก็บ้าและ” หญิงหันไปกวนใส่เอ็กซ์

“โหปาก ทำไมจะไม่ติดล่ะ ได้เรียนที่เดียวกับไอ้มิวเลย พลาดโควตาไปได้ไงไม่รู้ แต่สอบติดก็โอเคแล้ว”

“เก่งจังเลย” หญิงชมเอ็กซ์พลางกระโดดดีใจไปกอดคอเอ็กซ์ เอ็กซ์ยิ้มๆใส่มิว

“เออหญิง หญิงมีเบอร์โต้งไหม เมื่อกี้เราเห็นโต้งมาแถวนี้แวบๆ” มิวถาม

“น่าจะมีนะ แต่ไม่แน่ใจว่าใช้อยู่ไหมก็ตั้งแต่…. เอ่อ ช่างมันเถอะ ไม่ได้คุยกันนานแล้วน่ะ” หญิงตอบพลางเปิดดูโทรศัพท์ตัวเองและค้นรายชื่อของโต้ง ในที่สุดก็เจอ

“นี่ไงมิว เบอร์นี้” หญิงยื่นโทรศัพท์ให้มิว มิวรับไปและกดเบอร์ลงในโทรศัพท์ของตัวเอง

“ตรงนี้เสียงมันดัง เดี๋ยวขอไปโทรศัพท์แป๊บนะคู่รักทั้งสอง” มิวบอก พลางล้อเลียนหญิงและเอ็กซ์ก่อนจะวิ่งหนีเท้าเอ็กซ์ไปได้อย่างฉิวเฉียด

มิวเดินไปจนไกลจากบริเวณบอร์ดพอสมควรจึงกดโทรออก
“ฮัลโหล ใครน่ะ”

“……” มิวนิ่ง

“ฮัลโหล ใครครับไม่ได้ยินเสียงพูดเลยได้ยินแต่เสียงอะไรดังๆ น่ะ”
มิวกดวางสาย เขาเองก็สับสนไม่รู้ว่าจะเริมยังไงดีจะพูดยังไงดีนะ ตอนนี้โต้งเป็นอย่างไร มีความรู้สึกอย่างไรกับเขา ความสับสนเข้ามาในหัวของมิว


(โปรดติดตามตอนต่อไป)





Create Date : 14 ธันวาคม 2550
Last Update : 14 ธันวาคม 2550 17:39:09 น. 1 comments
Counter : 828 Pageviews.

 
กะว่าจะชวนลุง
ไปทำหวานแหววในโรงหนังอ่ะ
คริ คริ งั้นไปดูเรื่องนี้ดีกว่านิ



โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 16 ธันวาคม 2550 เวลา:7:44:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

K_chang
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เฟิร์นคับ เป็นคนภูเก็ต แต่ต้องมาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ งานอดิเรกก็มีบ้าง แต่ที่ติดอยู่ตอนนี้คือการทำบล็อก
และก็คงจะไม่เลิกง่ายๆซะด้วย

ยินดีต้อนรับเข้าสู่K_chang BLOG นะคับ…
Kittipong Jarusathorn
Instagram

Google
free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add K_chang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.