มองทุกอย่างจากทุกมุม (คั้นสดๆ จากห้องเรียนฮาร์วาร์ด) - โดย ณัฐ ศักดาทร
ซื้อเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ค. 53) อ่านไประหว่างขับรถกลับบ้าน (โชคดีชะมัดที่รถไม่ติดเท่าไหร่)
กลับมาบ้านก็อ่านต่อ
ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็จบละ!!
ฮู่ว์... ได้มาต่อซะที ฮะ ฮะ
เอเอฟ 7 ปีนี้นี่ จริงๆ โชว์ก็ฮาดีนะ โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงธีมเอเอฟ!! มีหลายคนทำเอาเราถึงกับหลุดขำกันเลยทีเดียว (จะเพี้ยนไปไหนลูก??)
จะว่าไปแล้ว
ถึงเราจะเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ชนิดที่ว่าต้องมีหนังสือติดมืออย่าได้ขาด นัดเพื่อนแล้วถ้าเพื่อนมาช้า หรือคอนเสิร์ตเริ่มเลท ก็จะยังคงอารมณ์ดีอยู่ได้ถ้าอ่านหนังสือรอ
อะไรประมาณนั้น
แต่เราก็ อ่านหนังสือเลือกประเภทอยู่นา
แบบว่า หนังสืออย่างเดียวที่แพ้จริงๆ คือ หนังสือเรียน - -" อ่านทีไรมีได้โดนพระอินทร์เรียกตัวไปเฝ้าทุกทีไป แหะ แหะ
"มองทุกอย่างจากทุกมุม" สไตล์นายณัฐ ศักดาทร เนี่ย เป็นหนึ่งในหนังสือที่อยากจัดให้อยู่ในประเภทที่ "แพ้"
แหะ แหะ
แบบว่า วิชาการมาก ฮะ ฮะ แต่เป็นวิชาการที่มาจากประสบการณ์ชีวิตคนอะนะ
เออ อ่านจบพี่ว่าจะต้องไปรื้อซีดี 6 degrees ของ Harvard Opportunes ที่พี่มีอยู่มาเปิดๆ ดูซะหน่อย (เพื่อ?) .... แต่ก็ยังไม่ได้ทำเลย ฮะ ฮะ
แต่เนื้อหาในเรื่องดีนะ!! เค้าชอบ!! เป็นหนังสือที่อยากแนะนำให้ใครๆ ได้อ่าน
โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ที่หลายๆ ครั้งมีความคิด "แคบลง" อย่างน่าใจหาย น่าใจหายจริงๆ นะ - -" แบบว่า บางครั้งก็แอบสงสัยว่า วิธีการสอนแบบไหนกัน ถึงทำให้โลกทัศน์เด็กแคบลงได้เยอะขนาดนี้?
SPOILER ALERT ใครยังไม่ได้อ่าน ส่วนนี้อาจจะทำให้คุณเสียอรรถรสในการอ่านสดๆ เองได้!! (เผื่อว่าหลงๆ เข้ามาอะนะ - -")
พูดกันเน้นๆ เรื่องเนื้อหา อยากบอกว่า อ่านไปแล้วแอบฮา โถ นัทขา ทำไมเราเป็นเหมือนกันเลย
เวลาอ่านหนังสือในห้อง พี่มีหวังได้นอนหลับยาว ไม่ก็เล่นเนทเพลิน ทุกทีไป
สุดท้ายเลยต้องทนแบกคอมไปทำงานในห้องสมุด (จริงๆ แล้วอีกเหตุผลนึงเพราะห้องสมุดมัน "ติดแอร์" ด้วย ฮะ ฮะ) แทนอ่านหนังสือในห้องตัวเองร่ำไป
มีผู้ร่วมอุดมการณ์อยู่บ้าง แต่ไม่แยะ (เพราะไปห้องสมุดเล็ก) และไม่อยู่ถึง 24 ชั่วโมงหรือดึกดื่น (เพราะหิวจะแย่ละ ต้องกลับมาหาไรกิน + แถวนั้นกลับดึกมันอันตราย)
อ่านบทนี้แล้วก็ขำ... เป็นเหมือนกันหรอกเหรอ .....โถ พ่อคุณ เห็นหน้าตาคงแก่เรียน นึกว่าจะมีพฤติกรรมเป็นเด็กดีมากกว่าเรา ฮะ ฮะ
หรือเวลาใครมาถามว่า เสียดายอะไรในชีวิต พี่ก็ตอบได้ไม่ยากว่า ไม่ตอบ ไม่ใช่อะไรหรอก... เสียเวลา ขี้เกียจคิดให้ปวดขมอง คิดเรื่องข้างหน้าหรือเอาเวลาไปอ่านหนังสือจะดีกว่า
เออ ปรัชญาเราเหมือนกันอยู่บ้างเนอะ?
แต่พี่มันคนปากเสีย ไม่เหมือนนัทที่พูดจาดี .........อันนี้ต่างกันเห็นชัด ฮะ ฮะ
แต่ชอบเรื่อง "Fast Forward" มากๆ เลย เนื้อหามันก็คล้ายๆ กับเพลง ฤดูที่แตกต่าง น่ะแหละ แต่วิธีการถ่ายทอดออกมา และคำพูดปิดท้ายบทที่ว่า
...หากชีวิตไม่มีตอนที่ไม่ดีให้เป็นบทเรียนสำคัญในชีวิต ก็คงไม่มีตอนดีๆ ให้ผมได้กดรีโมตข้ามไปอยู่ดี...
ตรงนี้แหละ.......... ที่ชอบที่สุดของทั้งเล่มนี้ ^^
(แต่บางที ถ้าทุกข์นานๆ ก็อยากจะคิดว่า "พอได้แล้วเว้ยยยยยย" อยู่บ้างนะ)
เรื่องเนี้ย ตรงกับหนังสือการ์ตูนเรื่องนึงที่เคยอ่านตอนสมัยเด็กๆ ล่ะ เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนนึงที่คิดว่าตัวเองช่างโชคร้ายที่สุด เธอไม่มีความกล้า เธอไม่ต้องการต่อสู้ ขนาดอ่านนิยายยังข้ามบทที่ต้องต่อสู้กันไปจนถึงตอนจบแฮปปี้เอ็นดิ้งเลย
แล้วอยู่ดีๆ เธอก็โดนดึงให้เข้าไปสู่โลกใหม่... กลายเป็นว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงในนิยายเรื่องที่กำลังอ่านอยู่
เธอต้องผจญภัย และต่อสู้เพื่อให้บรรลุภารกิจ... โดยมีมิตรเป็นองครักษ์ผู้กล้าหาญคู่ชีพ
สุดท้าย ภารกิจบรรลุแล้ว เธอได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปอย่างสิ้นเชิงจากความ "ขลาด" ที่เคยเป็นอยู่แล้ว
เจ้าหญิงต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง
เพื่อจะพบว่า... ทั้งหมดนั่นเป็นแค่เพียงความฝัน แต่เป็นความฝันที่เหมือนจริงยิ่งกว่าชีวิตจริงซะอีก!
แถมองครักษ์ผู้แสนจะกล้าหาญในการผจญภัยครั้งนั้น จริงๆ แล้วก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มอีกคนนึงที่มีปัญหาหนักจนต้องหนีออกไปจากโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนกัน!
แล้วเธอก็ได้เรียนรู้ว่า อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ทุกข์ที่สุดในโลก เพราะเด็กหนุ่มคนนั้น มีความทุกข์ที่เกี่ยวพันถึงชีวิตและอนาคต หนักหนาสาหัสกว่าตั้งเยอะ
แถมเธอยังได้เรียนรู้แล้วว่า .....การกระโดดหนีจากปัญหา... มันไม่ช่วยอะไร
ชักอยากไปรื้อเอาการ์ตูนเรื่องนี้มาอ่านใหม่ ...ว่าแต่มันอยู่ตรงส่วนไหนของบ้านเนี่ย - -"
แอบฮาเล็กน้อยตรงเรื่อง facebook จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นการฮาแบบ ironic เล็กน้อย
ที่นัทเขียน บอกว่าเฟสบุ๊คมีสมาชิก 400 กว่าล้านคน และมีข้อดีที่ชอบที่สุดคือ "การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว"
สมัยที่นัทเขียน คงเป็นอย่างนั้นแหละ
แต่อยากบอกว่า.. ข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ เฟสบุ๊คเพิ่งประกาศว่ามีคนใช้งานมากกว่า 500 ล้านคน และเฟสบุ๊คเพิ่งโดนโจมตีอย่างหนัก เรื่องการไม่เห็นความสำคัญของ "ข้อมูลส่วนตัว" ของผู้ใช้งาน
เพิ่งจะมีผู้ทดสอบให้เห็นกันชัดๆ โดยการเอาข้อมูลของคนใช้เฟสบุ๊คมากกว่า 170 ล้านคนออกมาให้โหลดกันเป็นไฟล์ torrent (เป็นข้อมูลของคนที่ไม่ได้ตั้งค่าให้เป็นส่วนตัว) ขนาดใหญ่ตั้งหลาย GB!
ให้เห็นว่า คนส่วนมากไม่ได้รู้เรื่องเลย เกี่ยวกับการเซ็ทค่าอะไรทั้งหลายนี่ (สารภาพว่า เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเพื่อนแต่ละคนก็สามารถตั้งค่าให้ดูได้ไม่เท่ากันด้วย รู้เพราะอ่านหนังสือนัทเลยนะเนี่ย!)
คิดดูสิ... 170 จาก 500 ล้านคนเชียวนะ!!
ข้อมูลคุณชายล้าหลังไปละ
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าหนังสือเรื่องนี้เป็นหนังสือที่ดีนะ แต่นัทยังไม่มีสไตล์ในการเขียนของตัวเองที่ชัดมั้ง? (หรือพี่ยังจับไม่ได้เองหว่า? ปกติชอบอ่านนิยายมากกว่าด้วย แหะ แหะ)
แต่หนังสือเล่มนี้เหมือนคนเขียนเป๊ะ!!
"สุภาพ เรียบร้อย มีความคิดที่ดี"
เป๊ะม้ัยล่า?
Create Date : 31 กรกฎาคม 2553 |
|
9 comments |
Last Update : 1 สิงหาคม 2553 3:08:23 น. |
Counter : 1288 Pageviews. |
|
|
|
ดีใจอีกครั้งที่ได้เห็นเรื่องเล่าของหนังสือ
อ่านแล้วพยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยหลายประการโดยยังไม่อ่านหนังสือเลย
โดยเฉพาะปาก... 5555
ชอบประโยคนี้
โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ที่หลายๆ ครั้งมีความคิด "แคบลง" อย่างน่าใจหาย
น่าใจหายจริงๆ นะ - -" แบบว่า บางครั้งก็แอบสงสัยว่า วิธีการสอนแบบไหนกัน ถึงทำให้โลกทัศน์เด็กแคบลงได้เยอะขนาดนี้?
ใจหายจริงๆ เหมือนกัน มันเกิดจากอะไร?
กลัวคำตอบที่ว่า จากครอบครัว จากระบบการเรียนการสอน จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว จากทัศนคติผู้นำ
มีคนพูดว่า ญี่ปุ่นสอนให้ทำ อเมริกาสอนให้คิด คนไทยสอนให้จำ
เค้ายกตัวอย่างโจกย์เลข
เรายังเป็นแบบนั้นหรือ เราสื่อสารกับโลกกว้างภายในคลิ๊กเดียว แต่วิธีคิดเรายังอยู่ในโลกแคบๆ
ตู่เกริ่นเสร็จ ความอยากอ่านพี่เพิ่มดีกรีทันที