วันนี้เป็นวันอะไรนะ...?
เย็นวันนี้มีช่างภาพมาขอถ่ายรูปร้านเพื่อไปลงนิตยสารแนะนำร้านเด่นๆ ไม่รู้ว่าอาทิตย์ก่อนนี้พ่อไปจับพลัดจับผลูคุยกะลูกค้ายังไงเค้าเลยเสนอตัวจะเอาร้านไปลงหนังสือให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ...เอ้า เอาก้อเอา แต่พอมาถึงวันนี้ที่จะต้องถ่ายรูป ปรากฏว่า...
พ่อไม่ถ่ายซะงั้นอ่ะ แล้วมาโบ้ยให้เด็กที่รอคอยแทน โดยบอกง่ายๆว่า "คนนี้เป็นผู้จัดการร้าน ตอนนี้ผมโดนลดตำแหน่งเป็นคนล้างจานแล้ว" อ้าวเฮ้ยยย!! ไม่นะ เล่นมุขนี้ได้ยังไงทำแบบนี้ไม่ได้นะ!! เจ้าของร้านก้อต้องมาถ่ายรูปเด๊!!!
ทำไมต้องเป็นช๊านนนน !!!!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดด (<<<โหยหวนมาก)
.............
สุดท้ายก้อต้องปั้นหน้ายิ้มให้เค้าถ่ายรูป โดยมีเงื่อนไข
เด็กที่รอคอย : "ต้องทำให้ชั้นตัวเล็กชนิดที่มองไม่เห็น มองไปแล้วเห็นแต่ภาพวิวร้านเท่านั้นนะ... แล้วถ้าถ่ายไม่สวย จะขอพังกล้องนะ..."
ตากล้อง :
พอดี๊..ว่าได้เด็กใหม่มาคนนึงหน้าตาท่าทางดูใช้ได้หน่วยก้านพอไหว ก้อเลยเรียกมาลองงานเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมาซึ่งปกติแล้ว เด็กที่รอคอยจะทำคู่กับเด็กคนไทย ชื่อว่า น้อง ก. (นามสมมติ)
ก้อเพียงแค่ให้จำเบอร์โต๊ะ คอยเสิร์ฟอาหาร เก็บโต๊ะ ยกเครื่องดื่ม เอาขวดน้ำตั้งโต๊ะลูกค้า.... แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก้อไม่รู้ อยู่ดีๆลูกค้าถล่มร้านซะจนเนืองแน่นโดยไม่ได้บุ๊ค
ด้วยความสงสารเราก้อรับเข้ามาหมด จนกระทั่งถึงจุดนึงซึ่ง peak โคตรๆ แล้วก้อเริ่มสำนึกได้เองว่า
นี่ตรูรับมาเยอะเกินไปรึเปล่าวะ แล้วมันแห่แหนมาจากไหนกัน ทำไมวันพฤหัสฯมันยุ่งแบบนี้ล่ะลักษณะนี้มันเหมือนวันศุกร์เสาร์เลยนะเฟ้ย! ตั้งกะหกโมงครึ่งก้อยุ่งตลอดเลย ยุ่งแบบหัวฟู ไม่ได้ดื่มน้ำ ไม่ได้หยุดหมุน ไม่ได้หยุดเดิน จนตอนหลังต้องวิ่งแล้ว...
ซักพัก...
เอ่อ.......ไม่สิ คงนานเลยล่ะ เพราะเงยหน้ามาอีกทีก้อ สามทุ่มแล้ว สภาพหน้าตาเด็กที่รอคอยตอนนั้นก้อคงออกแนวเอ๋อๆเพราะงานผลิบานยิ่งกว่าดอกเห็ด แต่ก้อนึกอะไรอย่างนึงขึ้นมาได้..
อีกคนไปไหนล่ะ? สังหรณ์ใจไม่ดีเลยแฮะ .... ก้อเลยรีบคุยกับน้อง ก. อย่างสั้น กระชับ รวดเร็ว ทันใจ
เด็กที่รอคอย : "น้อง ก. เด็กคนนั้นน่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า... มัน หายไปแย้วววว "
น้อง ก. : "อ๋อ หายไปตั้งกะสองทุ่มกว่าแล้วพี่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า น้อง ก. ยังแอบสงสัยเลยว่าทำไมถึงมีน้อง ก. วิ่งอยู่คนเดียว ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
เด็กที่รอตอบ และ น้อง ก. : (พร้อมกัน) "งั้นมันก้อคงไปแย๊ววววว เห๊อ เห๊อ เห๊อออออ!!! " (แล้วก้อหันหลังให้กันเพื่อมุ่งหน้าไปทำงานกันต่อ)
ก้อเป็นอันว่าเด็กใหม่คนนั้นวิ่งร้องไห้กลับบ้านไปแล้ว โดยไม่ได้บอกใครเลยว่า ..รับสภาพการทำงานแบบนี้ไม่ไหว เด็กที่รอคอยเข้าใจเอาเองว่า คงไม่ได้โดนใครจับไปทำอะไรมิดีมิร้ายที่ไหนเพราะพ่อแม่เด็กไม่ได้โทรเข้ามาถาม ส่วนคืนนั้น กว่าพายุจะสงบก้อปาเข้าไปสี่ทุ่มครึ่ง
ลูกค้าราวๆ 80 คนมั้ง ... เด็กที่รอคอย ทำกันกับน้อง ก. แค่สองคน (รอดมาได้ก้อบุญนักหนาแล้ว) แต่เราก้อสนุกกันดีนะเพราะว่ามันมีห่วงน้อย จะทำอะไรมันยังco กันได้ไวกว่า ข้อเสียเดียวก้อคือต้องใช้เวลาหน่อยเพราะกำลังเรามีจำกัดแต่เราก้อยังเฮฮากันดี ตอนที่คุยกันว่าเด็กคนนั้นหายไป เราก้อฮากันมากกว่าที่จะเครียด(อาจจะเพราะว่าประสาทรับประทานไปแล้วด้วยส่วนนึง )
เทียบกับเมื่อวานแล้ว วันนี้แย่กว่าเยอะเลย ยุ่งพอกัน แต่มีพนักงานเยอะขึ้น แต่ผลที่ได้รับกลับเป็น ความยุ่งยากมากเรื่องและช้ายิ่งกว่าเมื่อวานอีก ... ก้อไม่รู้จะทำไงดี คนมีฝีมือที่จะทำงานระบบอย่างร้านเราได้มันหายาก... แล้วเราอยู่ไกล
เรามันไม่มีใครแล้ว ... (ถอนหายใจหมดปอด)
ซักวัน ฉันคงตายคาที่เพราะทำงานโอเวอร์โหลดแหงๆ...
อย่าเพิ่งตายยยยยยยยย