1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30
Melbourne รำลึก
เมื่อเครื่องบิน TG 987 ร่อนลงสู่ท่าอากาศยาน Perth ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน ราวเที่ยงคืนกว่าๆ (ที่เพิร์ธจะเร็วกว่าเมืองไทยแค่ ช.มเดียว) เด็กที่รอคอยรับประเป๋า ตรวจข้าวของที่ฝ่าย ต.ม เสร็จเรียบร้อยก้อกระโดดขึ้นรถกลับบ้านอย่างมึนๆชีวิตเพราะง่วงเหลือหลาย กลับมางวดนี้มันหนาวถึงใจจิงๆ รู้สึกว่าไม่สูงไปกว่า 4 องศาเซลเซียส มันหนาวววววเข้ากระดูกดำเลยจ้ะ โขวโบกกกกก ... เช้าวันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน ราวแปดโมงเช้า เด็กที่รอคอยกระโดดพรวดขึ้นจากเตียงนอนไปอาบน้ำ แล้วออกมา งามพริ้ง ....เตรียมตัวไปสนามบินอีกรอบ โดยจะขึ้นเครื่องไปเมลเบิร์นในเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาสิบห้านาที .... คิดอยู่ในใจว่าทำไมถึงไม่มีโดราเอมอนเป็นเพื่อน... จะได้มีประตูวิเศษเปิดไปถึงที่หมายได้เลยตามใจชอบ บินราวสี่ช.มเท่านั้น(ย้ำ สี่ช.ม เท่านั้น...!!) ก้อมาถึงท่าอากาศยานเมลเบิร์น... เครื่องขึ้นสิบเอ็ดโมงกว่า มาถึงเอาราวๆเกือบสี่โมงเย็น ต้องปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้นอีกสามช.ม สรุปว่าโผล่มาถึงเมลเบิร์นก้อร่วมทุ่ม .... หมดเวลาไปหนึ่งวันโดยไม่ต้องทำอะไรเลย เอ้า มามา.... เราจะจูงมือท่านไปเข้าโรงแรมก๊ะเรา ตามเรามา! โรงแรมโนโวเทล บนถนน Collins ที่มีชื่อว่าเป็นแหล่งของนักช๊อปแฟชั่นชั้นนำ ภาพข้างบนนี้มองดีๆ จะเห็นร้าน Chanel ทางขวาของรูป... และโขวโบกกก ว่าบ้านเก่าเด็กที่รอคอยสมัยมาเช่าอยู่ตอนยังเรียนมหาลัยไปด้วยทำงานไปด้วย ก้ออยู่ติดก๊ะชาแนลเหมี๋ยนกัลล์ แต่เราจะอยู่ติดกะ Polo Ralph Lauren ซะมากกว่าเพราะชาแนลต้องเดินไปอีกประมาณเกือบสิบก้าวในขณะที่ โปโลราฟนี่ เจ๊อะกันได้เลย... เด็กที่รอคอยชอบบ้านนี้มากที่สุดในบรรดาที่เคยสารพัดจะย้ายมาเพราะที่นี่หรูหราที่สุดและ...แพงที่สุด แต่ก้อคุ้มค่ะ ทำงานหนักเพื่อเป็นค่าห้องส่วนเล็กๆเท่านั้นเอง ที่เหลือกลายเป็นเงินเก็บจำนวนมิใช่น้อย แต่ที่น่าสงสัยและขุ่นเคืองอย่างมากมายก้อคือว่า ทำไมน้องเป็ดน้อยที่เด็กที่รอคอยไปซื้อมาจากลุงแก่ๆคนนึงย่านประตูน้ำ ถึงไม่ลอยหน้าเชิ่ดเวลาลงอ่างน้ำ มันกลับหัวทิ่มแล้วว่ายน้ำในแนวตะแคงข้าง ผิดวิสัยเป็ดอย่างแรง พยายามช่วยเหลือก้อแล้วมันก้อยังแอ้งแม้งอยู่ในท่าเดิม เด็กที่รอคอยนึก มะโหลุงคนขายเหลือเกิน! เอาเป็ดพิการมาขายชั้นได้ยังไงยะตัวตั้งสิบบาทยังจะไม่ลอยอีก อย่าให้เจออีกนะเฟ้ยลุง!!! อาบน้ำอาบท่าแล้วเรียบร้อยเด็กที่รอคอยก้อแต่งตัวออกมาหาอะไรหม่ำๆข้างนอกโรงแรม น่าแปลกค่ะ...ปีนี้อากาศที่เมลเบิร์นอุ่นกว่าเพิร์ธนิดหน่อย ทั้งที่ปกติจะต้องหนาวเยือกชนิดเทียบกันไม่ติดฝุ่น ทุกอย่างยังคงสภาพเดิมพอสมควรแม้จะไม่ได้อยู่มาพักนึงแล้ว จะมีก้อเพียงต่อเติมเสริมแต่งถนนหนทางเท่านั้นเอง ร้านรวงส่วนมากอยู่ยังไงก้ออยู่ยังงั้น ไม่ค่อยมีเพิ่มเติมหรือลดหายลงไปเท่าไหร่ รถม้าที่ให้เหมาเวลาเช่าเพื่อนั่งชมเมืองแบบโรแมนติค...แต่โดยมากเห็นคนที่นั่งบนรถม้าจะอายต่อสายตาที่มองมาจากถนนทั้งสองข้างทาง มีรถรางแบบเก่าและแบบใหม่ อาจจะมองยากหน่อยนะคะเพราะว่าแสงมันน้อยมาก แบบเก่าจะยังเป็นรถเขียวเหลือง ส่วนแบบใหม่จะดูโมเดิร์นไฮเทคเป็นรถสีเทาๆหน้าตาท่าทางคล้ายบีทีเอสบ้านเรา ไม่พูดพล่ามทำเพลงละ เราพาท่านไปเที่ยวชม คาสิโนแห่งกรุงเมลเบิร์นกันเลยดีกว่า เด็กที่รอคอยเคยมาทำงานเสิร์ฟที่ Crown Casino อยู่ในช่วงปีสุดท้ายของมหาลัย แต่ทำ VIP นะเคอะขอโท๊ษษษษ ไอ้เรื่องจะไม่หัวสูงน่ะ ไม่มีหรอกค๊า โฮะๆๆๆ!! (เลิกงานกลับบ้านก้อไปต้มมาม่ากินตามปกติชีวิตประจำวันและคืน...) ภาพประกอบฮ่ะ เมื่อก่อนตอนที่จะไปทำงานที่ห้องวีไอพี ก้อโหยหามากอยากไปทำเพราะว่ามองจากข้างนอก ทุกอย่างก้อสวยไปหมด มีเล่นไฟแบบโหมโรงยังกับอยู่ในโลกแห่งมายากลจากเสาด้านนอกคาสิโน มีวิวสวยๆ มีแสงไฟระยิบระยับ แค่คิดก้ออยากทำจะแย่ ดูแล้วมันหรูดูไฮโซ....... แต่พอขึ้นไปอยู่ในห้องวีไอพี... เอ่อ มันก้อสวยดีนะคะ... แต่ว่ามันสวยแบบนกน้อยในกรงทองอ่ะ มองเห็นวิวเดิมๆ วีไอพีท่านเดิมๆ บางท่านมาก้อกินอยู่หลับนอนอยู่ในนั้นเลย คือหลับคาโซฟา ออกไม่ได้ ออกแล้วเด๋วดวงตก ... บางท่านอยู่กันสองวันสามวันไม่กลับบ้านกลับช่อง บางทีวันนี้ เราเข้ากะเช้า มาใหม่กะเช้าของอีกวัน มันก้อยังอยู่! บริเวณทางเข้าห้องวีไอพีสำหรับลูกค้า เนื่องจากจริงๆแล้วเป็นกฏว่าห้ามถ่ายรูปในห้องคาสิโน และโดยเฉพาะไม่ใช่สมาชิกวีไอพีเด็กทีรอคอยจึงไม่สามารถแฝงกายให้เข้าไปเนียนกับเค้าได้ เลยแอบไปถ่ายห้องธรรมดาจากมุม Bird eye view มา .... หึๆๆๆ มุมนี้มาจากมุมชั้นบนของห้องน้ำหญิงอันแสนหะรูหะรา... ทำเหมือนหน้าต่างแบบอิสลามเลย ที่จริงน่ะห้ามถ่ายโดยเด็ดขาด เด็กที่รอคอยเลยต้องตัดแฟลชออกแล้วรีบถ่ายรีบโกย เพราะไม่แน่ใจว่ามันมีกล้องแฝงไว้มุมไหนของห้องน้ำหรือเปล่า ถ้าเป็นห้องวีไอพีทุกอย่างจะหรูมั่กๆค่ะ เฟอร์นิเจอร์เป็นสีครีมและทองเท่านั้น บริเวณที่เป็น lounge เขี่ยบุหรี่จะทำจากแก้วแบบหรู(ใหญ่โคตร หนักโคตร แล้วคิดดู๊...มันให้เราเปลี่ยนที่เขี่ยทุกครั้งที่มีแม้แค่ก้นบุหรี่เพียงอันเดียวถูกบี้อยู่ในนั้น... บางทีเพิ่งวางสดๆเลย กำลังจะเก็บอีกอัน ปรากฏว่าไอ้วีไอพีท่านนึงมันเดินมาทิ้งก้นบุหรี่แล้วไปโต๊ะอื่นต่อ....โห.... บริเวณบาร์อันน่านั่ง.... ฮือๆๆ... นู๋อยากมาววววว ส่วนหนึ่งของบริเวณโรงแรมของคาสิโนซึ่งผู้บริหารเชิ่ดหน้าใส่โรงแรมห้าดาวในกรุงเมลเบิร์นมาแล้วว่า "เราเหนือกว่าที่ไหนๆเพราะเราเป็นโรงแรมหกดาว!" เข้าโหมดอาหารการกินบ้างดีกว่า เดินเที่ยวกันมาพักนึงแล้ว... ร้านเค้กสไตล์อิตาเลี่ยน กรีก เป็นที่นิยมกันมากค่ะ ชีสเค้กเป็นชีสเค้กเลยไม่มีการเม้ม ราคาสูงอยู่สักหน่อยแต่ขอบอกว่าชิ้นเป้ง!!! ไม่เหมือนเมืองไทย ข้อเสียก้อคือว่าถ้ามารับประทานคนเดียว ก้ออาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะกว่าจะรับหมดน้ำหนักขึ้นพรวดเนื่องจากความหนาแน่นและตันไปทุกอณูของเค้ก ... ถ้าเป็นเมืองไทยเรา เด็กที่รอคอยกล้าฟัดคนเดียวสองชิ้น อยู่นี่ ครึ่งชิ้นยังฟัดแทบจะไม่หมด เป็นไปแล้วจริงๆนะเอ้อ! คอฟฟี่ช็อปสไตล์ฝาหรั่ง หรือว่าเราจะทานติ๋มซ่ำกันดี? เด็กที่รอคอยตะลุยกินอยู่คนเดียว จะหาว่าไม่แบ่งก้อมิได้นะเคอะ เพราะว่าถ่ายรูปมาให้ดูแล้ว(ว่าเรากินอะไรมั่ง ฮ่าๆๆ ) ฮะเก๋า ยอดคะน้าราดน้ำมันหอย เห็ดหอมยัดไส้กุ้ง แล...ฝีเท้าน้องไก่ หุหะหุหะ ... แต่พริกสดที่ขอมาเคียงข้างเพื่อความแซ่บเนี่ย อดคิดไม่ได้จริงๆว่ามันให้แบบ "ประชด"รึเปล่าฟะ...ก้อดูที่มันให้มาสิคะ .... บรรยากาศภายในร้าน (รีบมาแต่หัววัน ไม่งั้นคงได้มีตบตีแย่งชิงติ๋มซ่ำกันในช.มเร่งรีบ) อิ่มแล้ว.... เราไปเที่ยวที่ทำงานเก่าอีกแห่งของเด็กที่รอคอยกันมั้ย? ตามคำขอ Parliament.... เป็นคำตอบที่ ผิด ค่ะ เด็กที่รอคอยทำงานฝั่งตรงข้ามกะ parliament ตะหาก นี่งายนี่งาย โรงแรมวินเซอร์จ้า เป็นโรงแรมห้าดาวที่เก่าแก่มากและยังคงทำ afternoon tea แบบหรูหราอยู่ ชนิดแพงระเบิดพอสมควร ตอนสมัยยังทำงานอยู่ เด็กที่รอคอยชอบมากถ้าได้ทำ กะกลางวันที่ตรงกับ afternoon tea เพราะพอเค้าไปกันหมดแล้ว เราก้อเข้าไปฉกขนมแล้วชงชากินกันต่อ ต่างกันตรงที่ว่าลูกค้าจะได้นั่งเฉิดฉาย แต่พวกเราจกกินเอายังกะปอบ... และ Hard Rock Cafe ก้อเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมด้วย สมัยก่อนพวกเด็กที่รอคอยเคยไปนั่งดื่มกันหลังเลิกงาน ปรากฏว่ามีไอ้คนนึงดันเมามาก ลากเอากีตาร์เค้ามาฟาดกระจกแตกเปิงไปซะงั้นล่ะ..... เข้ามาชมด้านในของห้องน้ำชายามบ่ายกันค่ะ ทั้งหมดนั่นคือความสวยงามอย่างน่าชื่นชม... ส่วนภาพข้างล่างนี้คือความจริง .... กาน้ำชาเครื่องเงินที่เราๆท่านๆต่างอุทานว่าสวย แท้จริงแล้วมันคือ กาน้ำชานรกสำหรับเด็กที่รอคอยเพราะ แม่...ม โคตรหนักชนิดแขนล้าได้เป็นสองวัน ตอนทำฟังค์ชั่นใหญ่ๆนี่ช่วงแรกเค้าให้เราถือสองกาเลย ชาและกาแฟ จะได้เทให้ได้ทันท่วงที แต่ตอนหลังมันไม่ไหวค่ะ หนัก ปวดแขน เลยบอกเค้าว่า... ถ้าแขนชั้นเดี้ยงแล้วมันเทราดหัวลูกค้าจะว่าไง? เลยเปลี่ยนใหม่ ให้ผู้ชายถือสองกา ผู้หญิงกาเดียว.... เออ ให้มันรู้ซะมั่งใครเป็นใคร ส่วนตู้อาถรรพ์ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่เวลาอยากให้มันปิดสนิท มันมักจะแง้ม แต่เวลาอยากเปิด มันมักจะเปิดไม่ออก พวกเราจะรู้กัน... ห้องแกรนด์บอลรูมที่จุแขกได้ 300 กว่าคน ที่เห็นนี่คือจัดไว้สำหรับงานน้ำชา ถ้าหากจะเอาอลังการต้องมาดูตอนเค้าจัดสำหรับงานแต่งงาน Polly Woodside Melbourne Maritime Museum การเดินทางในเมลเบิร์นนอกเหนือจากรถราง รถเมล์แล้ว ก้อยังมีแท๊กซี่มิเตอร์ที่ราคาแพงหูดับ แต่คนขับจะมารยาทดี(ซะส่วนใหญ่) เด็กที่รอคอยเคยขึ้นอยู่คันนึงแค่ระยะทางใกล้ๆจากบ้านไปคาสิโนเพื่อไปทำงานกะ(โคตร)ดึก คนขับเป็นคนผิวดำชาติอะไรซักอย่างในแถบแอฟริกาคุยกันถูกคอดี ลดราคาให้ซะเลย เพราะว่า "เราเป็นเพื่อนกัน" ... นานน้านจะเจอดีขนาดนี้สักทีเหมือนกันนะ.... และมีรถไฟค่ะ ส่วนน้องฝรั่งคนข้างล่างนี่ เป็นใครมาจากไหนเด็กที่รอคอยหาทราบไม่ แต่เห็นน้องเค้าตะกายจากภาคพื้นดินไปคุดคู้อยู่เป็นก้อนกลมแล้วคุยทอสับฉอดๆๆต่ออย่างไม่หยี่ระ(แพ้ความหนาวแค่นิดเดียวมันยังลากสังขารขึ้นไปกบดานอยู่ในท่านั้นต่อได้ เอากะมันสิ...) เลยชักภาพมาให้ดูกันเล่นๆ... ทีแรกขดตัวกลมดิ๊กเลยล่ะ พอเด็กที่รอคอยจะถ่ายก้อทำท่าว่าจะปีนลงซะดื้อๆ ต้องลุ้น(ในใจ)แทบแย่ไม่ให้น้องเค้าลงมา ได้กลับมางวดนี้ก้อเริ่มจะทำใจกับหลายๆอย่างได้มากขึ้น บางครั้งที่เดินย้อนไปสู่สถานที่ในอดีต น้ำตาที่เคยไหลพรั่งพรูเหมือนเขื่อนที่ทำนบแตกก้อมีแค่ซึมๆ จะไหลออกมาก้อเพียงเงียบๆไม่ได้ฟูมฟายอะไร มองย้อนกลับไปในอดีตได้มากขึ้น แล้วก้อนึกดีใจว่า.... ถ้าวันนั้น เราทิ้งชีวิตลงไปในแม่น้ำ Yarra อย่างที่ตั้งใจไว้ ก้อคงไม่มีเรา ในวันนี้เป็นแน่...ในวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไป สถานที่เดิมที่เคยนั่งรอใครคนหนึ่งปรากฏตัวเพื่อจะเดินเคียงข้างไปด้วยกันสองคนด้วยความรู้สึกห่วงหาอาทร เปี่ยมไปด้วยความรักและความเชื่อใจแม้จะเป็นสถานที่เดิม แต่ก้อไม่ใช่ที่ๆจะทำให้เราทวงทุกอย่างคืนมาให้เป็นดังเดิมได้อีกต่อไป เด็กที่รอคอย อาจจะไม่รอคอยใครอีกแล้วตลอดชีวิต หรือ อาจจะรอคอยใครบางคนไปจนตลอดชีวิตก้อเป็นได้
Create Date : 21 มิถุนายน 2548
Last Update : 27 มิถุนายน 2548 0:52:01 น.
8 comments
Counter : 1843 Pageviews.
โดย: vee vee' วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:1:36:48 น.
โดย: froggie IP: 203.151.141.193 วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:15:31:57 น.
โดย: too IP: 203.185.154.226 วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:17:01:47 น.
โดย: coolancelot IP: 58.10.35.99 วันที่: 23 มิถุนายน 2548 เวลา:2:12:09 น.
โดย: แว่นน้อย IP: 202.28.66.23 วันที่: 23 มิถุนายน 2548 เวลา:12:53:02 น.
โดย: เด็กที่รอคอยแอบงง IP: 203.164.179.132 วันที่: 25 มิถุนายน 2548 เวลา:0:12:07 น.
โดย: คนที่แกก็รู้ว่าใคร IP: 61.91.145.35 วันที่: 25 มิถุนายน 2548 เวลา:22:14:55 น.
โดย: เด็กที่รอคอย เหล่ไอ้คนข้างบน IP: 203.164.179.227 วันที่: 26 มิถุนายน 2548 เวลา:0:53:32 น.
Location :
กรุงเทพ Australia
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [? ]
จะเป็นกรวดหรือเพชร ถ้าไปนึกรักมันเข้าแล้วหายไปเมื่อไรก็เสียดาย ยิ่งรักมากก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนถึงกับเสียคนไปก็มี "ถ้าเราไม่อยากทุกข์มากไม่อยากเสียคน ก็อย่าไปรักอะไรให้มากนัก ถึงจะรักก็ต้องรู้กำพืดว่ามันเป็นเพชร หรือเป็นกรวด" ถ้ารู้ราคาจริงๆของมันเสียแล้วถึงมันจะหายไป เราก็จะไม่เสียดายมากนัก (จาก "สี่แผ่นดิน" โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช) สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
4 เซสเซียส... ไม่อยากจะบอกว่าสำหรับตัวเองแค่ 22 เซลเซียสที่กำลังสบายสำหรับคนอื่นนี่ก็แย่แร้ว...เพราะงั้นจะเกลียดที่ทำงานที่ชอบเปิดแอร์ไอติมแล้วแทบต้องใส่เสื้อเมืองหนาวมาก
เคยไปคาสิโนเหมือนกัน (ไปดูนะไม่ใช่เล่น) แต่เป็นที่ชายแดนปอยเปต 555 หน้าบ่อนมีเก้าอี้ตั้งเรียงๆ อยู่มีเด็กๆ คงเป็นลูกหลานนั่งถือของเช่นตะกร้ากับร่มรออาม่า อาซิ่มกัน ส่วนพวกอาม่า busy กันสุดๆ ข้างใน (แล้วพาหลานมาทำม้ายยย)
ปล. เห็นเค้กกับติ่มซำตอนดึกๆ แบบนี้แล้วมัน...