|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
อยากจะขอระบายความเครียดหน่อยเหอะน่ะ...
นอนร้องไห้มาหลายคืน แต่ทีแรกไม่กล้าบอกใครหรอก เพิ่งจะมาระเบิดใส่บางคนเมื่อคืนนี้เองมีผู้เคราะหฺร้าย 2 ราย ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง... อายอ่ะ เพราะอาการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาร่วมยี่สิบปีได้แล้ว ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมารู้สึกแบบนี้เอาปูนนี้ แต่ก้อกลั้นไว้ไม่อยู่จริงๆนะ
คือว่า ... เอ่อ ... คือว่า ... เด็กที่รอคอย เอ่อ .....
... โฮมซิค ...
เป็นโรคคิดถึงบ้านขึ้นมาซะงั้นน่ะ ....
ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกแบบนี้คือตอนที่เพิ่งมาเมืองนอกใหม่ๆ แต่เราอุ๊บเงียบต่อหน้าพ่อเพราะไม่เคยจะสนิทสนมกันเลย ตอนเกิดไม่เคยเจอกัน ตอนยังเล็กก้อไม่เคยเลี้ยงมา เหมือนมาอยู่กับคนแปลกหน้าอย่างเต็มตัว ใครจะพูดว่า พ่อที่ไหนก้อต้องรักลูก ... อันนั้นมันก้อทราบดีล่ะค่ะ แต่ระหว่างเราพ่อ-ลูก มีเรื่องต่อกันมากมายและครอบครัวเรามันก้อไม่ค่อยจะเหมือนของใครเค้าซะด้วย
บ้านอื่นเป็นยังไงไม่รู้ แต่บ้านเด็กที่รอคอย ศึกชิงบัลลังก์ ดีๆนี่เอง... ตอนแรกไม่คิดจะกระโดดลงไปร่วมวง แต่ตอนหลังเมื่อคิดดูดีๆ ...ไม่ได้แล้วเว้ย มาเจอกันหน่อยใครจะอยู่ใครจะไป แต่จะพยายามดีดให้อีกฝ่ายไปซะ และเราจะต้องอยู่ยั้งยืนยง
หึ ...
ไอ้การที่ต้องทิ้งแม่ ทิ้งสภาพแวดล้อมที่เคยคุ้น ทิ้งงานที่ทำ ทิ้งโอกาสที่จะครอบครองสิ่งที่เราจะไม่มอบให้ใคร ... มันไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆ แม้ที่นี่จะเป็นบ้านเกิด แม้ที่นี่จะมีแต่คนที่พูดภาษาไทย แม้ที่นี่จะมีเพื่อนที่คบหากันมาแต่เล็กแต่น้อย แม้ที่นี่จะอุดมไปด้วยอาหารการกินที่หาได้ง่ายกว่า
แต่เด็กที่รอคอยจะสูญเสียทุกอย่างในมือ เพราะเลือกที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ... การเริ่มต้นตั้งแต่ ศูนย์ ไม่ใช่เรื่องที่กลัว เงินทองเป็นของหาได้เด็กที่รอคอยรู้ดี เพราะเคยหมดตัวไม่มีอะไรในมือ จนสร้างตัวเองได้มาแล้ว
จากห้องแคบๆอุดอู้ ขนาด 5X3 เมตร ไม่มีครัวไม่มีห้องน้ำในตัว มีเพียงหน้าต่างบานเล็กๆอยู่เหนือหัวกับไฟนีออนหลอดนึง มีที่นอนให้ หมอนหนึ่งใบ ผ้าห่ม... ไม่มีอ่ะได้แต่เอาผ้าคลุมมาเป็นผ้าห่ม มีตู้เล็กๆใช้เก็บเสื้อผ้า พื้นเป็นไม้(หน้าหนาว ก้อจะหนาวสุดขีดเพราะมันไม่ใช่พรม) และไม่มีฮีตเตอร์ ... นอนหนาวจนเอ็นข้อมืออักเสบแทบทำงานไม่ได้ แต่ถ้าไม่ทำก้อจะไม่มีกิน ถุงเท้าใส่ 3 ชั้นไปก่อนเพราะมันเย็นจัด วันไหนไม่มีเงินมากพอ ก้อไปซื้อซาลาเปาสองลูกมากินเป็นอาหารมื้อเดียวในวันนั้น ..... น้ำเรอะ? ไปรองจากก๊อกในสวนสาธารณะเอา เพราะไม่มีเงินซื้อ
สนุกมั้ยล่ะเนี่ย บางคนชอบอะไรมันส์ๆอาจจะว่า ดี มันดูมีรสชาติ ... แต่นอนร้องไห้ทุกคืนเลยนะ เพราะตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยลำบากขนาดนี้ เหตุเกิดเพราะความไว้ใจในตัวใครคนนึงมากไปเท่านั้นเอง
ใช้เวลาหนึ่งปีหลังจากย้ายมา 3ครั้ง เปลี่ยนมันให้กลายเป็นห้องชุดหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำหนึ่งห้องครัว ชนิดที่เรียกว่าห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ใหญ่กว่าห้องที่เคยนอนตั้งเท่านึง มีตู้เย็น ทีวี วีดีโอ เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า เตียงไซส์ควีน หมอนขนเป็ด ผ้านวมอย่างดี ตู้เสื้อผ้ามหึมา พร้อมแอร์และฮีตเตอร์ระบบ central พร้อมทั้งเงินเก็บที่จะเอาไปกินข้าวก้อได้ ซื้อกาแฟสตาร์บั๊คส์ก้อได้ และเป็นเงินค่าแท๊กซี่ ไป-กลับที่ทำงานยามดึก หรือแม้แต่จะเป็นตั๋วเครื่องบิน กลับมาเมืองไทยก้อได้... ทุกอย่างเป็นคนจัดการชีวิตเองหมด
แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆจึงทำได้ เพราะพ่อตัดหางปล่อยวัด เด็กที่รอคอยต้องตะกายหางานทำ 3ที่ สลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆเพราะเรื่องค่าตอบแทนมั่ง มีเรื่องปวดหัวในที่ทำงานจนไม่อยากทนทำมั่ง
แต่ต้องมีอย่างน้อย 2งานในเวลาเดียวกัน แต่ 3นี่คือว่าสุดตัวแล้ว ทำแค่นี้วันๆก้อแทบไม่ได้นอนแล้วยกเว้นมันบังเอิญมีช่วงว่างหรือได้วันหยุดมาซักวันสองวันเต็มๆ จึงจะได้นอนหลับเป็นตายอยู่บ้าน ...ที่พูดมาเนี่ย คือปีสุดท้ายที่ยังเรียนมหา'ลัยอยู่ด้วย ไม่ใช่ออกมาทำงานเฉยๆ หลายคนที่รู้จักกันดีก้อคงทราบกันดีว่ากว่าจะผ่านพ้นมาได้ เด็กที่รอคอยแทบกระอักเลือด ... ที่ล้มป่วยหนักมาก้อตั้งแต่บัดนั้นล่ะค่ะ จนบัดนี้ก้อไม่หาย มีแต่จะเป็นๆหายๆ ไอ้รักตัวเองน่ะก้อรัก แต่รักตัวกลัวตายน่ะ ไม่ค่อย...
ไม่รู้ว่าคุ้มหรือเปล่าที่ทำไปแบบนั้น คือถ้าทำไม่ไหวก้อตายไปเลย แต่ถ้าทำได้ ก้อรอดชีวิต ... และเมื่อรอดมาได้ ก้อได้ก้าวขึ้นบัลลังก์ ได้การยอมรับ เพราะไม่มีใครหน้าไหนจะกล้าพูดอะไรอีกแล้ว
มันอาจจะไม่ใช่วิถีชีวิตแบบคนเป็นผู้ใหญ่เค้าทำกันหรอก เด็กที่รอคอยก้อเข้าใจนะ เหมือนทำไปเพราะความอยากเอาชนะ ประชดชีวิตซะล่ะมาก ...
แต่ถ้าใครจะคิดว่าคนอย่างเด็กที่รอคอยไม่เคยต้องเจอความลำบาก ไม่เข้าใจโลก เลยเอาแต่ใจ มองตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ค่อยจะนึกถึงจิตใจใคร ไม่ยอมใคร และอาจจะไม่เคยรักใครอย่างที่โลกปัจจุบันนี้เค้าเป็นกัน ... ก้อยังเป็นคำถามที่อยากถามเค้าอยู่เหมือนกันว่า
.... จริงเรอะ? ....
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เมื่อวานตอนกลางวัน หมดสภาพที่จะทนต่อความเครียดได้แล้ว เหล้ายาปลาปิ้งอะไรก้อเอาไม่อยู่ ไม่มีอารมณ์...
ก้อเลยกลับไปทำกิจกรรมเดิมที่เคยทำ ... นั่นก้อคือ ... เนี่ยอ่ะจ้ะ ....
และผลที่ออกมาหลังจากที่ระเบิดออกไป ระยะห่าง 20 เมตรก้อคือ ....
และเมื่อเปลี่ยนเป้าใหม่ ... ให้ยังไง๊ ยังไง ก้ออยากยิงเป้าคนมากกว่าเป้ากลมนะ
งวดหน้าจะเอารูปคนที่อยากยิง ไปขยายใหญ่แล้วแปะไว้จ้ะ เพื่อนบอกว่า "อ้อน ... มึงอยู่กับปืนแล้วร่าเริงมากเลย พอวางปืน หน้ายังกับม้าหมากรุก! จะยิงมันทั้งวันเลยมั้ยเด๋วกูออกเงินให้" 4ร้อยค่ากระสุนทำให้เด็กที่รอคอยร่าเริงได้พักนึง โถ โถ... อยากจะบ้าตายเหมือนกัน
ซือเจ๊ที่อยู่ข้างๆนี้เป็นเพื่อนตั้งแต่ก่อนกำเนิด แต่เพื่อมิให้ผู้คนแตกตื่น เพราะเธอเป็นคนดัง จำเป็นต้องปิดบังใบหน้าที่แท้จริงค่ะ แต่คนนี้ไม่ใช่คนที่พูดนะ คนนี้พูดแค่ว่า "ตกลงยิงแม่นหรือไม่แม่นวะ กูจะได้ไม่เสี่ยงอยู่ใกล้ๆเวลามึงมีปืน!"
ประกาศ : ใครอาสาอยากเป็นเป้าคนเป็นๆ ไปยืนให้เด็กที่รอคอยซ้อมฝีมือได้ในอาทิตย์หน้านี้นะคะ สนใจลงชื่อไว้ในบล๊อคได้ เพราะมั่นใจว่ายิงไม่แม่นแน่นอน ลองขอร้องพวกพี่ๆที่สนามดูแล้ว แต่เค้าว่าๆ "โอย... ให้ผมแก่ตายเถ๊อะ.... "
อาทิตย์หน้าอาจไปยิงเป้าบินถ้าโชคดี ... ต้องปวดแขนแน่ๆเลย
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
วิธีระบายความเครียดอีกอย่าง
เมื่อคืนเพื่อนชวนไปบาร์โฮสต์ แหม๊... ยังกะการ์ตูนญี่ปุ่นไปได้! แต่มันก้อมีจริงๆน่ะแหละนะ เด็กที่รอคอยไม่มีอารมณ์น่ะเลยไม่ไป ตอนมันมาชวนก้อแทบจะถวายมะผางให้แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าคืนนี้จะไปรึเปล่า ก้อยังไม่เคยไปเหมือนกันนี่นา อยากจะลองไปทัศนาอยู่สักหน่อยเหมือนกัน ว่าเค้าทำอะไรกันยังไง แต่ที่รู้มาเนี่ยเข้าใจว่า
บาร์โฮสต์ที่ดีๆ มีคนไปกันแบบไฮโซมีระดับ จะแพงง่ะ เพราะเคยได้ยินมาว่าจะเรียกใช้บริการที ต้องให้เงินทางร้าน และถ้าจะเรียกมาใช้งานนอกสถานที่ก้อต้องเหมาผู้ชายคนนั้นอีก วันละ หมื่นนึงเห็นจะได้ ...โอว์แม่เจ้า หมื่นนึง ตรูเอาไปทำบุญให้เด็กพิการดีกว่ามั้ย พันสองพัน ให้เป็นค่าทิปเพราะมาพะเน้าพะนอเอาใจแบบหวานสุดขั้วนี่ ยังคิดแล้วคิดอีกเลย ( นึกว่าอะไร ที่แท้ มันขี้เหนียวนี่เอง! )
แต่ที่ไม่แพง มันก้อมีอยู่เหมือนกัน แถวๆสนามหลวงยามค่ำคืนน่ะ มี ไม่แพงเท่าไหร่ต่อรองกันได้ ทั้งหญิงและชาย บางทีก้อตกแค่ 500 ... (นี่ตกลงค่าตัวคนมันจะราคาถูกกว่าหมูไม่กี่กิโลรึเปล่าวะเนี่ย....) ปัญหาคือ อันตรายน่ะ ใครจะกล้าเสี่ยงฟะ เด็กที่รอคอยยังไม่เคยใช้บริการเค้านะคะ ที่มาเล่าสู่กันฟังเนี่ยเพราะว่าเป็นคนใฝ่หาความรู้ ถ้ามีโอกาสเจอตัวเป็นๆก้อจะสัมภาษณ์เค้าเท่านั้นเอง เพราะอยากรู้ว่าไปไงมาไงมาทำงานนี้ได้ (แล้วก้อฟังหูไว้หู สมัยนี้เชื่อกันลำบากนะว่ามั้ย ... ) แต่ให้จ่ายเงินเพื่ออ๊อฟนี่ ขอผ่านอ่ะจ้ะ น่ากลัวเหลือเกินน่ะ ...
ต้อง แบบแพงๆนั่นน่ะ ความน่ากลัวจะน้อยลง และน่าเสี่ยงน่าลุ้น ก๊ากกกกกกก
อ่ะ อ่ะ กลับมาที่เรื่องเดิมกันต่อ ... ก่อนที่จะไปไกลกว่านี้
คือ ถ้ามีถูกๆอีกที่ ก้อเห็นเค้าว่าๆจริงแล้วมันไม่ใช่บาร์โฮสต์ค่ะ แต่เป็นบาร์เกย์ ซึ่งเกย์ก้อมีหลายประเภท เกย์คิงเกย์ควีน เกย์เก๊กแมนแต่มีภรรยาเป็นเกย์ตุ้งติ้ง หรือ แมนทั้งคู่จนดูไม่ออกแถมยังมีอะไรกะผู้หญิงก้อได้ด้วย เราก้อจะเรียกเขาว่า เกย์ไบ ... โลกนี้มันเริ่มหลากหลายเหมือนกันนะ ปวดหัว ปวดหัว ... แต่สนนราคาจะไม่ถึงหมื่น เพียงแต่ต้องจ่ายค่าอ๊อฟให้เจ้าของร้านประมาณไม่เกินพันนึงล่ะมั้ง ที่เหลือก้อไปดูกันเอาเองว่าถูกใจสินค้ามากน้อยแค่ไหนแล้วจะทิปให้อีกเท่าไหร่ก้อว่ากันไป
ทีนี้ว่ามันมีอยู่เคสนึงน่ะสิ ที่เล่นเอาฮาแตก เพราะเพื่อนบอกว่า เพื่อนมันอีกคนน่ะทำมาแล้ว
กล่าวคือ เธอผู้นั้นได้จ่ายค่าอ๊อฟไปแล้วล่ะ แล้วก้อไปพินิจพิจารณาสินค้าแล้วเป็นที่เรียบร้อย ไอ้หนุ่มนั่นก้อได้ข่าวว่าหน้าตาน่ารักน่า... ซะเหลือเกิน หายหัวไปหลายช.มด้วยกัน จนกระทั่งจะต้องทางใครทางมันแล้ว ปกติ ถ้ารูปการณ์เป็นแบบนี้ ก้อน่าจะหมายถึงว่าหนุ่มน้อยนั้นโชคดีแล้ววันนั้นที่มีแม่บุญทุ่มมาให้ความเมตตา ... แต่อนิจจา ...
นอกเหนือไปจากที่หมอนั่นต้องออกเงินค่ารถแท๊กซี่กลับบ้านตัวเองแล้ว มันยังต้องมาจ่ายให้สาวเจ้าที่นำมันไปปู้ยี่ปู้ยำอีก!! โอ๊ยยย!! เกิดมาไม่เคยได้ยินน่ะ เพิ่งจะเจ้านี้แหละที่ฮาสุดขีด เพราะสาวเจ้าเกิดถังแตกพอดี แล้วเผอิญว่าคุยกันค่อนข้างถูกคอ โถ...น้องเอ๊ย เวรกรรมอะไรของน้อง ต้องมาซวยซะในคืนนั้นพี่ก้อได้แต่สงสารแกมสมน้ำหน้า!! การค้าไม่รุ่งไม่ว่า ผ่าต้องมาชักเนื้อตัวเองอีกเนี่ยเด่ะ ฮ่าๆๆ
เล่าสู่กันฟังนะคะ อย่าคิดมาก ค่ำนี้เด็กที่รอคอยก้อตั้งใจว่าจะไปดู ดาวินชี่ โค๊ด จะได้มีเหตุผลไปยันกะเพื่อนตอนมันมาชวนไปบาร์ ... แต่ถ้าหากว่า เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเพราะความอยากรู้อยากเห็น จะเอามาเล่าให้ฟังอีกทีว่าในนั้นเค้าเป็นยังไง ถ้าเค้าให้ถ่ายรูปได้คงถ่ายมาให้ดูแหละ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก ...
แต่คือ ถ้าเป็นคล้ายๆ คาราโอเกะตามห้องแถว ก้อแจวออกเหมือนกันนะ ไม่ไหวอ่ะรับไม่ได้ ที่ไม่อยากไปเพราะว่าไม่อยู่ในอารมณ์จะคุยกะใครมากมายน่ะ โดยเฉพาะคุยกะผู้ชายที่เรารู้อยู่แล้วว่าคุยไปตามหน้าที่ บางทีเราอยากคุยเพื่อคุยธรรมดา อยากรู้จักเป็นเพื่อนมนุษย์ ก้อไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปหวังว่าอีกฝ่ายจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะคนบางคนก้อมาทำแบบนี้เนื่องจากใจรัก ไม่ต้องมีความจริงใจให้กันก้อได้ เงินมันมาก่อน ขอแค่ให้มีเงิน ทุกอย่างก้อคุยกันได้
มันเป็นซะยังเงี้ย ....
ถ้าให้เลือกตอนนี้ เด็กที่รอคอยอยากหายไปอยู่ที่อื่นมากกว่า ไปให้ไกลจากตรงนี้ มันจะได้ไม่หมกมุ่นวุ่นวายใจ ... ไปแล้วก้ออาจจะลืมทุกอย่างตรงนี้ ได้ตัวของตัวเองกลับมา ไม่ต้องร้องไห้เพราะความอึดอัดใจ ไม่ต้องคิดมาก ว่าใครจะเป็นยังไง ไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องน้อยใจ ไม่ต้องคิดถึงใคร ไม่ต้องทำหน้าเศร้า ไม่ต้องเป็นห่วงใคร
ไม่ต้องเปิดใจรักใครอีกเลย
ถ้าทำได้ ... ก้ออยากทำซะตอนนี้
ปัญหาคือ วันนี้ ... ยังทำไม่ได้ คิดแล้วก้อเหนื่อย จะเปิดหัวใจทีไรปัญหาเยอะแยะล้านแปดทุกที ... ยิ่งงวดนี้ยิ่งเผลอเปิดใจไปโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเหมือนโดนเบื้องบนมาตราไว้ที่หน้าผากเลยว่า "รักใครไม่ได้ตลอดชีวิต"
งั้นก้อน่าจะโดนสาปให้ไร้หัวใจนะ จะได้ไม่ต้องรู้สึกกับใครไง ....
Create Date : 24 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 24 พฤษภาคม 2549 17:16:11 น. |
|
12 comments
|
Counter : 5078 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แว่นน้อย IP: 202.12.74.5 วันที่: 24 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:00:00 น. |
|
|
|
โดย: วีวี่ IP: 58.147.100.64 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:43:35 น. |
|
|
|
โดย: bowbow IP: 203.148.162.128 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:19:38 น. |
|
|
|
โดย: ......... IP: 118.174.131.248 วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:23:00:15 น. |
|
|
|
โดย: นุ๊ก IP: 222.123.163.228 วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:14:11:45 น. |
|
|
|
โดย: โหงว IP: 117.47.158.109 วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:14:05:11 น. |
|
|
|
โดย: เมย์ IP: 58.8.44.102 วันที่: 7 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:57:02 น. |
|
|
|
โดย: นาโน IP: 124.157.217.82 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:15:05:49 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Australia
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
จะเป็นกรวดหรือเพชร ถ้าไปนึกรักมันเข้าแล้วหายไปเมื่อไรก็เสียดาย ยิ่งรักมากก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนถึงกับเสียคนไปก็มี
"ถ้าเราไม่อยากทุกข์มากไม่อยากเสียคน ก็อย่าไปรักอะไรให้มากนัก ถึงจะรักก็ต้องรู้กำพืดว่ามันเป็นเพชร หรือเป็นกรวด"
ถ้ารู้ราคาจริงๆของมันเสียแล้วถึงมันจะหายไป เราก็จะไม่เสียดายมากนัก
(จาก "สี่แผ่นดิน" โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช)
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
|
|
|
|
|
|
|
|
แม้ว่าจะนอนสลบเหมือด โฮมซิก อยู่ที่ภูเก็ตนี่เหมือนกัน
อยากกลับบ้านแล้วว้อยยย แต่ภาระกิจยังมีอยู่ ฮือ
ปล.เมื่อคืนก็ไปดู ดาวินชี่ แล้วจ้ะ หนุกดี ชอบๆ ถ้าอ้อนอยู่ตรงนี้คงได้เจอน้อยเมาส์กระจายเรื่องนี้ แต่น่าเสียดายน้อยเป็นคนไม่ชอบเมาส์ทางโทรศัพท์ง่า ยังงี้ต้องตัวๆ เอ้ยย
ปล.2 รักษาสุขภาพด้วยน่อ เป็นห่วง ขนาดอ้อนเดินๆ กับน้อย อ้อนยังวูบๆ หน้ามืดเลย ส่วนน้อยก็พอกัน มั่วๆ หลงๆ มึนๆ ก๊ากก