1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
อะกาลิโกสุขุมวิท51 ความสุขที่ไร้กาลเวลา...
ได้หัวขโมยแห่งบารามอสมาอีกสามเล่ม แสนจะดีใจเพราะไม่ต้องซื้อก้อมีคนเอามาให้โดย ก๊บน่อย สาวน้อยน่ารักคล้ายๆเคโระเคโระเคโระปิ... เล่มแรกก้อไม่ต้องซื้อเพราะกบน้อยให้ เล่ม สองสามสี่ ก้อได้ฟรีอีก โอ้!อะไรมันจะเปรมขนาดนั้น นี่ถ้ากบน้อยเป็นคนเขียน Lord of the ring กับ Harry Potter ด้วย..ชีวิตฉันคงสมบูรณแบบเป็นแน่แท้ (...ไม่ได้งกนะ แค่สมมติเฉยๆ...) ดีใจมากมายที่ได้เจอกันวันนี้เพราะคนในกลุ่มมีตติ้งการ์ตูนเป็นชนกลุ่มที่ทำให้เรามีความสุขได้โดยอัตโนมัติ เป็นความรู้สึกดีที่พูดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ว่าทำไม เราเข้าอกเข้าใจกันดีและพร้อมจะให้คำปรึกษาการ์ตูนเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างไม่กั๊ก.... แต่มีเรื่องเดียว ที่พวกเราพร้อมจะตีกันตาย แย่งชิงการ์ตูนเรื่องเดียวและเล่มเดียวกัน... เพราะนั่นไม่ใช่แค่ที่เค้าขายๆกันโดยทั่วไป ของแบบนี้มันมี sense กันได้เองหากคว่ำหวอดในวงการนี้มานานพอสมควรแล้ว ... มันต้องการ์ตูนประเภทของหายากคล้ายสิ่งมหัศจรรย์ 7 อย่างของโลก อย่าง Orange Road เงี้ย ตอนนี้จะไปหาที่ไหนที่สภาพดีเริ่ดประเสริฐศรีไม่มีบุบสลายและครบทุกเล่ม? วันนี้พี่ปุ๋ยดันได้ อารามิส83 ไป โอ้โห!! โลกแทบถล่มทลาย! นี่เป็นการ์ตูนที่ฉันเฝ้าเพียรตามหามานานนับ 20 ปี ตกไปอยู่มือพี่แกซะแล้ว ฮือๆๆๆ! แต่กบน้อยได้ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปแล้วโดยการ เอามันไปสะแกนเพื่อความสุขของชาวโลกทุกคนโดยเท่าเทียมกัน สะแกนแล้วพวกเราทุกคนก้อจะได้อ่านกันอย่างทั่วถึงผ่านจอคอมฯนี่แหละ เอาวะ... สะแกนก้อสะแกน ของมันหาไม่ได้อีกแล้ว ไอ้ที่หามาได้ก้อสภาพ น้องๆกระดาษชำระที่ช้ำชอกมาสุดฤทธิ์แล้วล่ะจะบอกให้! @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ อะกาลิโก สุขุมวิท51 มาเกี่ยวอะไรด้วย? ... เกี่ยวสิ เพราะพวกเรายกพวกไปกินที่นี่กันมา ชื่อร้านมันน่ารักดีนะ ใครได้ยินก้อบอกว่า ...จะไปไหว้คาถาอิติปิโสฯที่ไหนกันเรอะ? -_-' ไม่...ไม่ใช่ค่ะ คือมันเป็นคอฟฟี่ช็อปง่ะ ... เจ้าของร้านบอกว่า "อะกาลิโก แปลได้ว่า ที่ๆไม่มีกาลเวลา" กบน้อยบอกฉันตอนนั่งอยู่ในรถว่า ไม่มีเวลา...ก้อต้องงานยุ่งสิ?! เออ ก้อถูกอีก แต่วันนี้ที่เราจำต้องไปกินไอ้โกกันก้อเพราะว่า แชงกรีล่าทำปัญหาหนักอกให้กับทุกฝ่าย พี่ปุ๋ยเล่าให้ฟังว่า โทร.ไปจอง ไฮทีบุฟเฟต์ที่แชงฯ กำลังคุยกันถูกคอกับพนักงานและตั้งใจจะสำรองโต๊ะไว้ "ค่า...อยากได้โต๊ะสำหรับห้าคนน่ะค่ะ ไฮทีบุฟเฟท์ค่ะ" "ได้เลยครับไม่มีปัญหา ช่วงนี้มีโปรโมชั่นอยู่พอดีเชียวครับ นับว่าคุณโทร.มาจองได้ถูกเวลามากครับ" พี่ปุ๋ยคิดในใจ อะฮ้า..! มามากกว่าสี่คนได้ลด50% แน่นอนเลย "ช่วงนี้เราจัดโปรโมชั่นไฮที บวกลีลาศครับ!" ลีลาศ.... ลีลาศ... ลีลาศ...?! พี่ปุ๋ยได้ยินเสียงตัวเองเอ็คโค่อยู่ภายในหลายต่อหลายหนคล้ายไม่เชื่อหูตัวเอง ... ไหนเค้าบอกกันว่า เสาร์-อาทิตย์ไม่มีลีลาศ แล้วไหงอยู่ดีๆมันจะดันมามีโปรโมชั่นขึ้นมาฟะ?? "เอ่อ.... งั้น... เดี๋ยวขอปรึกษาเพื่อนๆก่อนนะคะ แล้วจะติดต่อกลับมาอีกทีค่ะ" พูดจบพี่ปุ๋ยก้อวางสาย แล้วไม่ได้โทรกลับไปอีก เพราะรู้ดีอยู่ในใจว่า พวกเราไม่มีทางได้ไปกินแชงฯเป็นแน่แท้ แม้จะมีตังค์เพื่อกินน้ำชายามบ่าย แต่เราคงไม่สามารถเปลี่ยนใจพนักงานให้ล้มฟลอร์ลีลาศเพื่อเปลี่ยนเป็นฟลอร์รำวงได้แน่นอน จากที่ลงคะแนนโหวตไปกินแชงฯ คะแนน 3-2 เลยกลายเป็นว่า ร้านไอ้โกมาชนะขาดลอยอย่างฟลุ๊คๆในตอนท้ายนี่เอง @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ ตู่น้อยขับเลี้ยวเข้าไปหลงอยู่ในซอย 51 อยู่พักนึง น่าแปลกที่สายตาสิบคู่ดูไม่ออกว่า ตู่น้อยน่ะเลี้ยวผิดทางแทนที่จะเลี้ยวต่อซอย 51 ดันเลี้ยวเข้าซอย 49 หน้าตาเฉย เลยได้นั่งดูบ้านเศรษฐีแถวนั้นกันไปพลางๆระหว่างที่ตู่น้อยกลับรถขับวนกลับมา อะกาลิโก เป็นร้านที่น่านั่งมากๆ ฉันเองก้อชอบบรรยากาศอย่างสุดแสน พูดง่ายๆว่าไปกินบรรยากาศกันเลยล่ะเพราะขนมยังไม่เจ๋งพอที่จะเอามาคุยอวด ดูเหมือนว่า คีชไส้แฮมจะเป็นที่ถูกปากของ พี่ปุ๋ยตู่น้อยและโบ่โบ๊ (ที่จริงเค้าชื่อน้องโบว์นะ เรียกเค้าให้น่ารักขึ้นโดยไม่ขออนุญาตเค้าเลยวุ๊ยตู...) แอบเปิ้ลคัมเบิ้ลยังไม่เป็นที่น่าพอใจเพราะไม่มีครีมซอสราดมาเลย มันเลยแห้งเกินไป sconeก้อเนื้อแน่นเป็นเค้กมากไปหน่อย ครีมกับแยมให้น้อย และที่สำคัญครีมเหลวมากแม้จะเป็นครีมกระป๋องสำเร็จรูปที่ไม่ได้เอามาเขย่าเองแบบสตาร์บั๊คส์ ... ขนมเค้กอัลมอนด์คาราเมลอร่อยดี แต่เค้กช๊อคตู่น้อยบอกว่ามันขมไป ... มีเหมือนแอบเปิ้ลทาร์ตอยู่หนึ่งชิ้นอันนั้นหมดไปโดยลืมให้คะแนน ส่วนชาพีชและชาวนิลลา คะแนนยังไม่ผ่านค่ะ ไม่รู้ว่าคาปูชิโน่เย็นของพี่ปุ๋ยเป็นยังไงไว้ถ้ามีโอกาสได้กลับไปอีกรอบค่อยลองไปชิมดูอีกที ข้างนอกเป็นสวนหย่อมที่งดงามสไตล์บาหลี มีต้นไม้ดอกไม้มากมาย มีลั่นลมร่วงสู่พื้นเป็นระยะๆ มองเห็นต้นจามจุรีและต้นไทรย้อยอยู่ไม่ไกล กล้วยไม้นานาพันธุ์ bird of paradise เป็นหย่อมๆ มีน้ำพุรายล้อมบริเวณ และมีห้องคล้ายศาลาหกเหลี่ยมแต่เป็นห้องกระจกสามารถเปิดแอร์ใช้เป็นห้องมีตติ้งย่อยๆสำหรับสิบคนได้ เครื่องเรือนเป็นพวกเก้าอี้โซฟาผ้าฝ้ายและหวายสีขาว โคมไฟเป็นแชนดาเลียร์ห้อยระย้า มีกล้องโพลารอยด์แบบเก่ายืนตั้งตระหง่านอยู่หน้าประตูทางเข้า ปราสาทสีขาวโปร่งคล้ายโมเดลชนิดนึงอยู่อีกมุมของร้านซึ่งทำให้บรรยากาศของร้านดูสวยงามประหลาดตา และต้นเฟิร์นที่ประดับไว้ในร้านก้อทำให้รู้สึกรื่นรมณ์ พวกเราอยู่กันตั้งแต่ประมาณบ่ายสองละมั้ง ... จนกระทั่งห้าโมงครึ่งเข้าไปแล้ว พี่ปุ๋ยถึงได้สะกิดๆว่า ...ร้านนี้เค้าปิดหกโมงเย็นนะ พวกเราจึงค่อยขยับก้นเพื่อถอนรากออกจากเก้าอี้เสียที ฉันน่ะหนักกว่าเพื่อนเพราะได้เก้าอี้โซฟายาวแบบนอนลงไปได้เลย เกือบลุกไม่ขึ้นเพราะวันนี้ฝนตกซะด้วย หลังคาและกระจกของร้านก้อทำให้มองเห็นสายฝนที่โปรยปรายลงมา ด้านนอกก้อมีลั่นทมบานสู้กับสายฝนเย็นฉ่ำ โอ้พระเจ้ายอด... มันจอร์จมากเลยล่ะ... @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ วันนี้โรแมนติคจัง เป็นอะไรเอ่ย? ฉันคงกำลังคิดอยู่ล่ะมั้งว่า ถ้าหากว่าหลินฮุ่ยมาเมืองไทยได้จริงๆเดือนหน้า และถ้าฉันยังอยู่ ... ฉันอาจจะอยากพาเขามานั่งร้านนี้อย่างสบายอารมณ์อีกครั้ง ไม่ต้องมีคำพูดก้อได้ ขอแค่ได้นั่งอ่านหนังสือด้วยกันเงียบๆอย่างมีความสุขกันทั้งคู่ นั่นก้อเพียงพอแล้วล่ะ ถ้าหากจะมีวันนั้น และมีฝนตกแบบวันนี้... ก้อคงดีนะ ราตรีสวัสดิ์ หลินฮุ่ย... :) @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ ห่างไกลกันเหลือเกิน สุดฟ้าไกล... อยู่ที่ไหนฉันมองไม่เห็นหน้าเธอเลย ฝากดวงดาวทุกดวง บอกว่าฉันคิดถึงเธอ...อยากจะรู้ได้ยินหรือเปล่า? อยากให้มาใกล้กันอย่างเหมือนเคย เอ่ยคำว่ารักกัน ได้เห็นแววตา เอื้อมมือไปก้อเจออย่างนั้นทุกเวลา อยู่ตรงหน้าฉันคงไม่เหงา... หลับตาลงเลยคนดีไม่ต้องกลัว ห่างแค่ไหนดวงใจเราจะพบกัน ภาพความหวานเก่าๆที่เคยมองเห็น คือฉันคนเดิมคนนี้ หลับตาลงเลยคนดีจะไม่เหงา... ที่ไกลจะใกล้เพียงลมหายใจ หากใจถึงกัน...ขอบฟ้าก้อคงแคบลง
Create Date : 04 เมษายน 2548
Last Update : 5 เมษายน 2548 16:10:49 น.
24 comments
Counter : 1892 Pageviews.
โดย: ``|ยัย|ตัว|แสบ|`` (yai_tua_sabb ) วันที่: 4 เมษายน 2548 เวลา:10:09:32 น.
โดย: เด็กที่รอคอยจะไปข้างนอกแล้น IP: 203.145.26.35 วันที่: 4 เมษายน 2548 เวลา:13:31:36 น.
โดย: thingummy วันที่: 4 เมษายน 2548 เวลา:13:38:54 น.
โดย: บีท IP: 61.91.213.24 วันที่: 5 เมษายน 2548 เวลา:9:44:25 น.
โดย: =too= วันที่: 5 เมษายน 2548 เวลา:11:50:38 น.
โดย: เด็กที่รอคอย..เอ๊ะก้อล๊อคอินแล้วนี่นา IP: 203.145.27.15 วันที่: 5 เมษายน 2548 เวลา:11:51:41 น.
โดย: เด็กที่รอคอย..ตกลงมันหาว่ายังไม่ได้ล๊อคอิน IP: 203.145.27.15 วันที่: 5 เมษายน 2548 เวลา:11:58:19 น.
โดย: too IP: 203.185.154.226 วันที่: 5 เมษายน 2548 เวลา:13:06:36 น.
โดย: ปุกปุย IP: 203.154.148.50 วันที่: 5 เมษายน 2548 เวลา:13:22:02 น.
โดย: วีวี่ IP: 221.128.108.32 วันที่: 5 เมษายน 2548 เวลา:13:27:12 น.
โดย: ``|ยัย|ตัว|แสบ|`` (yai_tua_sabb ) วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:9:42:02 น.
โดย: เด็กที่รอคอย..เฮ้อวันนี้มันร้อนจริงๆนะ (เด็กที่รอคอย ) วันที่: 7 เมษายน 2548 เวลา:12:12:52 น.
โดย: ด.เด็ก IP: 221.128.110.121 วันที่: 7 เมษายน 2548 เวลา:15:25:13 น.
โดย: nostalgian IP: 203.130.131.250 วันที่: 30 มกราคม 2549 เวลา:17:35:50 น.
โดย: tazzz วันที่: 8 เมษายน 2552 เวลา:11:40:00 น.
Location :
กรุงเทพ Australia
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [? ]
จะเป็นกรวดหรือเพชร ถ้าไปนึกรักมันเข้าแล้วหายไปเมื่อไรก็เสียดาย ยิ่งรักมากก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนถึงกับเสียคนไปก็มี "ถ้าเราไม่อยากทุกข์มากไม่อยากเสียคน ก็อย่าไปรักอะไรให้มากนัก ถึงจะรักก็ต้องรู้กำพืดว่ามันเป็นเพชร หรือเป็นกรวด" ถ้ารู้ราคาจริงๆของมันเสียแล้วถึงมันจะหายไป เราก็จะไม่เสียดายมากนัก (จาก "สี่แผ่นดิน" โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช) สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
สอนที ใส่รูปยังไงอ่ะ แง๊ จาลงรูป จาลงรูปง่ะ นี่อุตส่าห์เตาะแตะมาต่อสู้กับการทำบล๊อคได้ด้วยตนเองแล้วนะ