มารู้จัก "มัน" กันเถอะ
วันนี้รู้สึกครึ้มใจ อยากเริ่มเรื่องที่ให้ความรู้เพื่อที่เราจะไม่ต้องรู้อยู่คนเดียว เพราะตั้งแต่รู้จักกับสัตว์ชนิดนี้มาได้มีโอกาสแบ่งปันให้คนอื่นร่วมรู้จักอย่างเป็นเรื่องราว น้อยมากฃเกริ่นก่อนนะคะ ว่าเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ถิ่นอาศัยอยู่ในน้ำทะเลที่ค่อนข้างใส พบได้ทั่วไป ตั้งแต่ความลึก 3 เมตรลงไปลองมาดูกันนะ ว่าตัวอะไรทุกคนคงจะเห็นพ้องต้องกัน ว่าเป็นอะไรซักตัว รูปร่างแปลก ๆ คล้าย ๆ ดาวทะเลแต่สิ่งที่ทุกคนคงไม่ปฏิเสธ น่าจะเป็นสีสันที่สดใส ได้ใจผู้ที่พบเห็น เค้าเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะมีหลายสี บางชนิดสีเดียว บางชนิดก็พบรูปแบบสีได้มากถึงสิบรูปแบบขึ้นไปลองดูอีกซักภาพนะคะ จะเห็นได้ว่า นอกจากเค้าจะมีสีที่ถูกตา ยังจะมีรูปร่างให้แปลกใจได้อีกค่ะสัตว์ชนิดนี้ มีชื่อไทยว่า ดาวขนนก ส่วนชื่อสามัญที่รู้จักกันทั่วโลกก็คือ Feather star. เป็นสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลังที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับเม่นทะเล ดาวทะเล และปลิงทะเล ถูกแล้วค่ะ เป็นข้อมูลที่ไม่ผิดพลาดแน่นอนเนื่องจากสัตว์ในกลุ่มนี้ มีหนามอยู่ที่ลำตัว จึงได้มีชื่อกลุ่มว่า Echinoderm อันนี้ผู้ที่เคยเรียนสายวิทย์มา คงรู้ที่มาที่ไปของชื่อกลุ่มแล้วออ แล้วก็ ดาวทะเลไม่ใช่ปลาดาวนะคะ ปลาเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังผู้คนชอบพูดกัน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งในกรณีของหอยเม่นก็เช่นเดียวกัน ถ้าใครยังเรียกแบบนี้อยู่ก็แนะนำให้เปลี่ยนมาเรียกว่าเม่นทะเลกันได้แล้วค่ะอาจจะแปลกใจ ที่ดาวขนนก จะดูยังไง ก็ไม่เห็นจะมีหนามกับเค้าเล้ยทำไมถึงได้จัดอยู่ในกลุ่มนี้ หลักฐานอีกอย่าง มาจากลักษณะของตัวอ่อน รวมถึงการพัฒนาการของตัวอ่อนด้วย เพราะมีรูปแบบเดียวกัน เลยไม่สามารถแยกออกไปตั้งกลุ่มใหม่ได้ทีนี้ เราลองมาดูโครงสร้างร่างกายของเค้าดีไม๊คะร่างกายของดาวขนนกส่วนใหญ่ เป็นโครงสร้างหินปูนค่ะซึ่งก็เป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ที่ปะการังนำไปสร้างโครงสร้างร่างกายนั่นเองดาวขนนกจะมีก้อนอวัยวะภายในที่รวมทั้งปาก ทวารหนัก และระบบประสาทอยู่ด้านบนนั่นเอง ลองมาดูหน้าตากันค่ะดาวขนนกเนี่ย จะพิเศษกว่าเม่น ดาวทะเล รวมถึงปลิง ตรงที่ว่า เค้ามีปากและทวารอยู่ด้านเดียวกัน คือด้านบน ส่วนเม่นและดาวจะมีปากด้านล่าง ทวารหนักด้านบนของลำตัวค่ะในปลิงทะเลก็แยกกันอยู่คนละด้าน อย่างชัดเจนอืมมมมมม แล้วเวลาเค้าถ่ายเนี่ย เค้าจะกินมูลตัวเองลงไปอีกมั๊ยขออธิบายโครงสร้างร่างกายให้จบก่อนนะคะแล้วค่อยไปดูวิธีการกินอาหาร จะได้รู้กันว่าเค้าจะกินมูลได้มั๊ย ทีนี้ก็เห็นกันอย่างชัดเจนแล้วนะคะ ว่าโครงสร้างร่างกายของดาวขนนกนั้นประกอบไปด้วยแผ่นกลางลำตัว ที่อยู่บนแผ่นกระดูกด้านตรงข้ามปาก เรียงต่อกันในแนวรัศมีเป็นรูปถ้วย ทางด้านบนเป็นก้อนเนื้อเยื่อที่รวมอวัยวะภายในเข้าด้วยกัน มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อเยื่อที่ปิดทับอยู่บนแผ่นกลางลำตัวโดยมีปากและทวารหนักอยู่บนด้านเดียวกัน ทางด้านล่างมีแผ่นกลางตัวด้านตรงข้ามปาก เชื่อมรวมกับแผ่นกระดูกด้านตรงข้ามปาก และมีปลอกรองรับกิ่งของก้าน (cirrus socket) ซึ่งกิ่งของก้านนี้จะทำหน้าที่เกาะเกี่ยวกับวัตถุที่อยู่ใต้น้ำ กิ่งของก้านจะไม่มีการแตกแขนง มีลักษณะเป็นข้อหินปูนมาเรียงต่อกัน โดยที่ข้อสุดท้ายจะเปลี่ยนเป็นรูปโค้ง คล้ายกับตะขอ และที่ข้อก่อนข้อสุดท้าย จะมีลักษณะเป็นหนามที่ด้านในของกิ่งของก้านเพื่อใช้ยึดติดกับวัตถุใต้น้ำอย่างมั่นคงแขนของดาวขนนกจะแตกออกในแนวรัศมี จากแผ่นกลางตัวจำนวน 5 แขนและจะแตกแขนงออกไปอีก อาจพบว่ามี 5 แขนไปจนถึงมากกว่า 200 แขน แขนของดาวขนนกจะยาวและสามารถโค้งงอได้ มีลักษณะเป็นข้อหินปูนเล็ก ๆ มาเรียงต่อกันและยึดติดกันด้วยเส้นเอ็น (ligament) ที่อยู่ข้างในข้อหินปูนนั้น ทำให้แขนไม่หลุดออกจากกัน การเคลื่อนไหวของแขนมาจากการหดตัวของกล้ามเนื้อดึงให้แขนมีการยกขึ้น และจะใช้เส้นเอ็นช่วยยึดข้อหินปูนไม่ให้หลุดออกจากกันในขณะที่มีการยืดแขน ในแต่ละข้อของแขนจะแตกแขนงออกไปในซีกซ้าย ขวา เรียกว่า กิ่งของแขน ซึ่งทำหน้าที่ดักจับอาหารและส่งอาหารเข้าสู่ร่องอาหาร (ambulacral groove) ที่มีลักษณะเป็นร่องที่เชื่อมต่อกันในแต่ละแขน ภายในของร่องอาหารจะประกอบไปด้วยเซลล์บุผิวที่มีซีเลีย (cilia) ทำหน้าที่โบกพัดอาหารที่อยู่ในร่องอาหารให้เคลื่อนจากร่องอาหารที่อยู่ที่แขนเข้าไปในร่องอาหารที่อยู่บนผิวของก้อนอวัยวะภายใน จากนั้นจึงส่งอาหารเข้าสู่ปาก อืมมมม รู้สึกว่าตัวหนังสือจะเริ่มเยอะแล้วค่ะ เริ่มจะไม่ค่อยน่าอ่านแล้ว
จริง ๆ แล้ว คนเขียนเริ่มง่วงแหละค่ะ
รออ่านต่อตอนหน้าแล้วกันนะคะ
สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ... ชีวิตนี้สงสัยยากที่จะได้เห็นสด ๆ
ได้เห็นที่นี่ ... ดีจังเลยค่ะ
เรื่องภาพถ่าย ... หัดเหมือนกันค่ะ ^^
ไว้เรามาเยือนที่นี่เหมือนกันนะคะ
มีโอกาสแวะไปที่บ้านได้นะคะ ... แลกเปลี่ยนพูดคุยกันค่ะ
:)
good night นะคะ