 |
|
|
 |
 |
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
| 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
| 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
| 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
| 29 | 30 | 31 | |
|
|
| |
|
 |
|
|
|
(อีกครั้ง) นวัตกรรมรัฐธรรมนูญ
ในสมัยเด็กๆ คุณครูเคยบอกว่าประเทศของเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่ระบอบประชาธิปไตยเฉยๆ แต่เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองประทศสยามของเราก็ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ไม่ใช่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเฉยๆ แต่เป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชแบบพ่อปกครองลูก ดังปรากฏในศิลาจารึกตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นต้นมา ซึ่งมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เช่นในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายนั้น ๆ แต่โดยรวมแล้ว เจตนาของผู้ปกครอง ก็เพื่อการกินดี อยู่ดี มีสุข ของไพร่ฟ้า ประชาชนนั่นเอง
สำหรับคนที่ไม่ถนัดเรื่องประวัติศาสตร์ทางการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เห็นจะเป็น พวกชนชั้นกลาง และพวกชนชั้นล่าง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือคนไทยกว่าค่อนประเทศนั่นแหละ คนที่วุ่นวายอยู่กับการหาเช้ากินค่ำ และคนที่ถูกทำให้วุ่นวายใจ จากความกลัว จากการถูกเอารัดเอาเปรียบ กดขี่ข่มเหง จากอำนาจของผู้ปกครอง กลุ่มคนที่ถูกทำให้มีความรู้อยู่เพียงแค่ว่า ข้าฯ จะปกครองระบบ หรือระบอบอะไร ก็ถูกปกครองกันไปเถอะ ผู้ปกครอง อย่างข้าฯ สามารถทำให้ประชาชนอย่างพวกเจ้า ยังกินดี อยู่ดี มีสุข ก็แล้วกันน่า และที่สำคัญก็คือ พวกผู้ปกครองอย่างข้าฯ ก็ยังรักและเทิดทูนพระมหากษัตริย์ของพวกเจ้าอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ
...หรือพระมหากษัตริย์ในความเทิดทูนของประชาชนคนหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเรา จะไม่ใช่พระมหากษัตริย์ ในแนวความคิดของผู้ปกครอง ที่อ้างว่ายังปกครองประเทศนี้ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข...
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าระบบอะไรก็แล้วแต่ ของแต่ละประเทศในโลกของเราที่ดำเนินอยู่ได้ ก็เพราะมีความสมดุลกันอยู่ในหลายประการ หนึ่งในนั้นคือรูปแบบของการปกครอง ที่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นประชาธิปไตย และอีกฝ่ายหนึ่งก็เป็นคอมมิวนิสต์ ไม่มีระบบที่ผิด และไม่มีระบบที่ถูก มีแต่ระบบที่เหมาะสม ถ้าระบบในแต่ละฝ่ายไม่เหมาะสม มันก็คงสภาพอยู่ไม่ได้ เช่นในสหภาพรัสเซีย เมื่อระบบเดิมล่มสลาย ระบบใหม่เกิดขึ้น สมดุลก็เปลี่ยน โลกก็เอียงไปนิดหนึ่ง เอียงมาทางตะวันออก กลายเป็นฝ่ายนิยมตะวันตก กับ ฝ่ายนิยมตะวันออก แถมอีกฝ่ายเล็ก ๆ ที่ไม่นิยมซักฝ่าย ฝ่ายนิยมผู้ก่อการร้าย
แต่ไม่ว่าสมดุลของโลกจะเปลี่ยนไปเช่นไร ระบบที่ซ้อนซ่อนอยู่ในทุกๆระบบที่มีมนุษย์เป็นผู้สร้าง ก็คือระบบของความละโมบ ผู้ปกครองที่ละโมบมักถ่ายทอด รูปแบบการบริหารงานรัฐกิจออกมาในรูปแบบของระบบทุนนิยม ซึ่งเป็นที่เรารู้จักกันดี และเป็นที่ได้ยินได้ฟังกันเสมอว่าเป็นระบบของ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก นั่นไง คนระดับผู้ปกครองยังออกมาพูดเอง เน้นย้ำให้พวกเราเข้าใจว่าระบบที่แฝงตัวอยู่ในรูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตยนั้น เป็นระบบของสัตว์เดรัจฉาน
ประชาธิปไตยแบบทุนนิยม ก็คงจะไม่แตกต่างไปจากประชาธิปไตยแบบเดรัจฉานนิยม อย่างนั้นกระมังระบบที่นักวิชาการหลายฝ่ายในปัจจุบันได้ออกมาลงความเห็น และยอมรับแล้วว่า เป็นระบบที่ลอกเขามาอย่างไม่เหมาะสม
ยังไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอก ยังพอมีทาง... ยังมีอีกระบบหนึ่งที่ถูกซ่อนซ้อนไว้ ไม่ให้ใครเห็นง่ายๆ ไม่ยอมให้ใครได้เข้าไปพัฒนา แถมในยุคของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ระบบนี้ก็ยังกลายเป็นเหยื่อของการโฆษณาชวนเชื่อของผู้ปกครองในยุคนั้น ทำให้บุคคลผู้เสนอแนวความคิดนี้ต้องถูกใส่ร้ายป้ายสี ถึงขนาดต้องลี้ภัยไปในต่างแดน ระบบนี้เป็นอุปสรรคของทุนนิยม อย่างจริงแท้ แน่นอน เป็นระบบที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ปกครองในระบบทุนนิยม ระบบนี้เราเรียกว่า ระบบสหกรณ์ เป็นระบบที่ถือเอาเสียงข้างมากเป็นใหญ่ สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย และไม่ว่าจะมีทุนรอนมากมายสักเพียงไหน ก็มีสิทธิ์เพียงเสียงเดียวเท่านั้น ชาวสหกรณ์ย่อมรู้ดี
ลองจินตนาการดูในอนาคต อีกหลายปีข้างหน้า ประชาชนทุกคนเป็นสมาชิกสหกรณ์ สหกรณ์การไฟฟ้า สหกรณ์การประปา สหกรณ์การโทรศัพท์ สหกรณ์การปิโตรเลี่ยม และอื่นๆ อีกมากมายของรัฐวิสาหกิจ
แล้วในที่สุดรัฐบาลก็จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาสหกรณ์แบบไม่สังกัดพรรค ทั่วประเทศเป็นครั้งแรก ได้ตัวแทนกว่า 200 คน มาทำหน้าที่เป็นปาร์ตี้ลิสท์ให้พรรคที่มีเสียงข้างมากได้เข้าไปเลือก เพื่อให้เข้าไปนั่งบริหารประเทศผ่านกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขราษฎรในเขตความดูแลของตนต่อไป สมาชิกวุฒิสภาก็ทำหน้าที่ ตรวจสอบ ถอดถอน กันต่อไป กลายเป็นนวัตกรรมทางการเมือง เปลี่ยนจากระบอบประชาธิปไตยทุนนิยมอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กลายเป็นระบบระบอบประชาธิปไตยสหกรณ์นิยมอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
...หรือหากเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ขั้นที่สมดุลของระบบในประเทศได้สูญเสียไปแล้วอย่างถาวร ไพร่ฟ้า ประชาชน คนรากหญ้า ทาสทุนนิยม เดรัจฉานของผู้ปกครอง อย่างพวกเรายังถูกเอารัดเอาเปรียบจากรัฐบาลที่ ชื่อนายทุน นามสกุลศรีธนญชัย อยู่อย่างสม่ำเสมอเป็นปรกติ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ก็คงจะต้องขอวิงวอนให้พวกท่านทั้งหลาย หยุด หยุดเพียงแค่พูด แล้วออกมาแสดงตัวกันให้ถ้วนทั่ว ประกาศให้ผู้ปกครองรับรู้ รับทราบไปเลยว่า อำนาจที่พวกท่านผู้ปกครองทั้งหลายยึดไปนั้น บัดนี้ข้าพเจ้าขอทวงคืน และขอถวายสิทธิ และอำนาจทั้งปวงที่ได้กลับคืนมาแล้วนั้นให้กับพระมหากษัตริย์อันเป็นพระประมุขด้วยเทอญ ฯ
| Create Date : 06 ตุลาคม 2549 |
| Last Update : 10 ตุลาคม 2549 1:00:10 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 442 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: จขกท. (เหนือลิขิต  ) วันที่: 6 ตุลาคม 2549 เวลา:20:23:19 น. |
|
|
|
|
| เหนือลิขิต |
 |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สวัสดีท่านที่หลงเข้ามาในเว็บบล๊อกแห่งนี้ทุกท่าน
อย่าเพิ่งแปลกใจที่ได้อ่านอะไรไปโดยที่ยังไม่ได้เห็นแม้เงาของผู้เขียน อยากจะบอกว่าผมเอง เป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย จนหลายคนอาจจะตกใจกับการปฏิบัติตน แนวความคิดของผม ไม่ถึงกับต่อต้านสังคม เพียงแต่อยากให้สังคมได้รับรู้ และมีทางเลือกในสิ่งที่ดีกว่า เพราะการมีโอกาสได้รู้ ได้เห็น ในสิ่งต่างๆ มามากพอควรแล้ว ต่อไปนี้จึงเป็นการลงมือทำ โดยเริ่มต้นด้วยการเขียน และสิ่งต่างๆที่เขียนก็ล้วนเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ในประเทศไทยของเรานี้
ขอทุกท่านจงโปรดช่วยชี้แนะ
|
|
|
|
