|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
นกกระจาบทอง (Asian Golden-Weaver)
https://www.flickriver.com/photos/tags กระจาบทองเพศผู้ (Asian Golden-Weaver) by somchai@2008
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ploceus hypoxanthus ชื่อสามัญ : Golden Weaver วงศ์ : Ploceidae
นกขนาดเล็กในวงศ์ Ploceidae มี 3 ชนิด คือ
กระจาบธรรมดา (Ploceus philippinus) กระจาบอกลาย (P. manyar) และ กระจาบทอง (P. hypoxanthus)
ลักษณะทั่วไป
เป็นนกขนาดเล็ก วัดจากปลายปากถึงปลายหางยาวประมาณ 15 เซนติเมตร เมื่อมองเผิน ๆ จะเห็นเป็นสีน้ำตาลโดยตลอด แต่ถ้าสังเกตจะเห็น หัว หลัง ปีก และหางสีน้ำตาล บริเวณมุมปาก ผ่านตามาถึงข้างคอสีน้ำตาลเข้ม อกและท้องสีน้ำตาลนวล ตัวผู้เมื่อโตเต็มวัยและอยู่ในระยะ ผสมพันธุ์ขนหัวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด ปากสีน้ำตาลเข้มหรือดำ อยู่รวมกันเป็นฝูงตาม ท้องทุ่ง ไร่ และนาข้าว กินเมล็ดพืชและแมลงขนาดเล็ก
นกกระจาบ มีปากสั้นแข็งแรง ปลายปากแหลม ใช้จิกดึงแมลง พืชจากรวงแล้วขบให้แตก เพื่อกินเนื้อใน นอกจากนั้นยังใช้ฉีกใบหญ้าคา ใบปาล์มต่าง ๆ ฯลฯ เป็นเส้นยาว ๆ เพื่อนำมาทำรัง
นกกระจาบทอง ในฤดูธรรมดาตัวผู้และตัวเมียจะมีสีลายเหมือนกัน คือ สีพื้นทั่วไปจะเป็นสี น้ำตาล ท้องจะมีสีน้ำตาลอ่อน ปีกและหางจะมีสีน้ำตาลเข้ม ลายขนหัว บนหลัง บนปีก คิ้ว จะเป็นสีน้ำตาลอ่อน ปากหนาสีน้ำตาล กว้างและสั้น
https://www.biogang.net/biodiversity
ในฤดูผสมพันธุ์ (ปลายฤดูร้อน ถึงกลางฤดูฝน) นกกระจาบทองตัวผู้ หัวถึงต้นคอ หน้าอกท้อง และหลัง ส่วนโคนหาง จะเป็นสีเหลืองทอง แก้มใต้คอจะเป็นสีดำน้ำตาล ปากเป็นสีเทาเข้ม ปลายหางขาวนิด ๆ ลายบนหลังและบนปีกเป็นสีเหลืองชัดเจน ม่านตาเป็นสีน้ำตาลแดง ตีนสีชมพู อมน้ำตาล ทำให้แยกออกจากนกกระจาบธรรมดาได้อย่างชัดเจน เพราะในช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ นกกระจาบทองทั้งตัวผู้และตัวเมียจะมีสีออกน้ำตาลคล้ายคลึงกัน และคล้ายกับนกกระจาบธรรมดาด้วย
นกกระจาบ อยู่รวมกันเป็นฝูง ตามท้องทุ่ง ไร่ นา สร้างรังเอง ปราณีต ทนทาน ใช้เวลาสร้างนานหลายวัน มักพบห้อยระย้าอยู่หลายรังตามต้นไม้ต้นเดียวกัน รังนกกระจาบมีความปลอดภัยกว่านกชนิดอื่น กันแดด ฝน ลม ได้ดี และ ป้องกันภัยจากศัตรูพวกงู หนู และเหยี่ยวได้ดี
นกกระจาบ ที่พบในไทย มี 3 ชนิด คือ
https://www.lomluang.com/webboard นกกระจาบธรรมดา
นกกระจาบธรรมดา อกไม่มีลาย พบทั่วทุกภาค และมีจำนวนมากกว่าชนิดอื่น
https://2.bp.blogspot.com/-kQG14a8UEvs นกกระจาบอกลาย
นกกระจาบอกลาย อกมีลายจุดสีน้ำตาล พบในภาคกลาง และภาคเหนือ
https://www.britishecologicalsociety.org/grants Photo Credit: Ms Ute Bradter - นกกระจาบทองตัวผู้กำลังสร้างรัง
นกกระจาบทอง ในฤดูผสมพันธุ์ขนที่คอตัวผู้จะเป็นสีเหลืองสด พบเฉพาะภาคกลางสิ่งที่น่าสนใจคือ มันเป็นนกที่สร้างรังได้สวยงามที่สุดชนิดหนึ่ง ตัวผู้จะโฉบเอาใบหญ้ามาสานเป็นรังห้อยตามต้นไม้ใหญ่ ดูเหมือนงานหัตถกรรม (น่าจะเรียกว่าโอษฐกรรมมากกว่า) มีจุดประสงค์คือล่อใจนกสาว ๆ ในฤดูผสมพันธุ์ คือหน้าร้อนต่อฝน มันจะอวดฝีมือด้วยการสร้างรังเป็นรูปกระเปาะทรงกลม ในเฟสแรกนี้จะสร้างให้ ด้านล่างมีกิ่งไม้สำหรับเกาะ ดูไปก็คล้ายชิงช้าให้นกสาวมาเกาะ
นกกระจาบสาวจะบินมาตรวจงานดูว่าบ้านหลังนี้เรียบร้อยแข็งแรงดีไหม หลบแดดฝนได้ดี หรือเปล่าทำนองนั้น ถ้าถูกใจก็จะยอมอยู่ด้วย เจ้านกหนุ่มก็ถือว่าได้คู่มาอยู่ในเรือนหอ ที่สร้างรอไว้ ผสมพันธุ์สืบเชื้อสายนกกระจาบกันไปตามธรรมชาติ
ระหว่างนี้นกตัวเมียก็จะปรับปรุงเรือนหอใหม่ ให้เป็นอู่เพื่อเหมาะกับการวางไข่ กกไข่และสานทอ ทางเข้าด้านล่างเพิ่มเติม จนมีลักษณะเหมือนปล่องตามที่เห็นในภาพ เจ้าตัวผู้ถ้านิสัยดีก็จะ ขะมักเขม้นช่วยเมียต่อเติมรัง ถ้านิสัยไม่ดีก็จะดอดไปสร้างรังใหม่ล่อนกสาวตัวอื่นต่อไป
https://bit.ly/2IfYIzS
นกกระจาบ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "weaver" มาจากพฤติกรรมการทำรังด้วยหญ้าแห้งสานขัดกันไปมา ด้วยจงอยปาก เหมือนดั่งช่างจักสานถักทอรังด้วยเส้นใยที่ฉีกมาจากใบหญ้า ทำเป็นรูปทรงต่าง ๆ ผันแปรไปตามชนิดของนก
https://www.be2hand.com/scripts/view.php?prod_id=507066
นกกระจาบธรรมดา สร้างรังคล้ายคนโท แขวนห้อยยาวลงมาจากกิ่งไม้ มีทางเข้าเป็นช่องเปิดอยู่ด้านล่างของ ตัวรัง พบเห็นได้ทั่วไปตามต้นไม้ใหญ่บนคันนา หรือชายขอบพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น บึง หรือหนองน้ำ หากสังเกต สักนิด จะพบว่านกจะสร้างรังอยู่เหนือน้ำ เป็นฝูงหลายสิบรัง เพื่อป้องกันมิให้สัตว์อื่นเข้าถึงรังได้ง่าย
ส่วนนกกระจาบอีกสองชนิด คือ นกกระจาบอกลาย นกกระจาบทอง รังจะไม่ประณีตเท่ากับนกกระจาบธรรมดา จะสร้างรังทรงกลม มีทางเข้าด้านข้าง เป็นการยากที่จะพินิจหาเหตุผลว่าทำไมนกกระจาบแต่ละชนิด จึงทำรังแตกต่างกัน ไม่ว่ารูปทรงของรังจะต่างกันอย่างไร ลักษณะร่วมที่ทำให้นกประสบความสำเร็จ ในการทำรังเพื่อวางไข่และเลี้ยงลูกจนบินออกจากรังได้อย่างปลอดภัย กอปรด้วยการทำรังเป็นฝูง เรียกว่า colonial breeding และตำแหน่งของรังจะอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ทั้งแขวนบนกิ่งไม้เล็ก ๆ ที่ห้อยย้อย ยากต่อการปีนป่ายของนก สัตว์ต่าง ๆ หรืออาจถูกถักทอยึดติดกับพืชน้ำ เช่น ต้นธูปฤๅษี ช่วยกีดขวางการเข้าหาตัวรังให้ยากขึ้นไปอีก
https://thaimisc.pukpik.com/freewebboard นกกระจาบธรรมดา
ส่วนมากรังของนกกระจาบสร้างด้วยใบหญ้าคาฉีกเป็นเส้นตามยาวของใบ นำมาพันร้อยกับกิ่งไม้ ถักสานยึดไปมา อย่างน่าดู และดูเหมือนต้องใช้ความพยายามและอดทนมาก รังหนึ่ง ๆ ต้องใช้เวลาสร้างนับ 10 วันจึงแล้วเสร็จ มักพบห้อยระย้าอยู่หลายรังตามต้นไม้ต้นเดียวกันหรือกอเดียวกัน เช่น ต้นก้ามปู ต้นสะแก ต้นมะขามเทศ กอไผ่
https://thaimisc.pukpik.com/freewebboard นกกระจาบธรรมดา
นกกระจาบมีพฤติกรรมการสร้างรังที่แยบยล ทั้งวิธีสร้าง รูปลักษณะของรัง และการป้องกันภัย นกตัวผู้จะหาวัสดุมาสร้างรังและเลือกสถานที่ทำรังด้วยตัวเอง รังมีลักษณะคล้ายโคมไฟ เป็นรังเปิดทางด้านล่างบ้าง เป็นรังปิดมีทางเข้าทางออกเป็นรูบ้าง ตรงกลางรังสานเป็นคอนจับนอน
ในการสร้างรังซึ่งเป็นหน้าที่ของนกกระจาบเพศผู้แต่เพียงผู้เดียวนั้น แบ่งออกเป็นสองช่วงเวลา คือ ในการสร้างรังช่วงแรกนั้น นกตัวผู้จะสร้างรังให้มีลักษณะคล้ายหมวก ที่มีสายรัดคาง จากนั้นจะหยุด เพื่อหาคู่ ต่อเมื่อได้คู่แล้ว จึงจะสร้างรังต่อจนเรียบร้อย จึงได้เรียก รังชนิดนี้ว่า " รังตัวผู้ " ขณะเดียวกัน ก็จะเรียกรัง ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ว่า "รังตัวเมีย"
รังตัวเมีย = รังที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว
เมื่อนกตัวผู้สร้างรังเรียบร้อย ภายหลังจากจับคู่ผสมพันธุ์ และเมื่อนกตัวเมียเริ่มฟักไข่ เจ้านกตัวผู้ก็จะแยกออกไปเริ่มต้นสร้างรังใหม่อีกครั้ง และเริ่มกระบวนการเกี้ยวพาราสีรอบใหม่ เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดฤดูผสมพันธุ์ หรือไม่ก็นกตัวเมียภายในฝูงมีคู่ไปหมดแล้ว เราจะพบว่าในช่วงหลัง ๆ ของฤดูผสมพันธุ์ จะมีรังชนิดที่ชาวบ้านเรียกว่า " รังนกตัวผู้ " แขวนอยู่ประปราย กลายเป็นรังร้าง
รังตัวผู้ = รังที่ยังสร้างไม่เสร็จ
เมื่อนกจับคู่กันแล้ว ตัวผู้และตัวเมียก็จะช่วยกันถักสานรังเดิมต่อเป็นรูปถุงห้อยยาวลงสู่พื้นดิน ความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร เป็นรังเปิด ส่วนล่างผายออก ด้านหนึ่งของคอนเป็นแอ่งรัง สำหรับวางไข่และเป็นที่อาศัยของลูกนกวัยอ่อน อีกด้านหนึ่งเป็นปล่องยาว 30-35 เซนติเมตร ปากปล่องชี้ลงดิน เมื่อจะเข้ารัง นกจะบินลงต่ำแล้วเชิดโผพุ่งเข้า ปล่องอย่างรวดเร็ว
https://yorke150.multiply.com/photos/album/62/62#photo=11 นกกระจาบทองตัวเมีย
นกกระจาบทองปกติจะมีไข่ 2-4 ฟองต่อรัง ใช้เวลาฟักไข่ 11-12 วัน และเลี้ยงลูกตามลำพังต่ออีก ประมาณ 3 สัปดาห์ ส่วนตัวผู้ ... ก็จะไปสร้างโครงสร้างรังอันใหม่เพื่อดึงดูดนกตัวเมียตัวใหม่ต่อไป ...
การสร้างรังวางไข่ในลักษณะดังกล่าวนี้เป็นพฤติกรรมเฉพาะ ในทางชีววิทยาถือว่ามีความหมาย ที่น่าศึกษาเนื่องจากพันธุกรรมจะเป็นไปทางพ่อ โดยตัวผู้จะเป็นตัวกระจายยีนสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน ได้มากกว่า และการที่ตัวเมียจะยอมรับหรือเลือกตัวผู้เป็นคู่ครองก็จะต้องดูความสามารถของตัวผู้ ในการสร้างรัง เรียกได้ว่านกกระจาบมีระบบการคัดเลือกสายพันธุ์ในการ ดำรงเผ่าพันธุ์ของมันตามธรรมชาติ
นกกระจาบตัวเล็กสีเหลืองสดใสน่ารักเป็นอาภรณ์ประดับท้องทุ่ง เป็นนกขนาดเล็กที่มีความโดดเด่น ไม่เพียงสร้างสีสันความสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ หากแต่ยังมีความหมายเชื่อมโยงถึงการเรียนรู้ จุดประกายการอนุรักษ์ในฐานะสัตว์ป่าคุ้มครองที่ยั่งยืนสืบไป ... แม้ว่ามันจะเป็นศัตรูของชาวนา เพราะแอบไปกินข้าวของชาวนาเป็นอาหารก็ตาม
อ้างอิง : https://animal-of-the-world.blogspot.com/2009/12/blog-post_6509.html
Kevin Kern - In The Enchanted Garden
Create Date : 28 กันยายน 2554 |
Last Update : 22 มกราคม 2564 21:27:06 น. |
|
45 comments
|
Counter : 77600 Pageviews. |
|
|
|
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:11:23:35 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:11:35:38 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:15:38:37 น. |
|
|
|
โดย: เพรางาย วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:22:11:57 น. |
|
|
|
โดย: Lika ka วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:13:30:50 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:16:01:18 น. |
|
|
|
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:16:56:58 น. |
|
|
|
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:20:38:57 น. |
|
|
|
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:8:48:12 น. |
|
|
|
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:9:12:14 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:15:30:27 น. |
|
|
|
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 1 ตุลาคม 2554 เวลา:8:42:55 น. |
|
|
|
โดย: bobobull วันที่: 1 ตุลาคม 2554 เวลา:20:12:47 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 3 ตุลาคม 2554 เวลา:12:08:53 น. |
|
|
|
|
|
|
|