บ้านรกด้วยมือเรา
https://goo.gl/lkHBJS
แปล ไทย-ไทย จากราชบัณฑิตยสถาน https://goo.gl/d6F5PS
สมบัติบ้า น. = ข้าวของที่เก็บไว้แต่ไม่มีประโยชน์ เช่น สมบัติบ้าเต็มตู้ไปหมด ไม่รู้จักทิ้งเสียบ้าง
คำจำกัดความ "สมบัติบ้า" จากราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายได้ชัดเจนพอสมควร คือเป็นข้าวของที่เก็บ ไว้ประเภทไม่ได้ใช้ประโยชน์ (ทันที) แต่คาดว่าอาจจะได้ใช้ในอนาคตหรือไม่ก็เป็นพวกสมบัติที่มีคุณค่าทาง จิตใจ ทิ้งก็ไม่ได้ อะไรอย่างนั้นเป็นต้น ยิ่งนานวันก็ยิ่งทับถมทวีมากขึ้น
ปัญหาบ้านรก ของเต็มบ้าน จึงเป็นปัญหาระดับชาติ (นี้ไม่ใช่ชาติหน้า) ... สารพัดวิธีก็ไม่เท่าการ "ตัดใจ" เพราะไม่ว่าคุณจะค้นหาสารพัดวิธีอะไรก็ตาม มันจะไม่มีวันสำเร็จได้เลย ถ้าคุณยังตัดใจทิ้งไม่ได้ซักที
1. ทำใจก่อนเลย
พยายามเคลียร์สมบัติบ้าในบ้านมาหลายครั้งแล้ว แต่ละครั้งที่ตัดใจโละทิ้งไปก็มิใช่น้อย แต่ที่ยังตัดใจไม่ได้ ก็ยังเยอะอยู่ ... ตามทฤษฎีแล้ว เขาบอกว่าถ้าคุณไม่หยิบจับของสิ่งนั้นมาใช้เลยในระยะเวลาสัก 1 ปี ก็หมายความ ว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีของสิ่งนั้นแล้ว จะยกให้ใครหรือบริจาคให้ใครก็จัดไปได้เลย และทุกครั้งที่เก็บบ้าน จงตัดใจ โยนของทิ้งไปบ้าง เพราะ 80% ของ ๆ ที่ถูกเก็บเอาไว้ไม่เคยถูกเอามาใช้อีกเลย และเมื่อถึงคราวที่จะใช้ก็อาจหา ไม่เจอหรือไม่ก็หมดอายุ ใช้ไม่ได้แล้ว เท่ากับเก็บวันนี้เพื่อรอทิ้งวันหน้า ก็ทิ้งซะวันนี้เลยไม่ดีกว่าหรือ บ้านจะได้ โล่ง ๆ จัดก็ง่าย สบายตาสบายใจ เหมือนวันแรกที่เราย้ายเข้ามาอยู่
เริ่มจากคัดแยกขยะ เอ๊ย ของ ก่อน ... ขาย จ่ายแจก และบริจาค ... ของชิ้นใหญ่ ๆ ที่พอขายได้ ก็ลงเว็บประกาศ ขาย ถ่ายรูปด้วยจะทำให้ขายได้เร็วขึ้น อันไหนที่ขายแบบนั้นไม่ได้ แต่ชั่งกิโลขายได้ ก็โกยใส่รถไปขายหรือเรียก รถรับซื้อถึงบ้าน จ่ายแจก แยกก่อนว่าอันไหนจะให้ใครได้บ้าง แยกใส่ถุง ใส่ลัง เขียนกระดาษติดไว้เลยว่าให้ใคร นอกเหนือจากนั้นก็โกยใส่ลัง บริจาคโลด ถ้าไม่รู้จะบริจาคให้ใคร เราใช้บริการวัดสวนแก้วบ้าง มูลนิธิบ้าง ตามสะดวกนะคะ
2. อย่าเริ่มต้นด้วยการ "ซื้อ"
หลายครั้งที่การเก็บบ้านล้มเหลว ทำได้แค่ย้ายของจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง หรือก็คือหาที่เก็บให้มันใหม่นั่นเอง ของก็ยังรกอยู่เหมือนเดิม การซื้อกล่อง ซื้อตู้ หรือชั้นวางของสำหรับของพวกนี้ ก็เท่ากับว่าบ้านของคุณจะได้ ของรกบ้านเพิ่มมาอีก 1 ชิ้น แต่ถ้าหากคุณมีการวางแผนไว้แต่ต้น บางทีไม่ต้องซื้อกล่อง ซื้อตู้มาเพิ่ม ก็จัดการกับ ความรกได้เช่นกัน เพราะของบางอย่างสามารถยกให้คนอื่นได้ หรือคัดแยกแล้วนำไปขายให้กับร้านที่รับซื้อได้
3. คิดก่อนซื้อ
ถามตัวเองก่อนซื้อทุกครั้งว่า จำเป็นหรือเปล่า ... ในทางจิตวิทยาแล้ว การชอปปิ้งซื้อของ ได้เลือก ได้หยิบ ได้จับ เป็นความสุขที่สัมผัสได้ อิอิ เรามักบอกว่าเป็นการให้รางวัลกับชีวิต ไม่ว่าชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ ก็มีอารมณ์สุขแบบนี้ได้ทั้งนั้น ทำให้เกิดการเสพติดการซื้อของ เมื่อซื้อมาแล้วก็จะสะสมโดยปริยาย
4. จัดระเบียบคนในบ้านร่วมด้วย
การจัดบ้านให้เป็นระเบียบต้องจัดระเบียบสังคมสมาชิกในบ้านด้วย ใช้อะไรเสร็จแล้วต้องเก็บเข้าที่เสมอ ตัวอย่างเช่น ถอดรองเท้าแล้ว ต้องเก็บเข้าตู้ อ่านหนังสือเสร็จแล้วต้องเก็บเข้าชั้น ดังนั้น ถ้าจะจัดบ้านให้ หายรก ก็ต้องจัดการกับพฤติกรรมสร้างความรกของคนในบ้านร่วมด้วย
5. ลดการสะสมสิ่งของ
การจัดบ้านอาจไม่เป็นไปตามที่วางแผน หากสมาชิกในบ้านไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลด ละ เลิก การสะสมสิ่งของต่าง ๆ ... มีแต่พอประมาณที่เราจะบริหารจัดการได้ พวกของสะสมบางอย่างถ้าเก็บให้ดี ก็เป็นของตกแต่งบ้านได้ แต่ถ้าเก็บไม่ดี ก็ทำบ้านรกได้เหมือนกัน
6. กำจัดของที่ไม่ใช้แล้วทันที
เมื่อวางแผนจะจัดการกับความรกของบ้านแล้ว ก็เริ่มคัดแยกของที่ต้องการกับไม่ต้องการออกจากกัน จากนั้นก็นำของที่ไม่ต้องการใส่กล่องที่ซื้อมาเตรียมไว้ แล้วก็เอาไปแอบไว้ก่อนในมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน พร้อมกับบอกตัวเองว่า เดี๋ยวว่าง ๆ จะเอาไปบริจาค หรือเอาไปให้คนที่ขาดแคลน การผัดวันประกันพรุ่ง ในลักษณะนี้ ทำให้การจัดบ้านไม่ประสบความสำเร็จ หากคุณเริ่มลงมือทำแล้ว ขอให้คิดถึงการนำของที่ไม่ ต้องการอีกแล้วออกจากบ้านไปในวันนั้นด้วย เพราะถ้าคุณยังเก็บต่อไป มันก็ไม่ต่างอะไรกับการย้ายที่เก็บ จากจุดหนึ่งไปอยู่อีกจุดหนึ่งของบ้านเท่านั้นเอง
7. จัดการความรกอย่างสม่ำเสมอ
ทุก ๆ ปีให้หาลังใหญ่ ๆ มาจัดแยกไว้ว่ากล่องไหนที่ /ต้องการเก็บ/ของบริจาค/ของที่ต้องนำไปทิ้ง/ และ/ ของที่ยังเก็บต่อไป/ได้อีกปีตามลำดับ โดยเคลียร์ของทั้งหมดออกจากในตู้และลิ้นชัก แล้วนำมากองรวมกัน แล้วเลือกชิ้นที่คุณไม่ต้องการเก็บเข้าถุงบริจาค จะได้ไม่เหลือสิ่งที่คุณไม่ต้องการแล้วตกค้างให้รกตาอยู่อีก อะไรที่คุณไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องเก็บไว้ อย่าลังเล โยนทิ้งหรือบริจาคไปซะดีกว่า
อ้างอิง : https://goo.gl/C3mlvu https://goo.gl/l6SHW1 https://pantip.com/topic/13094897
บทเพลงบรรเลงชโลมใจ
Create Date : 01 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 5 มกราคม 2567 7:38:25 น. |
|
45 comments
|
Counter : 4687 Pageviews. |
|
|
ส้มแขก ไม่ใช่ ส้มควาย คลิกที่นี่ค่ะ