https://phil.uk.net/photography/canon_300F4LIS.htmlนกอีโก้ง : Purple Swamphen (Purple Gallinue)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Porphyrio porphyrio (Linnaeus, 1768)
วงศ์ (Family) : Rallidae (วงศ์นกอัญชัน)
อันดับ (Order) : Gruiformes (อันดับนกกระเรียนและนกอัญชัน)
ลักษณะทั่วไปเป็นนกน้ำในวงศ์นกอัญชัน รูปร่างของนกชนิดนี้จึงคล้ายกับนกอื่น ๆ ในวงศ์นี้ เช่น นกพริก นกกวัก
(White Breasted Waterhen) นกอัญชันต่าง ๆ แต่มีตัวใหญ่มากคือมีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางราว
43-44 เซ็นติเมตรรูปร่างดูเผิน ๆ คล้ายแม่ไก่ตัวโต ๆ ล่ำสัน แต่ดูเก้งก้าง เพราะขายาว คอค่อนข้างยาว ปากอวบ
สั้นและหนา ตรงโคนปากมีกระบังหน้า (frontal shield) สีแดงดูเด่นชัด ปีกสั้น มีขนปลายปีก (primaries) 10 เส้น
ขนหางสั้นมากจนดูเกือบไม่มีหาง ขาและนิ้วเท้ายาวนิ้วเท้าหลังยาวกว่านิ้วเท้าหน้าเล็กน้อย ลักษณะนิ้วที่ยาว
มีประโยชน์ในการเหยียบย่ำไปบนกอวัชพืชในน้ำ
นกน้ำวงศ์นี้มีขาและนิ้วยาว สามารถเดินหากินบนกอไม้น้ำได้ดี พบได้ง่ายในบริเวณรอบ ๆ ที่ทำการเขตห้ามล่า
สัตว์ป่าทะเลน้อย ส่วนใหญ่เป็นนกประจำถิ่น เช่น นกอัญชันคิ้วขาว (White - Browed Crake) นกกวัก
(White Breasted Waterhen) นกอีลุ้ม (Waterhen) นกอีล้ำ (Moohen) เป็นต้น
https://www.oknation.net/blog/plains-wanderer/galleryหัวมีสีเหลือบออกฟ้าน้ำเงินบ้างเล็กน้อย ใต้คอหน้าอกเป็นสีน้ำเงินปนม่วง ลำตัวด้านบนสีน้ำเงินอมม่วง
ใต้คางและอกสีน้ำเงินอมเขียว ท้องและสีข้างสีน้ำเงินอมม่วง ต้นขาสีน้ำเงินอมเขียว หัว ไหล่ และขนปีกสีน้ำเงิน
อมเขียว ตา ปาก กระบังหน้าและเท้าสีแดง ซึ่งความสดใสเข้มอ่อนของสีขนจะแตกต่างกันไปตามแต่นกแต่ละตัว
อีโก้งเพศผู้และเพศเมียมีลักษณะเหมือนกัน ตัวผู้จะมีกระบังหน้าโตกว่าตัวเมีย เวลาเดินชอบกระดกหาง
นกไม่เต็มวัยอาจมีสีทึมกว่าตัวเต็มวัยและปากสีไม่แดง นกเด็กมีขนอุยสีดำปกคลุมลำตัว ขาและนิ้วเท้า
เพื่อความถนัดในการเดินบนพืชน้ำเช่นเดียวกับนกผู้ใหญ่
นกอีโก้ง เป็นนกประจำถิ่นของประเทศไทย พบมากในที่ราบลุ่มภาคกลาง มักอาศัยตามแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่
เช่น บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ และพบกระจายทั่วประเทศตามแหล่งน้ำจืดต่าง ๆ แต่อาจพบน้อยตัวกว่า
ตามแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จะเดินหากินไปบนพืชลอยน้ำ ยกขาที่มีนิ้วเท้ายาวก้าวไปอย่างช้า ๆ กระดกหางขึ้น ๆ
ลง ๆ โดยในการเดินบนวัชพืชลอยน้ำ นกอีโก้งมักต้องขยับปีกเพื่อช่วยในการทรงตัวด้วย หากอยู่ในอันตราย
หรือตกใจอาจวิ่งหนี หรือบินหนีเป็นระยะทางสั้น ๆ และหาที่หลบกำบังตัว
https://www.2how.com/board/44488.htmlรากบัวหลวง รากจอกหูหนู สายบัว ต้นแพงพวยน้ำ ไส้ในหรือต้นอ่อนของกก จูด และข้าวเป็นอาหารของนกอีโก้ง
ในการกินสายบัว นกจะถอนเอาสายบัวออกมาโดยการใช้ปากกระตุกออกมา ใช้เท้าจับสายบัวและใช้ปากปอกสายบัว
กินแต่ไส้ในทีละท่อน ๆ จนหมดสาย นอกจากพืชแล้ว นกอีโก้งยังกินแมลงเล็ก ๆ ในน้ำ กบ เขียด อึ่งอ่าง หอยโข่ง
หอยเชอรี่หรือแม้แต่ไข่ของนกอื่น ๆ
ในการกินหอย นกจะใช้ปากหักเปลือกหอยจนแตกแล้วดึงเนื้อมากินทีละชิ้นจนหมด
นกอีโก้งเป็นนกที่เดินหากินได้ทั้งวันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและจะไต่ขึ้นไปพักผ่อนหลับนอน
บนต้นไม้ที่สูงเล็กน้อยในตอนพลบค่ำ
https://www.thaidphoto.com/forums/showthread.php?t=171586&page=1พฤติกรรม การสืบพันธุ์ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่หลบซ่อนตัวอยู่ตามดงกกหรือกอหญ้า นกอีโก้งออกหากินโดยเดินตามริมน้ำ
เดินช้า ๆ เวลาเดินเมื่อยกเท้านิ้วทั้งหมดจะงอเข้าหากัน และเมื่อก้าวขาลง นิ้วเท้าจะแผ่กระจายออกจากกัน หางที่สั้นของมัน
จะกระดกทุกครั้งที่ก้าวขา ถ้าถูกรบกวนจะวิ่งหนีไปบนพื้นน้ำ โดยขยับปีกช่วยกัน ทำให้ขาของมันไม่จมน้ำ จะบินหนีก็ต่อเมื่อ
อยู่ในอันตรายจริง ๆ เท่านั้น เป็นนกที่บินไม่เก่ง เมื่อบินไปพบกอหญ้าที่รกทึบ จะบินลงไปซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ ในนั้น
จนอันตรายผ่านไป แต่เป็นนกว่ายน้ำได้เร็วและเก่งมาก
https://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=28952&st=31นกอีโก้ง ทำรังวางไข่ได้เกือบตลอดทั้งปีเมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสม โดยทั่วไปจะทำรังในช่วงปลายฤดูฝนเป็นต้นไป
เมื่อเข้าช่วงฤดูผสมพันธุ์นกจะส่งเสียงดังร้องเรียกกัน จับคู่และสร้างรังโดยการดึงพืชน้ำลงมาขัดสานกันจนเป็นรังหนา
เส้นผ่านศูนย์กลางราว 30 เซนติเมตร สูงจากระดับน้ำตั้งแต่ 30-50 เซ็นติเมตร และใช้พืชน้ำอื่น ๆ กรุรังให้อ่อนนุ่ม
แต่บางรังก็สร้างไว้บนกอผักตบชวา นกจะวางไข่ครั้งละ 3-5 ฟอง นกทั้งสองเพศช่วยกันกกไข่หลังจากวางไข่ฟอง
สุดท้ายแล้ว ใช้เวลาราว 22-25 วันก็ฟักเป็นตัว ลูกนกจะอยู่ในรังต่ออีกไม่กี่วัน พ่อแม่ก็พาออกไปเลี้ยงนอกรัง
โดยพ่อแม่หาอาหารมาป้อนเมื่อลูกโตพอสมควรพ่อนกก็จะแยกไปให้แม่นกเลี้ยงต่อไปตามลำพัง เมื่อลูกนก
อายุ 4 เดือน ก็จะมีชุดขนคล้ายผู้ใหญ่ ปากค่อย ๆ แดงจนเป็นตัวเต็มวัยในที่สุด
https://www.niftysphotography.com/keyword/purpleถิ่นอาศัยพบตั้งแต่ในยุโรป แอฟริกา อินเดีย จีน ลังกา พม่า พบได้ทั่วประเทศไทย มีชุกชุมในภาคกลาง
ลาว เวียตนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไปจนถึงออสเตรเลีย โดยในบางที่อาจเป็นชนิดย่อยอื่น
และมีชื่อเรียกอื่น
สถานภาพปัจจุบันนกอีโก้งเป็นนกประจำถิ่น พบได้บ่อย และปริมาณปานกลาง จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
อ้างอิง :https://www.oknation.net/blog/print.php?id=687016