Review @ The Scenery Resort & Farm สวนผึ้ง

เคยไปพักที่ The Scenery Resort สวนผึ้ง ราชบุรี เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ประทับใจมากๆ กับบรรยากาศ และการบริการของ Resort เลยจองบ้านพักล่วงหน้าเป็นปีๆ ว่าจะพักบ้าน Ruzi เพราะไปกัน 5 คน พอถึงกำหนดจองแบบแป๊ะๆ ทาง Resort บอกว่ารับจองช่วงกลางเดือน พอถึงกลางเดือนดันลืมซะงั้นเพราะมัวแต่วุ่นวายเรื่องวิทยานิพนธ์ เลยโทรไปจองวันที่ 20 ช้าไป 5 วัน ปรากฎว่าบ้าน Ruzi เต็มตั้งแต่ ตุลาคม ไปจนถึง กุมภาพันธ์ พลาดไปได้ไงเนี่ย (โกรธตัวเอง)



ออกจากกรุงเทพฯ 7.30 น. ถึงจังหวัดราชบุรี 8.30 น. โดยประมาณเลยแวะทานก๋วยเตียวเป็นมื้อเช้าของการเดินทางที่ตัวเมือง จากการหาข้อมูลเลยตั้งเป้าว่าจะทานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไข่ ราชบุรี คุณแหม่ม



จะอยู่ข้างๆ โรงพยาบาลพร้อมแพทย์ครับ



ภายในร้านหลังคาสูงไม่อึดอัดครับ อากาศเย็นกำลังสบายเลย



คนเดียวแต่ทาน 2 อย่างเอาให้อ้วนไปเลย ชามแรกเส้นเล็กต้มยำครับ น้ำซุปเข้มข้น เข้ากับเครื่องเคียงได้ดี พร้อมเส้นนุ่มๆ แถมชอบไข่ต้มแบบนี้ซะด้วยสิครับ



ต่อด้วยเส้นเล็กยำแห้ง ของชอบครับ อร่อยมากสำหรับมื้อเช้า อาจจะหนักสำหรับบางท่าน อิอิ ที่ร้านมีลูกชิ้นปิ้ง ข้าวแกงอีกหลายอย่างครับ แต่ไม่ไหวแล้วครับ อิอิ



เมื่อเติมพลังงานเรียบร้อยก็มุ่งหน้าสู่สวนผึ้งเลยครับ สถานที่ต่อไปคือ บ้านหอมเทียนครับ



ด้านในมีที่จอดรถในร่มครับ ไม่ต้องตากแดด อากาศเย็นกำลังสบายเลยครับที่สวนผึ้ง



มีร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยวด้วยครับ แถมเพิ่มบรรยากาศโรแมนติกด้วยแสงเทียนครับ กลางคืนนี่ท่าจะโรแมนติกมากๆเลยครับ



อากาศเย็นสบายมากเลยครับวันนี้



ที่นี่ต้นไม้เยอะครับ เดินสบายๆ ไม่ค่อยโดนแดด อากาศก็เย็น



ทางไปบ้านหอมเทียนครับ



บ้านหอมเทียนที่เต็มไปด้วยเทียน และกลิ่นหอมๆของเทียน



เทียนสวยๆ



กระทงเทียนหลากสีสัน สำหรับงานวันลอยกระทงครับ



เทียนหอมสีสันสดใส น่ารักๆ ทั้งนั้นเลย



เทียนหอมสำหรับนักท่องเที่ยวหอบกลับไปเป็นของฝากเยอะมาก



น้องแกะเทียนจ้า น่ารักจัง



หัดทำเทียนหอมเชิญทางนี้ครับ



บรรยากาศภายในร้านครับ มีแต่แสงเทียนโรแมนติกมากครับ ไม่รู้ตอนกลางคืนจะเป็นยังไง ?



ซื้อเทียนหอมไปจุดเองดีกว่า



อันนี้ของฝากปีใหม่เลย กำลังปวดหัวไม่รู้ซื้ออะไรดี เอานี่แหละ อิอิ



เช็คบิล ชิ้นเล็กชิ้นละ 25 บาทครับ ซื้อมา 20 อัน ขนาดอันเล็กสุดยังจุดได้นานมากกว่าจะหมดเเท่ง



เสียเงินพอสมควรแล้วก็ไปเที่ยวที่อื่นต่อครับ อิอิ (อยู่นานยิ่งดึงดูดใจ)



แวะทานข้าวเที่ยงที่ร้าน ครัวจันทร์ฉาย ซึ่งเป็นร้านอาหารของ บ้านอ้อมกอดขุนเขา รีสอร์ท ไม่ได้มาตั้ง 2 ปีอยากเห็นจริงๆ ว่าเปลี่ยนไปเยอะไหม



ร้านอาหารตกแต่งสวยงาม กับธรรมชาติที่เย็นสบาย



สบายจนต้องหลับ



สั่งอาหารเสร็จไปเดินชมรีสอร์ท เพื่อนึกถึงวันเก่าๆ ดีกว่า



บ้านใหม่กำลังสร้างหรือเปล่า หรือว่าสะพาน ?



บ้านริมน้ำครับ



บรรยากาศดีมาก และอากาศเย็นครับ 25 องศากำลังสบายเลย



ขึ้นมาทานอาหารต่อน่าจะได้แล้ว อิอิ



เล่นม้าโยกสนุกสนานก่อนจะวิ่งลงเนินล้มเลย



ประเดิมด้วยจานแรก ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ครับ



ข้าวต้มกุ้ง



เสต็คหมู



ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับครับ



หลังจากจบมื้อกลางวันก็เดินทางต่อไปยังที่หมายสำคัญคือ The Scenery Resort & Farm ครับ ระหว่างทางผ่านทางน้ำที่เคยโดนน้ำป่าไหลผ่านที่กั้นสะพานพังเลยครับ น้ำแรงจริงๆ



ถึงแล้วครับ The Scenery Resort & Farm



เข้ามาตกใจเหมือนกัน คนเยอะมากเลยครับ เดวมีรูปให้ดู แต่ยังดีที่ทาง Resort แบ่งโซนได้ " ดีมากๆ " สำหรับนักท่องเที่ยว กับ แขกที่มาพัก โดยส่วนตัวผมชอบนะ



สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารจะอยู่ด้านหน้าครับ จะเข้ามาด้านในได้เฉพาะแขกที่มาพักเท่านั้นครับ



ถึง Reception แล้วครับ พนักงานจะออกมาต้อนรับมาเชิญไป Check in ครับ



มุมนี้ทำให้ถึงครั้งแรกที่ได้มาที่นี่ เมื่อ 2 ปีที่แล้วเลยครับ ยังจำได้ว่าประทับใจที่นี่มากๆ



น้องแกะเล็กๆ มาต้อนรับ 3 ตัว



ต้อนรับด้วย Welcome Drink มี น้ำแอปเปิ้ล และน้ำกระเจี้ยบให้เลือกครับ สดชื่นๆๆๆ



มีน้ำหอมให้เลือกสำหรับใส่ที่บ้านครับมี 2 กลิ่น Rose Mary กับ Lavender ครับ



เอาของไปเก็บก่อนครับ เดี๋ยวออกไปหาน้องแกะกัน



มุมเดิม ที่หวานมิรู้ลืม



มีรถกอร์ฟไปส่งที่บ้านครับ ของเยอะมากไป 5 คน อายพนักงานจังอ่ะ



หลังจากที่พลาดบ้าน Ruzi แต่ยังไงๆ ใจมันมุ่งมั่นมาแล้วต้องพักที่นี่ให้ได้เลยจองบ้าน Katahdin และ Corriedale ครับ 2 หลัง 10,000 บาทถ้วนเลย เพราะ 2 ปีที่แล้วมาพักที่บ้าน Katahdin แล้วจำได้ว่าอยู่ใกล้ๆ กัน แถมวันว่างที่ว่างพร้อมกันมีแค่วันที่ 6 พ.ย. 53 เท่านั้นด้วยตอนจองนี่ปวดหัวเนื่องจากลุ้นมาก เพราะอยากได้บ้าน 2 หลังนี้จริงๆ ซ้ายไป Katahdin ขวาไป Corriedale



ไปชมบ้าน Corriedale กันก่อนครับเพราะพักที่บ้านหลังนี้



ด้านในจะเหมือนกับ Katahdin แต่จะสลับด้านกัน ชอบที่เข้ามาเจอห้องรับแขกก่อนครับ



อ่างอาบน้ำสุดสวีท อิอิ



ที่นอนนุ่มๆ น่านอนพักผ่อนมากเลยครับ อิ่มแล้วง่วงนอน แต่ไม่ได้ เวลายิ่งน้อยๆอยู่



โต๊ะอ่านหนังสือในห้องครับ บรรยากาศเป็นส่วยตัวดีครับ



มองไปทางไหนก็มีแต่มุมน่ารักๆ







TV, เครื่องเล่น DVD, ตู้เย็น



ชา, กาแฟ, ที่ต้มน้ำ,จาน, ช้อน, ส้อม, แก้ว



ที่แขวนเสื้อ และตู้เซฟ อยู่ข้างหน้าห้องน้ำครับ



กระจกแต่งหน้าด้านนอกห้องน้ำครับ



ฝักบัวอาบน้ำจะมี 2 แบบครับ



อ่างล้างหน้ามี 2 อ่างไม่ต้องแย่งกัน อิอิ



อ่างสำหรับ 2 คน กำลังสบายครับ



ตอนแรกนึกว่าหิน แต่ทำไมมันหอม พอจับก็อ้อๆๆๆๆๆ



ไปชมนอกบ้านกันบ้าง



บันไดขึ้นชั้น 2 ครับ



ชั้น 2 อากาศดีครับรับลมเย็น สูดอากาศบริสุทธิ์



วิวจากชั้น 2 ครับ



อย่างที่บอกครับถ้านอน ก็หลับยาวเลย



ถ่ายบ้าน Corriedale เสร็จก็ออกไปหาน้องแกะดีกว่าเดวค่อยมาที่ Katahdin เพราะมื้อเย็นสั่ง BBQ ให้ส่งที่บ้าน Katahdin



อาหารน้องแกะ นักท่องเที่ยวไม่ได้พัก 40 บาท ผู้มาพัก ฟรี

ขอเตือนว่า ถ้าท่านถือไม่ดีต่ำเกินไป หรือใจอ่อน ท่านอาจเดินไม่สุดทางครับ งื้อๆๆ



มุ่งหน้าหาน้องแกะ



ดูสิครับ น้องแกะน่ารักไม่ต้องเดินไปหาครับ เพียงท่านถือหญ้าไว้ น้องแกะจะมาเล่นท่านแทน 555+



ข้างนึกถือกล้อง ข้างนึงถือหญ้า โดนน้องแกะรุมทึ้งรอบตัว เดินไม่ได้เลยต้องเอาหญ้าที่ถือให้ไม่งั้นไม่ยอมให้ออกนอกวง แง้ว



เนื่องจากเริ่มออกมานอกคอกแล้ว เจอสกัดดาวรุ่งตรงทางเดินกันหมด พี่เลี้ยงเลยมาต้อนเข้าไปข้างใน น่ารักๆ



ร้านอาหารจะมีมุมดีๆ นั่งดูน้องแกะด้านบนแต่ ที่นี่ เสาร์, อาทิตย์กลางวันไม่รับจองครับเท่าที่ลองไปสอบถามมานะครับ



มีสนามยิงธนูด้วยครับ ถ้ายิงโดนตรงกลางจะได้รางวัลเป็นรูปถ่าย 1 รูปครับ แต่ไม่แม่นอ่ะยิงเหนือเป้าตลอดเลยครับ เหอๆๆ



ขบวนน้องแกะครับ



มีร้านของที่ระลึกด้วยครับ ซื้อแกะไปฝากด้วย 1 ตัว



ที่หนีบกระดาษน้องแกะครับ



ลานจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาพักจะอยู่ด้นนอกครับ เพื่อไม่ให้รบกวนแขกที่มาพักครับ โดยส่วนตัวผมว่าดีครับ แยกส่วนท่องเที่ยวได้ดี



ร้านอาหารมีแขกอยู่ไม่อยากไปรบกวนเลยจะมาถ่ายตอนเช้าดีกว่า เพราะร้านอาหารเปิด 10.00 น.

บริเวณหน้าร้านอาหารจะมีป้ายแนะนำแหล่งท่องเที่ยว และรีสอร์ทให้นักท่องเที่ยวได้วางแผนการเดินทางถูก เพราะถ้าเข้าใจไม่ผิด จากแยกหน้า ภูผาผึ้งรีสอร์ทไปทางขวาผ่านบ้านอ้อมกอดขุนเขา, La Toscana และอู่หลงรีสอร์ท จะสามารถวนมาถึง The Scenery Resort ได้โดยไม่ต้องกลับทางเดิม หากจะเดินทางแบบนี้รบกวนศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนนะครับ เพราะเป็นป่าเขาซะส่วนใหญ่



ถนนด้านหน้า Resort รถเยอะมากๆ สมัยเมื่อ 2 ปีที่แล้วยังเป็น ป่ากับบ้านคนพื้นที่อยู่เลยครับ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญไปซะแล้วครับ น้องแกะๆ



มีลานจอดรถด้วยครับฝั่งตรงข้าม



แต่ก่อนร้านนี้ยังไม่มีเลย หุหุ



เดินกลับเข้าไปถ่ายรูปด้านใน Resort ต่อดีกว่า



มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ด้วยครับ ส่วนด้านหลังที่กำลังตกแต่ง ไปสืบมาจากพนักงานว่าจะมีการจัดงานแต่งงาน และได้ทำการเหมา Resort ครับ อาจจะปิดในส่วนของ Resort หรือเปล่าไม่แน่ใจครับ



ไปล้มที่เนินบ้านอ้อมกอดขุนเขามา ปากแตก, เป็นแผลที่จมูกกับหัว พ่อ, แม่น้ำตาล่วงเลย เหอๆๆ



ลานจอดรถสำหรับผู้มาพักที่ Resort ครับ



บ่อปลา เดี๋ยวนี้ปลาเยอะมากเลยครับ ตอนเห็นคนเดินมานี่ กระโจนใหญ่เลย



มุมนี้สวยยังไง 2 ปีผ่านไปก็ยังสวยเหมือนเดิม



ไปดูแม่น้ำกันดีกว่าว่ายังขุ่นอยู่หรือเปล่า



กำลังเล่นได้ครับ แต่แฟนยังไม่กล้าเล่น



ตอนเดินกลับผ่านบ้าน Napier Villa ครับบ้านใหม่ จะมี 3 หลังครับ Setaria และ Alfalfa ครับ

คิดอยู่เหมือนกันถ้ามาอีกทีคงพักหลังนี้เพราะใหญ่กว่า ราคาคืนละ 6,500 ต่อคืนในช่วง Weekend



ทางเดินลงไปบ้านใหม่อีก 2 หลังครับ



กลับมาสำรวจบ้าน Katahdin กันต่อเพราะจะมีปาตี้ BBQ แบบครอบครัวครับ



เข้ามาจะเจอห้องรับแขกก่อนครับ



เตียงนอนนุ่มๆ ถ่ายรูปแล้วอยากนอน แต่ไม่ได้ๆๆๆ



วิวเป็นส่วนตัวพอสมควรเลยทีเดียว



ห้องน้ำจะเหมือนกันครับ



มีอ่างล้างหน้า 2 อันครับ



ถ้าไป 2 คนจะโรแมนติกมากเลยครับ อิอิ



นอนแช่สบายๆ อย่านอนนานครับ ปวดบวมแน่ๆ อิอิ



อุปกรณ์สำหรับมื้อเย็นพร้อมครับ



แบบใกล้ๆ อิอิ



แก้วไวน์สำหรับไวน์แดง และไวน์ขาวสำหรับมื้อเย็น พร้อม ที่ขาดไม่ได้เลย ที่เปิดจุกก๊อกไวน์



ไปดูนอกบ้านกัน



มีถังดับเพลิงชนิดพิเศษ ร่ม, รองเท้าเเตะ, เก้าอี้เสริม



สั่ง BBQ ไว้ครับไม่ละ 125 บาท สั่งไว้ 11 ไม้ หมู 4, กุ้ง 3, ปลาหมึก 2 ล่วงหน้า 3 วัน

ทางพนักงานจะถามว่าทานบ้านไหนเพื่อจะได้ขนเก่าอี้มาให้จากอีกบ้านนึงครับ



มุมนั่งกิน นอนกิน จริงๆ



ด้านบนกว้างเหมือนกันครับไม่อึดอัด



นัด BBQ ไว้ 18.30 น. เตรียมโต๊ะ แก้วน้ำให้พร้อมก่อน แล้วค่อยออกไปเดินถ่ายรูปซักพักค่อยกลับมาแช่น้ำดีกว่า





วิวสวยๆ ของ Resort







และแล้วก็ถึงมื้อเย็น ครับ อากาศอุณภูมิ 19.00 น. 25 องศา





แม่บ้านก็ปิ้งไปครับ พ่อบ้านรอทานอย่างเดียว อิอิ



รสชาติหมูโอเคครับ อร่อยนุ่มแต่ว่า กุ้ง กับ ปลาหมึกนี่ขอผ่าน เอ่อ ไม่สดมากเลย กุ้งเละ ปลาหมึกก็คาวครับ ทานไปชิ้น 2 ชิ้นก็เลยบอกว่าอย่าทานต่อเลยเดวท้องเสียมาไม่คุ้ม สรุป หมูผ่าน ซีฟูดส์ไม่ผ่าน หุหุ



ทานเสร็จตอน 21.00 น. นั่งย่อยชิวๆ อากาศ 23 องศา เริ่มเย็นหน้า เลยหันไปดูรอบๆ เริ่มมีหมอกลงครับ พอสมควรเหมือนกัน อากาศดีจริงๆ เลยไปเดินถ่ายรูปยามค่ำคืนซะหน่อยดีกว่า



เดินไปถ่ายบ้าน Corriedale ซักหน่อยเดี๋ยวจะน้อยใจ



มาคนเดียวเหงาแย่เลย



ทางเดินมีไฟเพิ่มบรรยากาศ



ร้านอาหารนี้จะมาทานมื้อเช้าครับ เป็น Buffet



บ้าน Napier นี้สำหรับผมต้องมาซักครั้งครับ



เดินมาถ่าย Reception ก่อนนอนครับ เพราะเหนื่อยเหมือนกัน เที่ยวหลายที่จัด



ตื่นมาไม่พ้นเรื่องกินมาอันดับแรก 7.00 น. อุณหภูมิ 22 องศา



ยังพอจะมีหมอกอยู่บ้าง ตอนแรกว่าจะตื่น 6.00 น. พาลูกไปเดินเล่น แต่ลูกยังไม่ตื่นเลยนอนต่อ เหอๆๆๆ (แก้ตัวไปงั้นแหละ)



มื้อเช้าทานที่ Montadale Restaurant อาหารไม่มากไม่น้อยครับ กำลังดีเลย เช่น เบคอน, แฮม, ผัดหมี่, ไก่ผัดขิง, ข้าวต้ม



จะมีแขกเฉพาะที่มาพักเท่านั้นเลย



เมนูไข่



คอนเฟล็ก, น้ำส้ม, ขนมปังปิ้ง



นั่งด้านบนได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ



อิ่มแล้วแสงกำลังสวยไปเดินถ่ายรูปต่อ วิวดีทั้งนั้น



ทุ่งหญ้าสีเขียวกับหมอกยามเช้าสวยมาก



ไปชมดอกไม้กันมั่งดีกว่าครับ













ไปดูกิจกรรมของน้องแกะยามเช้าอีกรอบใช้สิทธิให้คุ้ม



คนยังไม่มีเลยโดนรุมทึ้งหนักกว่าเดิม -*-



ซักพักเกิดการชิงไหวชิงพริบระหว่างภรรยากับแกะ

แกะ : หญ้าของฉานๆๆๆๆ

ภรรยา : อย่านะหญ้านี้ของน้องแกะน้อย (เลยยกหญ้าสูง แล้วเดินชิดกำแพง)

แกะ : ไม่มีทางหนีพ้นหรอกน่า (อ้อมไปข้างหลัง กระโดดขึ้นก้อนหิน ขึ้นไปบนเนิน)

ภรรยา : เพลิดเพลินกับการให้อาหารแกะน้อยอยู่ (ไม่สนใจรอบข้าง) ได้ยินเสียง แง่มๆ หันไปดูเห็นแกะยืนกินหญ้าที่ยกสูงเหนือหัวอยู่อย่างเอร็ดอร่อย ไม่มีใครมาแย่งอีกต่างหาก (ทำไรไม่ได้ ทำหน้ามุ่ยเซ็งเป็ด เสียเชิงแกะ)

แกะ : เสร็จโจร แบะๆๆๆ

โฉมหน้าผู้ชนะ



ร้านยังไม่เปิดเลยเข้าไปถ่ายรูปได้ครับ ไม่มีคน



โต๊ะอาหารวิวดีมากครับ แต่ไม่ได้ทานที่ห้องอาหารนี้เลย หุหุ



กำลังซนเลย



ถึงเวลาต้อง Check Out แล้วไวเสียจริงๆ ความรู้สึกยังประทับใจเหมือนเมื่อ 2 ปีที่แล้วอยู่เลยครับ เหงาๆ เลยเดินไปถ่ายน้องแกะ น้องใหม่ 3 ตัวนี้ (น่าจะใช่นะ) พนักงานบอกคนละพันธิ์กัน กับด้านนอกครับ นิวซีแลนด์หรือเปล่าไม่แน่ใจครับ พอดีฟังตอนนั่งรถกอร์ฟได้ยินไม่ชัดครับ



พอขับรถออกมาจาก The Scenery Resort & Farm ได้ซักพักก็จะถึงที่นี่ครับ Swiss Valley HIP Resort เป็นไร่องุ่นด้วยครับ บ้านพักจะอยู่ด้านในครับ สงวนสิทธิ์ตามระเบียบครับเข้าไม่ได้



ถ่ายดอกไม้แทน 555+



ร้านอาหารครับ



ด้านในตกแต่งสวยงามครับ



จองห้องพักบริเวณนี้เลยก็ได้ครับ



และแล้วก็มาฝากท้องที่ร้านนี้เลยครับ ร้านอาหารลมโชย



ร้านสมชื่อครับ ลมโชยจริงๆ นั่งลมเย็นโชยเข้ามาเลยสบายๆ



รายการอาหารปิดท้ายสำหรับทริปเที่ยวสวนผึ้ง ราชบุรี ในครั้งนี้ ครับ
ยำผักบุ้งทอดกรอบ


ไข่ตุ๋นหมูสับโรยกระเทียม ชอบมากๆๆๆๆๆ


ปลาทับทิมไทยทอดน้ำปลา หวาน นุ่ม กรอบ อร่อยมากๆๆๆๆ


ต้มซุปเปอร์ครับ รสต้มยำ แต่มีความมัน และเค็ม เปลี้ยว อร่อยไม่เหมือนใคร


ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน เผ็ดกำลังดี ครับ เนื้อนุ่ม


จะกลับไปเที่ยวที่ The Scenery Resort & Farm สวนผึ้ง ราชบุรี อีกแน่นอนครับ ประทับใจทุกที่เลยครับ

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2553		6 comments
Last Update : 12 เมษายน 2554 13:48:14 น.
Counter : 4628 Pageviews.
Share Tweet