กรกฏาคม 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
นวนิยาย..พลิกผืนฟ้าหารัก บทที่ ๑/๑

๑.

 

 

 

รถตู้สีขาวจอดเทียบพื้นซีเมนต์ด้านหน้าคฤหาสน์สไตล์ยุโรปหลังใหญ่ ก่อนชายสูงวัยจะเดินอ้อมลงมาเปิดประตูให้ผู้เป็นนายซึ่งนั่งอยู่ทางตอนหลัง

 

“ถึงแล้วเหรอคะ คุณพ่อคุณแม่”หญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่เงยหน้าขึ้นถามเสียงงัวเงียหลังจากถูกปลุกให้ตื่นขึ้นกลางคัน

 

“ถึงแล้วลูก ปะ เข้าไปในบ้านใหม่ของเรากัน”คุณทินนาถผู้เป็นบิดากล่าวตอบทั้งที่ยังคงนั่งเฉยรอให้ภรรยาและบุตรสาวลงจากรถไปก่อน

 

พิมพ์วลัญช์ก้าวตามมารดาและยืนรอบิดาอยู่บนบันไดหินอ่อนพลางหันมองรอบกายด้วยสายตาอ่านยาก

 

หากมองคร่าวๆคฤหาสน์สีเทาหลังนี้ดูใหญ่โตโอ่อ่าและตั้งอยู่บนพื้นที่ร่วมร้อยไร่ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกเหมือนมันเป็นตึกร้างกลางป่ามากกว่าจะเป็นตึกหรูกลางเมืองดังที่มารดาได้เปรยเอาไว้ตั้งแต่แรก

 

“ถ้าตึกนี้สร้างก่อนสงครามโลกครั้งที่สองก็แสดงว่าอายุอานามของมันต้องเกือบร้อยปีแล้วสิคะคุณแม่”หญิงสาวหันไปถามมารดาซึ่งกำลังมองสำรวจ “บ้านใหม่”อยู่เช่นเดียวกัน

 

สตรีวัยห้าสิบตอนปลายผู้งามสมวัยกล่าวตอบเสียงขรึม “ก็ราวๆแปดสิบกว่าปีละมั้ง ได้ยินมาว่าเจ้าของเดิมเป็นญาติห่างๆของเรานี่แหละ คุณย่าเห็นทิ้งร้างอยู่นานท่านก็เลยขอซื้อเอาไว้ได้ในราคาถูกๆ ใครจะไปรู้ว่านานวันเข้าที่ดินจะราคาแพงยิ่งกว่าทองคำเหมือนเดี๋ยวนี้ล่ะลูก”

 

หญิงสาวเอียงหน้าขึ้นมองตามสายตามารดาอีกครั้ง แล้วจึงวิจารณ์“พายว่ามันดูแปลกๆ ตึกถูกทิ้งร้างเอาไว้แล้วทำไมสภาพมันยังดีอยู่ล่ะคะคุณแม่”

 

“ก็ไม่เชิงหรอกนะลูก คุณพ่อบอกว่ามีคนเฝ้าที่นี่อยู่ นั่นไงเปิดประตูออกมาแล้ว”คุณงามพรรณหันมองใต้กรอบประตูซึ่งบัดนี้ร่างผอมสูงของชายวัยประมาณเกือบเจ็ดสิบปีกำลังกระวีกระวาดเข้ามาหาพลางยกมือไหว้ ขณะที่ผู้เป็นสามีเองก็ก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างๆเธอ

 

“ผมชื่อพ่วงครับ เป็นคนดูแลที่นี่”ชายชราเอ่ยขึ้นหลังจากลดมือลงเรียบร้อยแล้ว

 

คุณทินนาถพยักหน้าพลางแนะนำตนเองและครอบครัวอย่างไม่ถือตัว “ฉันชื่อทินนาถ นี่คุณงามพรรณ ส่วนคนที่ยืนอยู่ถัดไปชื่อหนูพาย เห็นคุณแม่บอกว่านายพ่วงอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กแล้วไม่ใช่เหรอ คงจะรู้จักที่นี่ดีกว่าใครสินะ”

 

ดวงตาสีหม่นยิ่งอ่อนแสงลงเมื่อได้ยินถ้อยคำของผู้เป็นนาย ทั้งชีวิตของนายพ่วงก็มีแต่ที่นี่ ‘บ้านแสนยากร’ของเจ้าคุณพิทักษ์โยธินหลังนี้แหละที่เขาจะยึดเป็นเรือนตาย

 

“ครับ คุณท่าน ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ท่านเจ้าคุณท่านยังไม่สิ้นน่ะครับ”

 

“แล้วท่านไม่มีลูกหลานเหรอนายพ่วง ถึงได้มาขายบ้านพร้อมที่ดินราคาถูกให้คุณแม่แบบนี้น่ะ”คุณงามพรรณถามบ้าง โดยพิมพ์วลัญช์ยืนเก็บข้อมูลอยู่เงียบๆ

 

ใบหน้าเหี่ยวย่นดูเครียดขรึมลงเมื่อได้ยินคำถามของนายหญิงคนใหม่ แต่เขาก็ยอมปริปากตอบแต่โดยดี เพราะถือเป็นสิทธิที่ผู้เป็นเจ้าของบ้านควรจะได้รู้จักทุกแง่ทุกมุมของบ้านหลังนี้ให้มากที่สุด“ท่านเหลือลูกชายคนเดียวคือคุณวาโยครับ แต่คุณวาโยท่านย้ายไปอยู่แถบฝั่งธนก็เลยขายที่ดินผืนนี้ให้คุณทองทิพย์ซึ่งก็เป็นญาติของท่านเอง ท่านว่าดีกว่าตกไปอยู่ในมือของคนอื่นนะครับ”

 

“เหมือนจะรักที่นี่อยู่เหมือนกัน แต่ทำไมถึงตัดใจขายเสียล่ะคะ”พิมพ์วลัญช์ถาม

 

ดวงตาสีสนิมจ้องมองนายสาวคนใหม่ด้วยแววตาเรียบนิ่งก่อนตอบ“อาจจะเป็นเพราะที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำกระมังครับ ผมว่าคุณๆเข้าไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะ แม่หนอมเขาจัดเตรียมห้องหับเอาไว้รอแล้วครับ”

 

“ดีเหมือนกัน”คุณงามพรรณเออออแล้วจึงเดินขึ้นบันไดเตี้ยๆเข้าไปในตัวตึก ก่อนที่ผู้เป็นสามีจะก้าวตาม หากต้องชะงักเมื่อลูกสาวคนเดียวเอ่ยขึ้นเบาๆว่า “พายขอเดินสำรวจรอบๆบ้านก่อนนะคะคุณพ่อ”

 

“อย่าเดินไปไกลมากนะลูก เรายังไม่รู้จักที่นี่ดีพอ”บิดาสั่งเสียงเรียบ

 

“ค่ะ คุณพ่อ พายก็แค่อยากเห็นว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้างเท่านั้นเองค่ะ”หญิงสาวรับคำแล้วรีบหมุนตัวก้าวเร็วๆออกมาจากตัวตึก ราวกับเกรงว่าบิดาจะเปลี่ยนใจลากเข้าบ้านเสียอย่างนั้นแหละ

 

 

 

 

 

แสงแดดอ่อนจางหาย บรรยากาศกลางสวนรกร้างจึงเริ่มเย็นลง ทว่าน่าแปลกใจที่หญิงสาวกลับรู้สึกหนาวเย็นจนขนลุก แต่ก็ยังแข็งใจก้าวผ่านทางเดินอันปกคลุมด้วยต้นหญ้าไปเรื่อยๆด้วยท่าทางเลื่อนลอยราวกับต้องมนตร์

 

เสียงนกร้องระงมอยู่บนต้นไทรย้อยซึ่งยืนต้นเสียดสล้างอยู่ข้างสระน้ำรกร้างขาดการดูแล สังเกตได้จากมีต้นหนามสูงเกือบสองเมตรขึ้นอยู่โดยรอบและท่าน้ำอันผุพัง

 

หญิงสาวมิได้ใส่ใจสระน้ำดังกล่าวเท่าใดนัก กลับมองเลยต้นไทรใหญ่ซึ่งมีรากไทยห้อยย้อยไปยังศาลาแปดเหลี่ยมเก่าคร่ำปกคลุมด้วยดอกอินทนิลสีม่วงอ่อนซึ่งเลื้อยพันตัวศาลาจนร่มครึ้ม

 

ครืด...คราด

 

เสียงคล้ายโลหะถูกลากระไปบนพื้นซีเมนต์ดังก้องโสตประสาท พิมพ์วลัญช์จึงรีบก้าวเข้าไปในตัวศาลาด้วยความประหลาดใจ หากก็ได้พบเพียงความว่างเปล่า และฝุ่นหนาเกาะอยู่บนม้านั่งรอบศาลาเท่านั้น

 

“ใครน่ะ ออกมานะ”น้ำเสียงของหญิงสาวสะบัดน้อยๆ เต็มไปด้วยความหวาดระแวง

 

เงียบเชียบ มีเพียงเสียงจิ้งหรีดดังประสานเซ็งแซ่ และเมื่อเธอขยับตัวทุกสิ่งก็เงียบลงดุจเดิม

 

คิ้วโก่งขยับเข้าหากันจนเกือบเป็นขมวด ริมฝีปากได้รูปเม้มแน่น ขณะที่เท้าเรียวก้าวสวบๆออกมายืนกลางที่โล่งด้านนอกศาลา

 

แล้วอะไรบางอย่างก็โผล่พรวดขึ้นทันใด…

 

กรี๊ด!!!

 

เสียงหวีดร้องดังยาวและลนลาน เมื่อเด็กชายร่างเล็ก ผอมเกร็ง ผิวขาวซีดโผล่ออกมาจากหลังต้นไทร แต่เมื่ออารมณ์เครียดขมึงค่อยเข้าที่ เธอจึงตั้งสติพิจารณาว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นแค่เด็กน้อยวัยสิบขวบธรรมดาๆเท่านั้น

 

“หนู มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ใกล้ค่ำแล้ว ทำไมไม่กลับบ้าน”พิมพ์วลัญช์ถามพลางเดินเข้าไปใกล้

 

เด็กชายถอยกรูด ดวงตากลมดำขลับจ้องมองอย่างระวัง

 

“พี่ชื่อพาย เพิ่งมาถึงที่นี่วันนี้”เธอพูดต่อหวังสร้างความคุ้นเคยกับเด็กชาย

 

หากเด็กน้อยกลับหลับตาลง ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้งและกอดอกพูดราวกับเป็นผู้ใหญ่วัยไล่เลี่ยกันก็ไม่ปาน “ระวังตัวไว้ให้ดี”

 

คิ้วเรียวถูกเลิกขึ้นสูงขณะถาม “ทำไมล่ะ ที่นี่มีอะไรอันตรายเหรอ”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นเหนือมุมปากของเด็กน้อย“แล้วหล่อนจะรู้เอง”

 

หล่อน...เด็กคนนั้นใช้สรรพนามกับเธอว่าหล่อนอย่างนั้นรึ พิมพ์วลัญช์นึกขำอยู่ในใจแต่ก็มิได้แสดงสิ่งใดออกมา นอกจากรอยยิ้มอย่างใจดีธรรมดา “หนูไม่บอกแล้วพี่จะรู้ได้ยังไงล่ะ”

 

ร่างเล็กผอมไม่ยอมตอบโต้ กลับหันขวับหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งความกังขาเอาไว้เบื้องหลัง

 




Create Date : 24 กรกฎาคม 2555
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 18:49:27 น.
Counter : 1125 Pageviews.

2 comments
  
สวัสดีค่ะ
พอดีไม่ได้เป็นสมาชิกเลยส่งข้อความไปไม่ได้

มีเรื่องจะสอบถามเกี่ยวกับงานเขียนน่ะค่ะ หนูจะติดต่อได้ทางไหนบ้างคะ?

โดย: พิงค์ IP: 202.12.73.1 วันที่: 26 กรกฎาคม 2555 เวลา:3:05:43 น.
  
ถ้าเล่นเฟซบุ๊คก็ มาที่"บ้านน้ำฟา"ค่ะ

https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2/113918368683777?ref=hl
โดย: ผู้หญิงเลือดเย็น IP: 171.7.88.52 วันที่: 26 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:23:41 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผู้หญิงเลือดเย็น
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ใครเล่นเฟซบุ๊คไปคุยกันได้
ในแฟนเพจ "บ้านน้ำฟ้า"นะคะ