เรื่องเล่าสยองขน (รับวันวาเลนไทน์)...สุกี้ แมงกะจั๊ว... เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง...แต่ด้วยจรรยาบรรณ และเผื่อจะได้มีผู้โชคร้ายหลงไปกินแล้วเจอบ้าง เราจึงไม่เปิดเผยนามสถานที่ซะงั้น (จะได้มีเพื่อนร่วมชะตากรรม อิอิ)... วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549 วันนี้ผมมีนัดหมายไปกินข้าวหลังเลิกงาน เป้าหมายก็คือร้านสุกี้ เก่าแก่ ชื่อดังร้านหนึ่ง บนถนนเพชรบุรี (อย่างที่บอกด้วยจรรยาบรรณ เลยมิอาจเปิดเผยชื่อร้านได้...ร้านอยู่ระหว่างโรงแรมสยาม กับ RCA นั่นแหล่ะ ชื่อร้านเป็นไฟสีแดงๆ ใหญ่ๆ มีโลโก้เป็นรูปหม้อสุกี้เลย..ร้านมีสองชั้น หน้าร้านมีตู้ขายเกาลัดคั่วด้วย...บอกชื่อร้านไม่ได้จริงจริ๊ง) ไปถึงร้านก็ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ คนกินเยอะมากๆ จนชั้นล่างเต็ม พวกผมเลยขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งแบ่งเป็น 3 ห้องใหญ่ มีผู้ชายผู้หญิง 2 คน (คงเป็นแฟนกัน) ยืนรอโต๊ะอยู่ก่อนแล้ว พวกผมก็ยืนรอๆ ได้ซักพัก พนักงานก็เคลียร์โต๊ะให้ได้ พวกผม และคู่แฟนนั้นก็เลยไปนั่ง โต๊ะที่ผมได้เป็นโต๊ะมุมติดกำแพงพอดี โต๊ะคู่แฟนก็ถัดไปอีกหน่อย แต่แปลกใจนิดนึงที่เค้าเติมน้ำในหม้อสุกี้ไว้อยู่แล้ว ไม่มีฝาปิดด้วย แต่ก็คิดว่าคงเพิ่งเติมน้ำซุปน่ะ...เลยลงมือสั่งอาหาร โอ้..สุกี้ฯเค้าน่ากินมั่กๆ อาหารก็หน้าตาดูดี สั่งอาหารอะไรเรียบร้อย นั่งรอซักพักอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟรวดเร็วทันใจดี แต่แล้วผมก็สังเกตุเห็นว่าเพื่อนผม มองไปทางโต๊ะคู่แฟนนั้นตลอด ผมเลยถามว่ามีอะไร มันก็เลยบอกว่าโต๊ะนั้นมีแมลงสาบอยู่ในหม้อสุกี้ แต่รู้สึกว่าคู่นั้นจะยังโชคดีที่เห็นแมลงสาบก่อน ยังไม่ได้ใส่อาหารลงไป เลยแค่เปลี่ยนหม้อใหม่มา ทางโต๊ะผมไม่ต้องพูดถึงดันใส่ผักใส่หมูลงไปในหม้อเรียบร้อย ถึงคิดว่าตอนแรกจะได้มองดูในหม้อดีแล้ว แต่เพื่อความชัวร์ เลยคน คุ้ย ควาน ให้ควั่ก แต่ก็ไม่พบร่องรอยผู้ร้ายแต่อย่างใด เลยโล่งใจ ลงมือแย่งกันรับประทานสุกี้อย่างเอร็ดอร่อย สุกี้เค้าอร่อยจริงๆ ครับ ยืนยันๆ รสชาดแบบสุกี้โบราณๆ น่ะ(ผมว่าอร่อยกว่าเอ็มเคเยอะเลย) พวกผมก็จัดการโซ้ยจนชุดรวมมิตรหมูหมดไปแล้ว เลยต่อด้วยการสั่งหมู และกุ้งอีกอย่างละหนึ่งจาน พอเค้าเอามาวางเสิร์ฟเรียบร้อย ผมกำลังเอาหมูใส่หม้อนั่นแหล่ะ หางตาผมก็เห็นแว้บๆ อะไรดำๆ เดินอยู่ขอบจานกุ้งหว่า พอหันไปดูก็ใช่เลย พี่จั๊วตัวขนาดย่อมๆ วัยรุ่นๆ ไม่ใหญ่มาก เดินดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ริมจาน ด้วยความฉับไว ผมเลยรีบเอาแก้วเขี่ยมันออกจากจาน แล้วเอาแก้วทับมันไว้ กะเรียกพนักงานมาเปลี่ยนแก้วจะได้เห็นด้วย แต่รอตั้งนานพนักงานก็ไม่โผล่มา เพื่อนผมซึ่งคิดว่าไอ้จั๊วมันตายแล้ว เลยยกแก้วดูเล่นๆ ปรากฏว่ามันยังไม่ตายแฮะ (สงสัยก้นแก้วมันจะเว้า เลยไม่ทับมัน) เพื่อนผมตกใจเลยเอาแก้วปัดมันจนหล่นจากโต๊ะ แล้วไอ้แมลงสาบมันก็วิ่งหายไป ผมก็เลยด่าเพื่อนว่า ทำให้หลักฐานสำคัญหายไป แต่เพื่อนก็บอกว่าไม่ต้องห่วง มาโน่นอีกตัวนึง ผมหันไปดูปรากฏว่าขอบโต๊ะอีกด้านนึง มีแมลงสาบไซส์ใกล้เคียงตัวเดิมแต่คงไม่ใช่ตัวเดิม โผล่หน้าจากขอบโต๊ะมาทำหนวดดุ๊กๆ ดิ๊กๆ สำรวจอาหารอยู่ โห..คราวนี้ไม่ไหวล่ะ ประกอบกับคนที่ท่าทางเหมือนผู้จัดการร้านเดินมาพอดี ผมเลยชี้ให้ดูแมลงสาบแล้วขอย้ายโต๊ะ ปกติแล้วเป็นที่อื่นผมคงเลิกกินแล้ว คงสั่งเช็คบิลแล้วกลับบ้าน แต่นี่สุกี้เค้าอร่อยจริงๆ และก็ยังเหลืออีกตั้งเยอะ (ตะกละบวกเสียดายว่างั้น) เลยทำให้พอทำใจเรื่องแมลงสาบได้บ้าง ผมก็ได้ย้ายโต๊ะมากลางๆ ร้านเลย ย้ายของเข้าที่เข้าทาง บ่นๆ ได้ซักพัก ก็ลงมือกินกันต่อ กินต่อได้ซักพัก มันก็มาอีกแล้ว คราวนี้เป็นตัวเล็กๆ อนุบาลๆ เหมือนเพิ่งคลอด เดินอยู่บนกล่องที่ใส่กระดาษทิชชู่ ผมเลยเอากระดาษทิชชู่จับ แล้ว ขยำ บี้ๆ โยนลงพื้น แล้วเหยียบซ้ำอีกรอบเพื่อความชัวร์ เหตุผลที่ต้องทำรุนแรงถึงเพียงนี้ก็เพื่อเป็นตัวอย่างแก่แมลงสาบตัวอื่นด้วย จะได้ไม่มาแหยมกับโต๊ะนี้อีก (ที่จริงตัวมันเล็กๆ น่ะเลยกล้า แหะ แหะ--เพื่อนคนไหนอยู่องค์กรพิทักษ์สัตว์ก็อย่าว่ากันนะครับ) จากนั้นผมก็กินต่ออย่างสบายใจ ว่าคงไม่มีไอ้จั๊วตัวไหนกล้าโผล่มาอีกแล้ว เหมือนแมลงสาบมันจะรู้ เพราะจากนั้นหลังจากที่ผมขยำขยี้เป็นตัวอย่างก็ไม่มีตัวไหนโผล่มาอีกเลย พวกเราก็ซัดสุกี้กันจนหมด ฮ่า..อร่อยจังเยยย แต่พอจะกินน้ำปิดท้ายปรากฏว่า ชาจีนเย็นในเหยือกที่เค้าวางไว้ให้เติมดันหมดพอดี ผมเลยขอใหม่กับพนักงานเสิร์ฟ เค้าก็เอาเหยือกเก่าไปเติมมา แล้วรินใส่แก้วให้ทุกคน แหม่..กินสุกี้จนหิวน้ำ ได้ชาเย็นแก้เผ็ดนี่มันชื่นใจจริงๆ ทุกคนก็กินน้ำสดชื่นกันไป อิ่มอร่อยๆ แล้วผมก็เรียกพนักงานมาเก็บเงินเตรียมแยกย้าย จนพนักงานมาเก็บเงินอะไรเสร็จ ผมก็หิวน้ำอีกก็เลยหยิบเหยือกมาเติมเอง แต่พอเติมปุ๊บ ก็สังเกตุเห็นว่า มีเศษอะไรหว่า ดำๆ ไหลออกมาตามน้ำ ดูดีๆ ก็เหมือนขาแมลงอะไรซักอย่าง เพื่อนผมเลยลองเทน้ำจากเหยือกลงแก้วมันบ้าง คราวนี้ชัดเลยแมลงสาบตัวเล็กๆ ประมาณตัวที่ผมบี้นั่นแหล่ะลอยออกมากับน้ำ เท่านั้นแหล่ะครับ แทบอ้วก โห..จากสุกี้อร่อยๆ สวรรค์กลายเป็นนรกเลย ฮือๆๆๆ ไม่รู้เป็นเพราะเวรกรรมตามสนองรึเปล่า ที่ผมไปบี้เพื่อนมัน ก็ได้แต่หวังว่ามันเพิ่งตกลงไปหลังจากที่พวกผมกินน้ำรอบแรกไปแล้ว ไม่ได้มากับเหยือกตั้งแต่แรก ไม่งั้นพวกผมก็คงกินน้ำซากแมลงสาบไปแล้ว..นึกย้อนกลับไปแล้วยังแหวะๆ อยู่เลยนะเนี่ย หยึยๆ ไอ้ผมนะไม่เท่าไหร่ เพราะเคยยิ่งกว่านี้ (ผมเคยเจอที่ร้านข้าวขาหมูเจ้าอร่อยแถวสามแยกเกษตร แบบว่า กินน้ำเสร็จวางแก้วลง เห็นแมลงสาบตัวเล็กๆ นอนยิ้มอยู่ก้นแก้วเลย) แต่พวกสาวๆ สิทำหน้าจะร้องไห้เอา ตอนแรกก็ว่าจะเรียกพนักงานมาด่าแต่ก็เห็นว่าเก็บเงินอะไรไปแล้ว เลยช่างมันละกันวะ กลับบ้านดีกว่า แล้วก็ตั้งใจกันว่าชาตินี้จะไม่กลับมาเหยียบร้านสุกี้ร้านนี้อีกเลย... ก็เล่าสู่กันฟังนะครับ ไม่ต้องเชื่อนะครับ อาจเป็นเพราะผมโชคร้ายเอง โต๊ะอื่นอาจจะไม่เจอแมลงสาบเลยก็ได้ ก็ลองไปกินดูครับ สุกี้เค้าอร่อยมากๆ แต่ก็หมั่นสอดส่องตรวจตราให้ดีๆ หน่อยละกัน ส่วนผมไม่แล้วครับ ขอบายล่ะ ขี้เกียจนั่งกินไประแวงไปอ่ะ... ...ที่สำคัญ...ไอ้เจอเป็นตัวน่ะยังพอทำใจ กลัวจะเจอในหม้อครึ่งตัว อีกครึ่งอยู่ในปากเนี่ยสิ งานนี้คงมีช๊อค อ้วกแตก แหงๆ หยึยๆ...   Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2549 15 comments Last Update : 6 สิงหาคม 2551 23:29:03 น. Counter : 803 Pageviews. Share Tweet

อ้อ..เกือบลืม แฮปปี้วาเลนไทน์ครับ ขอให้เพื่อนๆ น้องมีความสุขมากๆ ในวันแห่งความรักนี้ ถ้าวันนี้ไม่รู้จะไปเดทที่ไหน ก็ลองชวนกันไปกินสุกี้ร้านนี้ละกันนะครับ โรแมนติคแน่นอน อิอิ   โดย: captainfakenature 14 กุมภาพันธ์ 2549 1:42:59 น.

ก็ที่อร่อยน่ะ ก็เพราะเค้าใช้แมลงสาปชูรสอาหารน่ะค่ะ ล้อเล่น   โดย: mungkood 14 กุมภาพันธ์ 2549 1:49:00 น.

Happy Valentine's Day คะ   โดย: jaa_aey 14 กุมภาพันธ์ 2549 2:23:35 น.

จริงๆ เคล็ดลับความหวานของน้ำซุปคือ ซุปแมลงสาบนั่นเอง   โดย: Kofschip 14 กุมภาพันธ์ 2549 2:41:12 น.

เหอเหอ   โดย: กำปงพิราเทวี 14 กุมภาพันธ์ 2549 3:56:17 น.

อ่านไปเห็นภาพเลยค่ะพี่กัปตัน หลับฝันดีนะคะ มีความสุขทุกวันนะคะ พี่กัปตัน ไปทำบุญทีไหนเปล่าคะ   โดย: yadegari 14 กุมภาพันธ์ 2549 5:37:20 น.

กึ๋ยๆ เลยค่ะ ...   โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 14 กุมภาพันธ์ 2549 7:29:31 น.

ขอให้มีความสุขในวันแห่งความรักนี้นะคะ   โดย: เสียงซึง 14 กุมภาพันธ์ 2549 10:17:42 น.

อ่านไปพร้อมกันอาการขนลุกซู่ๆ ... ไม่ได้กลัวอ่ะค่ะแต่ว่าเกลียดมันเข้าไส้ ... เห็นทีไรต้องฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง ( รู้สึกขนแขนแสตนด์อัพแบบไม่ยอมดาวน์เลยค่ะ ) ถ้าเป็นนิดเจอแบบนี้คงจ่ายเงินแล้วย้ายที่ดีกว่า แบบว่าระแวงอ่ะค่ะ กินๆ แบบมีความสุขอยู่ดีๆ ดันมีศัตรูมากวนใจซะงั้น มีความสุขวันแห่งความรักนะคะ   โดย: JewNid 14 กุมภาพันธ์ 2549 19:42:05 น.

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะมานะครับ เดี๋ยวพาไปเลี้ยงสุกี้ทุกคนเลย อิอิ   โดย: captainfakenature 15 กุมภาพันธ์ 2549 23:59:13 น.

เหวออออออออออออออออ..... เข้ามาทันอ่านเจอว่าจะพาไปเลี้ยงสุกี้เลย ดีใจจัง... แต่ไม่เอาร้านนั้นนะ พี่กัปตันสาบานได้นะว่าเข้าร้านสุกี้ ไม่ใช่ร้านขายแมลงสาป เป็นเบลล์ ออกตั้งแต่ตัวแรกแล้ว ชอบกินแมลงสาปก็บอกมา   โดย: THE BEGINNING 19 กุมภาพันธ์ 2549 1:28:04 น.

แถวบ้านผม(หรือเฉพราะพวกผมก็ไม่รู้นะ)เรียกว่า ปีเตอร์ครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ตอนนั้นปีเตอร์ คอปฯดังมากครับแต่ก็เรียกปีเตอร์จนติดปากกันไปแล้วเจอปุ๊ปก็ร้องปีเตอร์ปั๊ป ผมขอบังอาจสอนพี่นิดนะครับว่า ไม่ควรถามน้ำหนักผู้หญิงฉันใดก็ไม่ควรทำให้แมลงฉาบตัวเละฉันนั้น มันจะเหม็นติดมือติดเท้าท่านผู้นั้น ถึงแม้จะเอาทิชชู่หรือใส่รองเท้าก็ตาม ไม่เชื่อพี่ลองดมมือพี่สิป่านี้ก็ยังมีกลิ่นอยู่นะ   โดย: cb IP: 58.136.98.84 20 กุมภาพันธ์ 2549 20:04:26 น.

โห...ถ้าได้ไปกินสุกี้กะเบลล์สองต่อสองนะ แมลงสาบว่ายน้ำอยู่ในหม้อยังดูน่ารักเลย จะเอาตะเกียบเขี่ยเล่นแก้เขินด้วยซ้ำ อิอิ คุณ cb ผมก็คุ้นๆ แฮะ ว่าเคยมียุคนึงที่ฮิตเรียกแมงสาบว่า ปีเตอร์ เหมือนกัน...แต่เมื่อกี้ลองดมทั้งมือ และเท้าแล้วครับ หอม สะอาดหายห่วง   โดย: captainfakenature 21 กุมภาพันธ์ 2549 2:50:19 น.

ก็น่าขยะแขยงนะแต่น่าจะดีกว่าถ้าวื้อมาทำทานเองนะจะ ( นิคเนม )   โดย: เรารักนายหลวง444 IP: 125.26.238.242 8 มกราคม 2551 13:00:17 น.

ฉันคงจะไม่มีความสุขวันวาเลนไทน์....ก็เพราะได้อ่านเรืองของแก.....   โดย: ผู้หวังดี IP: 118.175.6.34 18 กุมภาพันธ์ 2552 11:31:48 น.