ตอนฉันอายุสิบสามปี ใคร..ไม่ทราบ เอาลูกหมามาให้สองตัว
ตัวหนึ่งสีขาวปลอด หน้าตาหล่อเหลา ส่วนอีกตัว สีดำปลอดหน้าตาขี้เหร่ มันสองตัวเป็นพี่น้องคลานตามกันมาติดๆ แต่แตกต่างกันมาก
ตัวขาวชื่อม๊อค ทุกคนรุมรักมันเพราะความหล่อเหลา มันจึงดูเอาแต่ใจตัวเอง
อีกตัวชื่อแม๊ค มันรู้ตัวว่าไม่หล่อ จึงพยายามขอความรัก ด้วยการทำความดีทดแทน มันเป็นหมาที่เรียบร้อย และพยายามไม่สร้างปัญหาให้พวกเราขุ่นข้องหมองใจ
เช้าวันหนึ่ง...ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเหมือนทุกวัน ฉันทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ เพื่อจะไปโรงเรียน ตอนนี้....ฉันพร้อมออกเดินทางแล้ว ฉันสอดเท้าข้างขวาเข้ารองเท้าแล้วติดเป๊ะ และตามด้วยเท้าข้างซ้าย
แต่วันนี้ความรู้สึกแปลกไป ฉันแกะเป๊ะออกเพือ่สอดเท้า เป๊ะพร้อมสายคาดรองเท้า ลอยติดมือฉันขึ้นมา แต่ตัวรองเท้ายังอยู่ที่พื้น
นั่นหมายความว่า..........รองเท้าฉันโดนโจมตี!
ไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ ไม่สามารถจับเท้าใครดมได้ ฉันรีบแจ้งเหตุให้พ่อทราบ พร้อมกับขอให้ท่านซื้อรองเท้าให้ใหม่
"ไม่" ท่านตอบด้วยความปรานี
เช้าวันนั้น ฉันต้องเสียเวลานั่งเย็บสายคาดรองเท้ากับรองเท้าให้ติดกันด้วยความเจ็บช้ำ และสังเกตว่า จากรองเท้าที่วางเรียงอยู่ มันเจาะจงโจมตีของฉันคนเดียว
ฉันเดินลากเท้าไปโรงเรียน ในลักษณะเป๋ห่าว เพราะกลัวว่า ถ้ายกเท้าตามปกติแล้ว ที่เย็บไว้จะขาด ฉันต้องเดินลากเท้าอย่างนั้นทั้งวัน อดทนต่อคำล้อเลียนของเพื่อนๆ และสายตาของผู้คน ที่มองมาด้วยความสงสัยปนสมเพช ในใจฉันคิดว่า จะไม่ยอมเป็ยเป๋ห่าวไปตลอดหรอกน่า
ว่าแล้ว............แผนการต่างก็ได้ก่อตัวขึ้นในสมองของฉัน
เย็นวันนั้น ฉันถอดรองเท้าวางไว้ที่เดิมตามแผน!
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันลอบดูผลงาน เป็นไปตามคาด มันโจมตีรองเท้าฉันอย่างไร้ปรานี ตอนนี้...รองเท้าที่สายคาดขาดอยู่แล้ว ตัวสายคาดเอง ถูกกัดขาดออกเป็นสองท่อน และที่ส้นเท้า ก็ถูกแทะจนหนังบางส่วนหลุดหายไป
ภาพรองเท้าคูใหม่ ลอยเด่นคมชัดขึ้นในมโนภาพของฉัน ฉันพกพาแววตาแสนโศก พร้อมหิ้วหลักฐานไปแสดงให้พ่อเห็น
"ไม่" พ่อยืนยันด้วยจิตเมตตา "ต้องรอปี(การศึกษา)หน้า จึงจะซื้อให้"
แต่นี่มันเพิ่งเปิดเทอมแรกของปีการศึกษาเท่านั้น นั่นหมายความว่า.....................
ไม่มีแผนสองแล้ว ขืนมีแผนสองอีก คงต้องเดินเท้าเปล่าไปโรงเรียนแน่
เหตุการณ์ครั้งนั้น ฉันได้เรียนรู้ดังนี้................
๑. เรียนรู้ที่จะรู้จักการรอคอยด้วยความหวัง โดยเฉพาะ ถ้าเรารู้แน่ว่าเรามีหวัง ไม่ว่า การรอคอยนั้นจะนานเพียงใด ก็อดทนได้ และสิ่งที่เราได้รับ จะเป็นสิ่งพิเศษที่แสนจะมีค่า
๒. อดทนต่อความเจ็บช้ำอดสู รู้จักสร้างพลังใจให้แข็งแกร่ง เพื่อเดินลากเท้า ฝ่าสายตาผู้คนด้วยความอดกลั้น และมองความรันทดด้วยแง่มุมที่ตลก (หัวเราะแบบแค้นๆ)
๓. เวลามีลูกหมาหน้าใหม่เข้ามาในบ้าน ต้องเก็บทุกสิ่งโดยเฉพาะรองเท้า ไว้บนที่สูง ที่สุนัขน้อยไม่สามารถเอื้อมถึง
๔. รู้การเย็บรองเท้า รู้จักขนาดของเข็มและด้าย รู้การออกแรงที่พอดีได้อย่างชำนาญ และ
๕. อย่าเจ้าเล่ห์กับพ่อแม่ ระวัง! จะโดนตลบหลัง !!!!!!
จากคุณ : น้าสือสาว - [20 มิ.ย. 45]
Copyright © น้าสือสาว