<<
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
29 กันยายน 2558
 

′ยิ่งลักษณ์′ ฟ้องอสส.สั่งฟ้องคดีจำนำข้าวผิดกฎหมาย-สอดไส้สำนวนกว่า6หมื่นแผ่น

  ขออนุญาตมติชนรายวันนำเนื้อหานี้มารวบรวมไว้เพื่อการศึกษา

′ยิ่งลักษณ์′ ฟ้องอสส.สั่งฟ้องคดีจำนำข้าวผิดกฎหมาย

-สอดไส้สำนวนกว่า6หมื่นแผ่น


//www.matichon.co.th/online/2015/09/14434961341443496152l.jpg

ในวันนี้ (29 ก.ย.) เวลาประมาณ 09.00น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะโจทก์ พร้อมนายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา เพื่อยื่นฟ้อง นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด กับนายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการฝ่ายสอบสวนและพนักงานอัยการอื่นอีกรวมจำนวน 4 คน ในความผิดอาญาฐานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 200 และมาตรา 83 โดยเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกันรวม 3 กรณีดังต่อไปนี้


กรณีที่หนึ่ง นายตระกูล กับพวกได้ร่วมกันพิจารณาสำนวนของ ป.ป.ช. ที่กล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าได้กระทำความผิดในโครงการรับจำนำข้าวเมื่อครั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งพบว่าการไต่สวนของ ป.ป.ช. นั้นมีข้อไม่สมบูรณ์ที่ไม่เพียงพอจะดำเนินคดีได้ถึง 4 ประเด็น


ดังนั้น เพื่อให้การแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพียงพอต่อการพิจารณาว่าจะมีการสั่งฟ้องคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามที่ ป.ป.ช. กล่าวหาหรือไม่ นายตระกูล ในฐานะอัยการสูงสุด จึงได้ส่งเรื่องข้อไม่สมบูรณ์ ดังกล่าวไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการพร้อมกับนายตระกูล ได้แต่งตั้งคณะทำงานที่เป็นพนักงานอัยการ เข้าร่วมพิจารณาดำเนินการกับทาง ป.ป.ช. โดยมีนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์พงศ์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะทำงานร่วมกับทาง ป.ป.ช. ซึ่งคณะทำงานร่วมกันของ ป.ป.ช. กับพนักงานอัยการ จะต้องดำเนินการและพิจารณาเรื่องด้วยความรอบคอบรัดกุมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะการไต่สวนเพิ่มเติมให้ได้ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานตามที่อัยการสูงสุดได้แจ้งสั่งในข้อไม่สมบูรณ์ดังกล่าวอันเป็นอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายของพนักงานอัยการที่บังคับไว้


แต่นายตระกูลกับคณะทำงานบางคนได้รวบรัด เร่งรีบ ไม่ดำเนินการในข้อไม่สมบูรณ์ดังกล่าวให้ครบถ้วน เสียก่อน กลับสมคบกันให้คณะทำงานเพียงบางคนเร่งรีบเสนอความเห็นควรสั่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยไม่เป็นไปตามขั้นตอน และไม่ให้ความเป็นธรรม แล้วนายตระกูล ก็รวบรัด มีคำสั่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ แล้วแถลงข่าว เพียง 1 ชั่วโมงก่อนการประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่จะมีมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 23 มกราคม 2558


ซึ่ง นายวุฒิพงศ์ ประธานคณะทำงานได้แถลงข่าวว่า ตนในฐานะรองอัยการสูงสุดและประธานคณะทำงานไม่รู้เรื่องกับข้อสรุปการสั่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังกล่าว แต่เตรียมจะเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อหาข้อยุติในวันที่ 26 มกราคม 2558 แต่ก็ยังไม่ทันได้จัดประชุมเพราะนายตระกูล รวบรัดตัดหน้าสั่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ เสียก่อนแล้ว ดังที่เป็นข่าววิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา ว่าการสั่งฟ้องของนายตระกูล อัยการสูงสุด กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม มีวาระซ่อนเร้นและไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง


กรณีที่สอง หลังจากนายตระกูล กับพวก ได้มีคำสั่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องดังกล่าวมาแล้ว นายตระกูล กับพวกได้ร่วมกันร่างคำฟ้องแล้วยื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยบรรยายฟ้องในฐานความผิดเพิ่มอีกฐานหนึ่งเกินกว่าฐานความผิดที่ได้เคยแจ้งข้อกล่าวหากับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไว้ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช.


และนอกจากนั้น ยังบรรยายฟ้องขาดในส่วนที่เป็นคุณ กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในส่วนของข้อไม่สมบูรณ์จากการไต่สวนดังกล่าวข้างต้น ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่า จะต้องบรรยายฟ้องทั้งส่วนที่เป็นคุณและเป็นโทษกับจำเลยด้วย ทั้งนี้ เพื่อศาลจะได้มีดุลพินิจในการพิจารณาพิพากษา แต่นายตระกูล กับพวกได้ร่วมกันกระทำการและละเว้นไม่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวข้างต้น


กรณีที่สาม หลังจากมีการยื่นฟ้องคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว นายตระกูล กับพวกที่เป็นพนักงานอัยการได้ร่วมกันกระทำการในสิ่งที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายของพนักงานอัยการเป็นอย่างยิ่งด้วยการสมคบและร่วมกันนำเอาเอกสารพยานหลักฐานนอกสำนวนการไต่สวนของป.ป.ช.จำนวนถึง148แฟ้ม รวม 67,800 แผ่น เข้ามาในสำนวนคดีของพนักงานอัยการ กล่าวคือสำนวนพยานหลักฐานดังกล่าวเป็นสำนวนที่มีอยู่ในสำนวนการไต่สวนคดีอื่นที่ไม่เกี่ยวกับสำนวนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไว้


ซึ่งตามกฎหมายแล้ว กรณีเช่นนี้จะต้องแจ้งสั่งให้ ป.ป.ช. ทำการไต่สวนเพิ่มเติมเสียก่อน ทำนองเดียวกับการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมในสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน แต่ นายตระกูล กับพวกได้สมคบและร่วมกันไปจัดหาแล้วนำมาเข้าในสำนวนคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยที่ไม่มีการให้ ป.ป.ช. ไต่สวนก่อนตามกฎหมาย จากนั้นก็นำเสนอต่อศาลทันที อันมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมายของพนักงานอัยการในฐานะเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องไม่กระทำความผิดเสียเองเพื่อกลั่นแกล้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดเช่น น.ส.ยิ่งลักษณ์


อนึ่ง ข้อไม่สมบูรณ์ทั้ง 4 ประเด็น อันเป็นเหตุให้ไม่เพียงพอต่อการจะสั่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังกล่าวมาข้างต้นได้แก่


(1) ประเด็นโครงการรับจำนำข้าวซึ่งรัฐบาลได้แถลงเป็นนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ เมื่อรัฐบาลได้แถลงให้โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ย่อมผูกพันตามรัฐธรรมนูญที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) จะต้องดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสามารถยับยั้งหรือยกเลิกโครงการที่เป็นนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาได้หรือไม่ จึงให้ ป.ป.ช. ไต่สวนในประเด็นนี้เพิ่มเติม


(2) ประเด็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กล่าวคือ การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. เป็นสาระสำคัญอย่างยิ่งแต่ยังไม่มีการไต่สวนให้ปรากฏพยานหลักฐานในประเด็นดังกล่าวว่ามีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไรจึงให้ป.ป.ช.ไต่สวนในประเด็นนี้เพิ่มเติม


(3) ประเด็นเรื่องการทุจริต กล่าวคือ ตามสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ประเด็นเรื่องการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว พยานหลักฐานและการไต่สวนปรากฏเพียงการกล่าวหาของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับพวก ซึ่งเป็นผู้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ จึงให้ ป.ป.ช. ไต่สวนให้ได้ความว่ามีขั้นตอนใดที่พบการทุจริต และทุจริตอย่างไร มีพยานหลักฐานที่ส่อให้เห็นถึงการทุจริตหรือไม่ เพราะตามที่ ป.ป.ช. ไต่สวนมานั้นมีประเด็นขัดกันและยังไม่สิ้นกระแสความ

(4) ประเด็นอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์แก่รูปคดี


น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่าการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้ดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวนาซึ่งเป็นเกษตรกรอาชีพหลักของประเทศไทยอาชีพหนึ่งโดยเป็นความจำเป็นและเป็นเรื่องบังคับตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาอันเป็นความผูกพันตามรัฐธรรมนูญ


และตลอดเวลาที่ดำเนินการโครงการดังกล่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กำกับดูแลสอดส่องให้โครงการเป็นไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีด้วยความเรียบร้อย เกิดประโยชน์แก่ชาวนาอย่างแท้จริง ดังเป็นที่ประจักษ์ตลอดมา การกล่าวหาและฟ้องร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยเหตุเพียงเพราะได้ใช้งบประมาณสิ้นเปลืองไป เป็นความไม่เป็นธรรมต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอย่างยิ่ง เพราะนโยบายการช่วยเหลือเกษตรกรหรือคนจนคนยากไร้ของประเทศก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณสิ้นเปลืองหมดไปเป็นธรรมดาของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยซึ่งก็ได้ปฏิบัติเช่นนี้ต่อๆกันมา


ดังนั้น การกระทำของนายตระกูล อัยการสูงสุด กับพนักงานอัยการอีกบางคนที่รวบรัดมีคำสั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยไม่ดำเนินการไต่สวนข้อไม่สมบูรณ์ให้ครบถ้วน แต่กลับสั่งฟ้องโดยไม่เป็นไปตามขั้นตอนก็ดีการบรรยายฟ้องคดีโดยละเว้นไม่ระบุข้อไม่สมบูรณ์จากการไต่สวนอันเป็นคุณต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ถูกฟ้องก็ดีและการนำเอาเอกสารหลักฐานจำนวนถึง67,800แผ่นซึ่งเป็นเอกสารนอกสำนวนเข้ามาในสำนวนที่ดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังกล่าวมาก็ดี เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายของพนักงานอัยการในฐานะเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรมของรัฐ ทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับความเสียหาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงจำเป็นต้องรักษาสิทธิและใช้สิทธิตามกฎหมายที่ต้องฟ้องร้องเป็นคดีอาญากับบุคคลดังกล่าวทั้ง 3 กรณี


นอกจากนั้น ขณะนี้ยังปรากฏอีกด้วยว่า มีการพยายามของกลุ่มคนบางกลุ่มที่จะมุ่งมั่นดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อเรียกความรับผิดเป็นค่าเสียหายจากน.ส.ยิ่งลักษณ์อีกด้วยมีการให้ข่าวเป็นระยะๆว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องรับผิดเป็นจำนวนหลายแสนล้านบาท ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะได้ติดตามการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าวต่อไป และหากมีการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม ไม่เป็นไปตามกฎหมาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับทุกคนโดยไม่ละเว้น แต่สิ่งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ รู้สึกกังวลและไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ


การดำเนินคดีต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรี จากบุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและเป็นเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองด้วยความไม่เป็นธรรมไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีเจตนากลั่นแกล้งนั้นย่อมส่อสะท้อนแสดงว่าพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นคนจนเป็นคนยากไร้และไม่มีตำแหน่งหน้าที่ใดๆนั้นจะได้รับการคุ้มครองปกป้องและความเป็นธรรมได้อย่างไร


ซึ่งภายหลังศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าจะรับคดีนี้ไว้พิจารณาเพื่อไต่สวนมูลฟ้องหรือไม่อีก 7 วัน/จบ

.....................................................................................................


 





Create Date : 29 กันยายน 2558
Last Update : 29 กันยายน 2558 20:46:31 น. 0 comments
Counter : 1343 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

justice0009
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add justice0009's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com