"สรยุทธ สุทัศนะจินดา" เป็นพิธีกรและผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ ที่มีชื่อเสียงในการสัมภาษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยนำข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์มาอ่านในรายการโทรทัศน์ หรือที่เรียกว่า “เล่าข่าว” (News Talk) มีลีลาการเล่าข่าวที่เก่ง ถ่ายทอดให้เข้าใจง่าย มีวิธีการนำเสนอที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำให้ชาวบ้านหันมาสนใจข่าว ทั้งที่เมื่อก่อนหากเป็นรายการข่าว คนจะเปลี่ยนช่องหนี และอีกบทบาทหนึ่ง คือ รับร้องเรียนจากชาวบ้านและลงพื้นที่ไปช่วยเหลือ เช่น กรณีมีน้ำท่วมหนัก แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่า ทำเกินหน้าที่สื่อมวลชนหรือไม่

"สรยุทธ" มีชื่อเรียกเล่นๆ จากเพื่อนฝูงและหมู่คนที่นิยมชมชอบว่า ยุทธ, เฮียสอ เกิดวันที่11 พฤษภาคมพ.ศ. 2509 อายุ 50 ปี เป็นบุตรของนางวิชชุดา สุทัศนะจินดา (แซ่โล้) หลังจากนั้นเข้าศึกษาในโรงเรียนอำนวยศิลป์เป็นรุ่นที่ 57 จบการศึกษานิเทศศาสตร์บัณฑิต (วารสารศาสตร์) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง)

เริ่มทำงานเป็นนักข่าว สังกัดหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมพ.ศ.2531 โดยเงินเดือนเริ่มต้นในขณะนั้น คือ 4,000 บาท โดยทำข่าวสายรัฐสภาเป็นเวลา2ปี และทำข่าวสายทำเนียบรัฐบาลอีก2ปี ต่อมาในปี 2535 ได้ประจำในกองบรรณาธิการ ในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าข่าวการเมือง และในปี 2537 ได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นหัวหน้าข่าวการเมือง

ในปี 2540 ได้เป็นบรรณาธิการข่าว และจัดรายการวิเคราะห์ข่าวให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ โดยตำแหน่งหลังสุด ก่อนจะออกจากเครือเนชั่น คือ รองบรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ เดอะ เนชั่น

นอกจากการเป็นผู้ดำเนินรายการแล้ว “สรยุทธ” ยังดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด (ผลิตรายการโทรทัศน์) และบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด (รับจัดงานและกิจกรรม)

สำหรับ ผลงานรายการโทรทัศน์ซึ่งเป็นที่รู้จัก คือ รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ , เรื่องเด่นเย็นนี้ ,เรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์ ,คุย คุ้ย ข่าว และถึงลูกถึงคน

นอกจากนี้ ในอดีตมีรายการ วิเคราะห์ข่าว , เวทีไอทีวี ,ฟังความรอบข้าง ,ไอทีวี ทอล์ก ทางไอทีวี ,เก็บตกจากเนชั่น ,รายการคมชัดลึก ,ก๊วนกวนข่าว ทางเนชั่น แชนแนล, กล่องวิเศษ ทางช่อง 3 ,ถึงลูกถึงคน ,คุยคุ้ยข่าว ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ,จับเข่าคุยทางช่อง 3

และเขายังมีผลงานในด้านการเขียน ในคอลัมน์ คุยนอกสนาม ในนิตยสารแพรว(ปัจจุบันเลิกเขียนแล้ว),คอลัมน์ พูดจาประสาข่าว ,คอลัมน์ คุยคุ้ยข่าว ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก(ปัจจุบันเลิกเขียนแล้ว) และยังมีผลงานที่เป็นหนังสือเล่ม คือ คมชัดลึก ,กรรมกรข่าว ,กรรมกรข่าว 2 งานรับเหมา ,คุยนอกสนาม ,กรรมกรข่าว 3

“สรยุทธ” เคยได้รับรางวัลหลายรางวัลด้วยกัน คือ รางวัลเทพทองพระราชทานท็อปอวอร์ดส 2003, 2004, 2010,สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์อวอร์ดส 2003, 2004,รางวัลโทรทัศน์ทองคำเกิดอวอร์ด2012

แต่ “สรยุทธ” ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายเรื่อง เช่น การเล่าข่าว ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้และคุยคุ้ยข่าว ซึ่งนำข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์มาอ่านในรายการโทรทัศน์ ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมที่สื่อโทรทัศน์ ซึ่งมีทรัพยากรและบุคลากรเพียงพอที่จะทำข่าวอย่างมีคุณภาพ กลับนำข่าวจากสื่อหนังสือพิมพ์มาใช้ มานำเสนอโดยสอดแทรกความเห็นของตัวเอง

ทั้งนี้ หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิด กรณีบริษัทไร่ส้ม ที่มีนายสรยุทธ เป็นกรรมการผู้จัดการ เบี้ยวค่าโฆษณา อสมท. ในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ทำให้ อสมท. ได้รับค่าเสียหาย 138.79 ล้านบาท “สรยุทธ” ใช้รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ซึ่งเป็นรายการที่ตนเองเป็นพิธีกร ชี้แจง และยังไม่ยุติการทำหน้าที่ ซึ่งทางสภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้มีมติให้ “สรยุทธ” ยุติการทำหน้าที่ของตนเอง แต่“สรยุทธ”กลับยื่นหนังสือลาออกแทน แต่ต่อมาสภาฯ ได้ชี้แจงว่า สรยุทธได้พ้นสมาชิกภาพไปแล้วกว่า 3 ปี เนื่องจากไม่ได้จ่ายค่าสมาชิก

นอกจากนี้ ยังมีภาคีเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นองค์กรภาคธุรกิจเอกชนที่ต่อต้านการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบในสังคม ได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังช่อง 3 ซึ่งเป็นต้นสังกัดให้พิจารณาการทำหน้าที่ของสรยุทธ หากไม่เช่นนั้นแล้วจะถอนโฆษณาที่สนับสนุนในช่วงรายการของสรยุทธ แต่ “สรยุทธ” ก็ยังเป็นพิธีกรดำเนินรายการทางทีวีของช่อง 3ตลอดมา

จนกระทั่งถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน ในคดีเบี้ยวค่าโฆษณา อสมท. ซึ่งคงส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่สื่อมวลชนของ “สรยุทธ” ต่อไปอย่างแน่นอน