BlogGang.com : : สมาชิกหมายเลข 3731262 : เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับน้องหมา ^^'

ประวัติของชิสุนี้ค่อนข้างยาวนานมาก แต่จากการรวบรวมหลักฐานนั้นค่อนข้างมีจำกัดเลยทำให้การประติดประต่อมีความไม่ชัดเจนอยู่ มีหลักฐานการยืนยันว่าสุนัขชนิดนี้มีบรรพบุรุษมานาน 1000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช เพราะว่ามีการขุดซากกระดูกสุนัขและพบว่ามีโครงสร้างคล้ายชิสุ และคากว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีความใกล้เคียงกับหนาป่าด้วย ว่าเป็นสุนัขชนิดหนึ่งเป็นต้นกำหเนิดของชิสุ แต่ว่าไม่มีการยืนยันโดยละเอียด ชิสุเป็นสายพันธุ์หนึ่งที่เป็นสายพันธุ์สุนัขโบราณ เหมือนกับพันธุ์ ชิวาวา และปลั๊ก มีการยืนยันว่าชิสุเป็นสุนัขที่อยู่กับชาวจีนมาเป็นระยะยาวนาน เริ่มด้วยการนำเข้าสุนัขจากทิเทตคาดว่าเป็นสายพันธุ์หลักของชิสุ เรียกว่าเป็นสุนัขสิงโต และมีความเกี่ยวข้องกับทางพระพุธทศาสนา เป็นสุนัขที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็กคล้ายสิงโตมาก จึงมีชื่อว่า “ชิสุ” เป็นคำที่มาจากภาษาจีน แปลกว่า “สุนัขสิงโต” นั้นเอง
มีหลักฐานการค้นพบในช่วงราชวงศ์ถัง ในปี 618 – 907 มีภาพวาดและศิลปะ สุนัขชิสุปรากฏอยู่ ซึ่งมีการผสมพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์เกิดขึ้นในช่วงนั้นได้มีการมอบสุนัขพันธ์ต่างๆเข้ามาจากต่างประเทศ จึงจากสุนัขพันธุ์สิงโต เลยมาเป็นสุนัขชิสุ ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิง ปี 1363 – 1644 สุนัขชิสุได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงนั้น เป็นสัตว์เลี้ยงที่ชาวจีนนืยมเลี้ยง เพราะว่าได้รับการสนับสนุน เจ้าจอมมารดาหญิง Cixi และมีการเก็บสุนัขพันธุ์อื่นๆ มาเลี้ยง อย่างเช่นพันธุ์ ปั๊ก ปักกิ่ง อีกด้วย ซึ่งเป็นสุนัขที่มีชื่อเสียงทั้งหมด ในช่วงนั้นเองพระองค์ได้ทรงเลี้ยงสุนัขพันธุ์ต่างๆเหล่านี้ไว้มาก แต่เมื่อครั้งถูกปฏิวัติในปี 1908 จากพรรคคอมมินนิสต์ สุนัขทั้งหมดเกือบจะสูญพันธุ์ทั้งหมด ไม่เพียงชิสุเท่านั้น พันธุ์อื่นๆก็ได้หายไปด้วย โชคดีที่สุนัขชิสุนั้นไม่ได้อยู่แต่ในประเทศจีนซึ่งก่อนนั้นได้นำไปต่างประเทศอื่นๆแล้ว จึงมาชิสุที่อยู่ต่างประเทศเท่านั้น โดยเฉพาะประเทศอังกฤษและนอร์เวย์ที่กำลังเป็นที่นิยมเลี้ยง
หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองได้สิ้นสุดลงทหานสหรัฐได้นำชิสุจากประเทศพันธมิตรต่างๆ กลับไปที่อเมริกาด้วยและเป็นที่ยอรับจนได้ก่อตั้งชมรมสุนัขชิสุขึ้นในปี 1969 และได้ขึ้นทะเบียน มีการเริมขยายพันธุ์มากขึ้น ด้วยรูปร่างและลักษณะที่น่ารักจึงได้รับความนิยมเลี้ยงจนถึงปัจจุบัน