Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
Singapore GP 2013 ในความทรงจำ...โดยคุณ Puakpiak ตอนที่ 2

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน

หลังจากเมื่อคืนไปเดิน Pit Walk กลับมาถึงโรงแรมก็เที่ยงคืน ไหนจะนั่งเมาท์กับแฟน ไหนจะอัพรูปลงเฟซบุ๊ กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปตีสองกว่าๆ วันนี้เลยตื่นมาเกือบห้าโมงเช้า ตามโปรแกรมวันนี้มีหน้าที่ต้องไปจัดหาGarrett Popcorn ให้พี่สาวซึ่งสถานที่ที่ใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็นที่ City Link ซึ่งอยู่ที่ห้าง City Hall เมื่ออาบน้ำอาบท่าเตรียมอุปกรณ์สำหรับการเดินทางในวันนี้เรียบร้อยเราก็ลาจากโรงแรมDickson เพื่อที่จะไปเช็คอินต่อที่โรงแรม81 Bencoolen ซึ่งอยู่ถนนเดียวกันห่างไป2 แยกไฟแดงระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรทางผ่านของเราก็ผ่านร้านที่เราไปนั่งโซ้ยบะหมี่เมื่อวานด้วย วันนี้เลยลองชุดอาหารเช้าซะหน่อย ราคาไม่ถูกไม่แพง 5 SGD ชาที่นี่อร่อยอีกแล้ว รสชาติกลมกล่อม ไข่ลวกที่นี่เขาใส่เป็นจานมาให้ (บ้านเราใส่เป็นแก้ว) กับขนมปังอีก 2 แผ่นพอรองท้องอยู่ ส่วนแฟนผมเธอติดใจบะหมี่เลยจัดสั่งลามา 1 ชามบวกของผมอีกชาม 5555 หลังจากอิ่มกันแล้วก็ ”เดิน” มุ่งสู่โรงแรม 81 Bencoolen ระหว่างทางสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นคือโทรศัพท์ที่ใส่ซิมสิงคโปร์ของผมใช้ไม่ได้ทั้งการโทรและการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าเงินในซิมมันหมดได้อย่างไรเพราะเท่าที่ศึกษามาเขาบอกว่าราคา 15 SGD นี่อยู่ในสิงคโปร์ 3 วันได้สบายๆ และเมื่อคืนเราก็โทรกลับบ้านแค่ 2 นาทีเท่านั้นเลยมานั่งลองนึกๆ ดู อืม...รู้สึกว่าเมื่อเปิดใช้เราต้องโทรไปสมัครแพ็กเกจก่อนหรืออะไรประมาณนี้ โดยให้กดเลข (อะไรจำไม่ได้) แล้วกดเครื่องหมายสี่เหลี่ยมบวกโทรออกทางปลายทางซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติก็ให้ใส่รหัส pin อ้าว...นึกได้เห็นอยู่ที่ซองใส่ซิมซึ่งทิ้งไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนจบข่าว! 15 SGD หมดความหมายภายในวันเดียวแล้วมือถือก็กลายเป็นสากกะเบือที่ถ่ายรูปได้ในบัดดลยังไงใครจะใช้ซิมที่สิงคโปร์ศึกษารายละเอียดการใช้งานก่อนไปให้ดีๆ นะครับ ผมศึกษามาไม่ละเอียดเอง







ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีผมก็เดินมาถึงโรงแรม 81 Bencoolen แล้วมาติดต่อที่ล๊อบบี้ แจ้งชื่อพร้อมกับยื่นใบยืนยันการจองของ booking.com ก็ได้กุญแจห้องพร้อมกับ Password ของ Wifi มาสามใบ ห้องที่ผมพักคือห้อง 912 อยู่ชั้น 9 ฝั่งด้านหลังโรงแรม มองเห็นอีกถนนหนึ่งทางด้านหลัง ซึ่งเมื่อเทียบกับโรงแรม Dickson ที่นอนเมื่อคืนวานต้องบอกว่าคนละเรื่องเลย ห้องที่นี่กว้างกว่ามาก เป็นห้องเตียงคู่และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยเราก็จัดสิ่งของที่จะต้องใช้ในวันนี้แล้วออกเดินทางไป City Hall เพื่อจะไปซื้อ Popcorn ก่อนจะเดินทางไปสนาม การเดินทางวันนี้ผมเดินจากโรงแรมไป City Hall ระยะทางประมาณกิโลกว่าๆ ก็มาถึงห้าง City Hall ก็เจอบู๊ทขายของที่ระลึกก่อนเลยตรงทางเข้า Gate 4 ซึ่งอยู่ติดกับห้าง เรามาถึงที่นี่เวลาประมาณบ่ายสองโมงก็เดินหาเป้าหมายคือร้าน Garrett Popcorn ก็หาไม่ยากนะครับ เดินเข้ามาใน City Link แป๊บเดียวก็เจอ หลังจากได้ของที่ต้องการแล้วทีนี้เราก็จะเดินทางไปสนามกันล่ะ วันนี้เป็นวันศุกร์ โปรแกรมของ Formula 1 มีสองช่วงคือ Free Practice 1 และ Free Practice 2 บัตรของเราวันนี้อยู่ที่ Turn 1 Grandstand สามารถเข้าได้ 2 Gate คือ 1 กับ 2 และนอกจาก F1 แล้วยังมี Porsche Carrera Cup และ GP2 รอบฝึกซ้อมและควอลิฟายด้วย ผมเดินจาก City Link มาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Esplanade ไปลงที่สถานี Promenade (ห่างกันสถานีเดียว) เพื่อไปเข้าสนามที่ Gate 2 ออกจากสถานีรถไฟเดินมาเพียง 400 เมตรก็ถึง Gate 2












ต้องบอกว่าออกจากสถานี Promenade ออกมาเพียงนิดเดียวก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถ GP2 ซึ่งกำลังทำการวิ่งฝึกซ้อมกันอยู่ เสียงนั้นทำให้รู้สึกว่าสียงนี้แหละที่เราอยากได้ยิน ”สดๆ” ที่นี่ มันทำให้สารบางอย่างในร่างกายมันพลุ่งพล่านขึ้นมาในทันที ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปทันที ผ่านขั้นตอนการตรวจกระเป๋าและสแกนบาร์โค้ดที่บัตรมาเรียบร้อยผมก็เดินเข้ามาสู่โซน 2 บริเวณใกล้ๆ โค้ง 5 ซึ่งขณะนั้น GP2 กำลังซ้อมกันอย่างคึกคัก ความรู้สึกตอนนั้นของผมเหมือนขึ้นสวรรค์ น้ำตาจะไหลที่ได้มาได้ยินได้สัมผัสกับการแข่งขันระดับโลกที่ตัวเองใฝ่ฝันมานานและวันนี้ผมก็ได้มายืนในจุดนี้เสียที เสียงของเครื่องยนต์ GP2 นั้นดังมากๆ เมื่อเทียบกับรถแข่งที่ผมเคยไปดูที่สนามพีระเซอร์กิตมันคนละเรื่องกันเลย เสียงรถแข่งที่มาจาก”รถบ้าน” มาทำเป็นรถแข่งผมว่ามันเสียงดังเฉยๆ แต่เสียงเครื่องยนต์ GP2 นุ่มนวลและดังแบบมีพลัง จริงๆ ใจคิดแล้ว F1 ล่ะมันจะขนาดไหน คิดไปก็เดินไปจุดหมายคือ Turn 1 Grandstand ส่วนแฟนผมเธอเอา Earplug ยัดเข้าหูไปเรียบร้อยแล้ว ^^

คลิปบรรยากาศ

www.youtube.com/watch?v=Pvm4vXTjGfo&feature=c4-overview&list=UUt39YoN8vvpQHIe9Qh8NDoA

www.youtube.com/watch?v=9atQb6LyWls&feature=c4-overview&list=UUt39YoN8vvpQHIe9Qh8NDoA











เดินมาเรื่อยๆ จนถึง Turn 1 Grandstand (ไกลพอควรเลย) ก็ขึ้นมาประจำที่นั่งของตัวเองโดยอยู่ที่ บล็อก A3 แถวที่ 6 ที่นั่ง 16 และ 17 ซึ่งตอนนี้ในรุ่น GP2 กำลังใกล้จบรอบฝึกซ้อมแล้ว หลังจากนี้เวลา 18:00 น. ก็จะถึงรุ่น”ของจริง”เสียที ระหว่างนั่งรอก็สำรวจบรรยากาศรอบๆ วันนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะเป็นวันซ้อมวันแรกคนจึงค่อนข้างบางตา ตำแหน่งที่ผมนั่งอยู่ใกล้จอ Big Screen พอสมควรทำให้เห็นจอดูถ่ายทอดสดได้ชัดเจนดี หลังจากนั่งรออยู่สักพักก็ได้เวลา 18:00 น. ซึ่งเป็นรอบ FP1 ไฟแดงที่พิตเลนเปลี่ยนเป็นสีเขียวและรถคันแรกที่ออกมาก็เป็นรถของทีม Caterham ทั้งสองคัน เสียงเครื่องยนต์ F1 ที่รอคอย ณ ตอนนี้มันส่งเสียงคำรามออกมาแล้ว เสียงมันดังมากดังแบบที่ไม่เคยได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่ไหนดังขนาดนี้มาก่อน

หลังจากนั้นรถแข่งก็ออกกันมาเรื่อยๆ แต่ยังวิ่งกันไม่เต็มนักเพราะยังเป็นรอบฝึกซ้อม หลายๆทีมก็ยังใช้ Aero Paint ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนและในรอบนี้มีรถหลุดโค้งแรกออกไปหลายคันเป็นระยะๆ สร้างความสนุกสนามให้แฟนผมเป็นอย่างมาก (เธอชอบมากเวลาชนกัน^^) เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บเดียวก็ 19:30 น. จบ FP1 ซะแล้ว หลังจากนั้นเวลา 20:00 น. ก็เป็นการ ควอลิฟายของรุ่น GP2 ต่อเนื่องกันเลย ซึ่งหลังจากที่ได้สัมผัสกับเสียงของเครื่องยนต์ F1 กันมาเมื่อซักครู่เป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆ แล้ว Earplug ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปสำหรับรถ GP2 พอจบการควอลิฟายในรุ่น GP2 ผมก็เดินลงไปสำรวจบริเวณโซน 1 เพื่อจะหาจุดชม FP2 ในเวลา 21:30 น. ผมเดินย้อนกลับมาทางเก่าที่เข้ามาเมื่อช่วงเย็นบริเวณ Gate 2 เดินไปจนเกือบทั่วโซน 1 ซึ่งบัตรผมสามารถเดินไปได้ตลอดโซนและสามารถหยุดดูบริเวณไหนก็ได้ในโซนนั้น สุดท้ายผมตัดสินใจหยุดดูที่บริเวณโค้ง 5 ด้วยเหตุผลว่าสามารถดูรถได้ใกล้ๆ เพราะรถวิ่งไม่เร็วมากและเป็นช่วงที่รถแข่งเปิด DRS หลังผ่านโค้งนี้ด้วย

เมื่อถึงเวลา 21:30 น. ก็ได้เวลา FP2 รถแข่งแต่ละทีมทยอยกันออกตั้งแต่นาทีแรกๆ วิ่งกันค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียวในรอบนี้ ส่วนใหญ่ใส่ยางซูเปอร์ซอฟต์ และในจุดที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้มีสิ่งหนึ่งที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนหลังจากเวลาในรอบฝึกซ้อมผ่านไปประมาณ 1 ชม.นั่นคือเรื่องของฝีมือของนักแข่งแต่ละคน ต้องยอมรับว่า Sebastian Vettel “เนียนมาก” เวลาพารถตัวเองผ่านโค้งนี้แฟนผมยังรับรู้ได้ว่า Seb วิ่งได้เร็วกว่าคนอื่นๆ ผมไม่รู้ว่าผล FP2 วันนั้นเป็นอย่างไร เพราะเมื่อจบ FP2 ผมก็รีบจูงมือแฟนกลับโรงแรมทันทีเพราะกลัวคนที่สถานีรถไฟจะเยอะบวกกับชักหิวด้วย

คลิปบรรยากาศ

www.youtube.com/watch?v=Pvm4vXTjGfo

www.youtube.com/watch?v=9atQb6LyWls









วันเสาร์ที่ 21 กันยายน


วันนี้ตามโปรแกรมในส่วนของ F1 ก็จะมี Free Practice 3 เวลา 18:00 น. และรอบ Qualify เวลา 21:00 น. ส่วน GP2 มีการแข่งขัน Race 1 เวลา 15:00 น. (ขออภัยครับจำเวลาที่แน่นอนไม่ได้) โดยวันนี้บัตรของผมคือ Padang Grandstand อยู่โซน 4 ซึ่งต้องไปเข้าที่ Gate 3 และ 4 เท่านั้น เราออกเดินทางจากโรงแรม 81 เวลาประมาณบ่ายโมงครึ่งกว่าๆ โดยการเดินไปที่ City Mall เพื่อเข้าสนามที่ Gate 3 และทำการตุนอาหารสำหรับเข้าไปกินในสนาม โดยมื้อแรกของวันก็ปาเข้าไปบ่ายสองโมงกว่าๆ แล้ว วันนี้เราได้เดินลงไปบริเวณชั้นใต้ดินของ City Mall (อีกแล้ว ทริปนี้ฝากท้องไว้กับที่นี่ที่เดียวเลย)ซึ่งเป็นแหล่งของร้านอาหารหลายๆ ร้านแต่ไม่ใช่ food center นะครับ มีทุกอย่างทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น อินเดีย หลังจากเดินวนอยู่สองสามรอบก็มาหยุดที่ร้านขายอาหารอินเดีย โดยผมกับแฟนสั่งข้าวคนละจาน ขนาดจานนั้นใหญ่พอดู กินคนละจานอิ่มอยู่ได้ยันดึก (ต้องขออภัยจำชื่อเมนูที่ตัวเองทานกับราคาไม่ได้) หลังจากนั้นก็เดินเล่นใน City Mall กันอยู่พักใหญ่และแฟนเกิดอยากกิน Garrett Popcorn ขึ้นมาก็เลยต้องไปจัดให้เธออีก 1 ถุง พอถึงเวลาจ่ายเงิน ผมกลับลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่โรงแรม ไม่ได้พกมาก็เลยต้องวิ่งกลับไปโรงแรม (เอาเงินแฟนจ่ายค่าป๊อปคอร์น) และก็เลยเอาของไปเก็บเลยทีเดียวจะได้ไม่พะรุงพะรัง วิ่งไปวิ่งมาเล่นเอาหอบเหมือนกันเพราะวิ่งไปกลับประมาณ 2 กิโล และตรงนี้เองทำให้พลาดการแข่งขัน GP2 ในเรซแรกไป กว่าเราจะเดินไปถึง Gate 3 ก็เป็นช่วงเปิดแชมเปญกันไปแล้ว เสียดายอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่เป็นไรเดินต่อไป

โปรแกรมต่อไปคือ Free Practice 3 ของ F1 ในเวลา 18:00 น. ซึ่งวันนี้ในช่วง Practice 3 เราจะไปชมบริเวณ View Point บริเวณถนน Esplanade Drive หลังโค้ง 13 เลย The Fullerton Hotel ซึ่งตรงนี้จะเป็นช่วงทางตรงยาวอีกช่วงหนึ่งของสนามแห่งนี้ จะได้อารมณ์คนละแบบกับเมื่อวานเลยเพราะเป็นช่วงทางตรงยาวที่รถแข่งต้องอัดเต็มๆ โดยจุดที่ผมไปยืนดูน่าจะเป็นช่วงประมาณเกียร์ 4-5 ความเร็วตรงนั้นน่าจะอยู่ราวๆ 250 กม./ชม. ขึ้นไปแน่นอน







หลังจากเดินผ่าน Gate 3 เข้ามาก็พบกับร้านขายของที่ระลึกอีกเช่นเคย มีทุก Gate ท่านที่ต้องการจะซื้อสินค้าเหล่านี้ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะหาไม่ได้เพราะมันจะมีดักท่านไว้ทุกประตูเลยครับ สินค้าก็จะแทบจะเหมือนๆ กันทุกที่แต่ก็มีเหมือนกันที่มีสินค้าแตกต่างออกไปจากเมื่อวานโดยเฉพาะลายเสื้อของทีม Red Bull ตัวหนึ่งที่เห็นแล้วชอบแต่ยังไม่ซื้อเพราะขี้เกียจแบกและคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยซื้อ แต่สุดท้ายก็ไม่เจอเสื้อลายนี้อีกเลย เพราะฉะนั้นถ้าท่านโดนใจสินค้าตัวไหนให้ท่านซื้อไปเลยเพราะถ้าหวังข้างหน้าเหมือนผมท่านจะอดเหมือนผมแล้วจะเสียดายภายหลัง น้ำดื่มวันนี้ไม่ได้เตรียมมาต้องมาซื้อข้างในขวดละ 2 SGD ระหว่างทางที่เดินมาที่บู๊ทขายของที่ระลึกแห่งหนึ่งผมก็ได้เห็นคนมุงกันเต็มไปหมดส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันอื้ออึง ผมก็คิดในใจว่าในสนามแข่งรถคนจะมุงอะไรไปไม่ได้นอกจากมุงนักแข่ง ว่าแล้วก็รีบเดินเข้าไปมุงกับเขาบ้าง ผมพยายามแทรกตัวเข้าไปข้างในจนได้เห็นชายคนหนึ่ง (ตามรูปเดี่ยวข้างล่างนี้) ผมก็งงว่าไอ้หมอนี่มันคือใคร ทำไมหน้าตามันไม่คุ้น หันไปถามแหม่มข้างๆ ที่กำลังกรี๊ดแบบเอาเป็นเอาตายว่า “Who is he?”เธอหันมาตอบ “Dynamo.” ด้วยน้ำเสียงประมาณว่าไดนาโมไงไม่รู้จักเหรอเชยสิ้นดี ผมเลยร้องอ๋อ รู้อยู่ว่ามีไดนาโมอะไรนี่ล่ะขึ้นเวทีแสดงแต่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรและดังขนาดนี้เลยหรือ พอรู้อย่างนั้นผมจึงรีบแทรกตัวออกมาจากฝรั่งมุงแบบผิดหวังเพราะนึกว่าจะได้เจอนักแข่ง F1 ไดนาโมอะไรผมไม่สนใจหรอก


















หลังจากที่เดินเก้ๆ กังๆ อยู่สักพักเพราะไม่รู้จะไปถนน Esplanade Drive ได้อย่างไรก็ไปเจอกับสาวเจ้าถิ่นคนหนึ่ง (ในรูปสวมแว่นใส่ชุดดำ) เลยให้เธอช่วยบอกทาง เธอบอกว่ากำลังจะเดินไปทางนั้นพอดีเลยเดินไปด้วยกันโดยคุยกันกับแฟนผมไปตลอดทางเพราะผมพูดอังกฤษไม่เก่ง ดูเธออัธยาศัยดีมาก น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่อาสา (คิดเอง) เธอพามาจนถึงที่หมาย โอ้โห...วิวตรงนี้สวยจริงๆ ครับ มองเห็นอ่าวมารีน่าโดยรอบและอากาศก็ดีมาก ผมเดินมาถึงบริเวณนี้ประมาณ 17:30 น. ซึ่งอีกครึ่งชั่วโมง F1 ก็จะเริ่ม FP3 กันในเวลา 18:00 น. เราต้องรีบไปจับจองที่กันแล้วคนก็เริ่มทยอยกันมามากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงเวลาหกโมงเย็น เสียงรถ F1 ก็ดังขึ้นอีกครั้ง และเมื่อรถคันแรกซึ่งเป็นรถทีม Caterham อีกแล้ววิ่งผ่าน (วิ่งเยอะสุดเลยเจ้าเนี๊ยะ!) เสียงเครื่องยนต์แบบเหยียบเต็มๆ นี่มันช่างไพเราะบวกสะใจจริงๆ ตั้งใจว่าจะไม่ใส่ Earplug ตลอดหนึ่งชั่วโมงเพื่อซึมซับเสียงเครื่องยนต์ให้เต็มที่ แต่พอผ่านไปครึ่งชั่วโมงรถแข่งออกมากันเยอะและมาติดๆ กันสุดท้ายก็ต้องอุดหูอีกครั้ง มิฉะนั้นหลังจบ FP3 หูผมอาจจะดับไปได้ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วแป๊บเดียว 1 ชั่วโมงจบแล้ว FP3 อีก 2 ชั่วโมงคือเวลา 21:00 น. ก็จะควอลิฟายกันแล้วครับ

คลิปบรรยากาศ

www.youtube.com/watch?v=lyt-T0T8_FI


ออกจากถนน Esplanade Drive ก็เดินมุ่งไปที่ Padang Grandstand ซึ่งระหว่างเบรกเวลา 19:30 น. ก็จะมีการ ควอลิฟายของรถ Porsche Carrera Cup ระหว่างทางที่ผมเดินไปที่ Padang Grandstand ก็เต็มไปด้วยร้านขายอาหารเต็มไปหมด ผ่าน Esplanade Stage ซึ่งเป็นเวทีเล็กๆ มีดนตรีกำลังแสดงอยู่ คนเยอะมากและเลยไปอีกหน่อยก็จะเจอลานสนามหญ้ากว้างๆ และมีเวทีใหญ่ที่เรียกว่า Padang Stage ซึ่งเป็นเวทีที่วง The Killer จะขึ้นแสดงในคืนนี้ด้วย บริเวณนี้ถ้าให้อธิบายให้เห็นภาพคือสถานที่มันจะคล้ายๆ กับสนามหลวงบ้านเรานะครับ คือเป็นสนามหญ้ากว้างๆ แต่ไม่เท่าสนามหลวง เล็กกว่ากันประมาณเท่าหนึ่ง รอบๆสนามก็จะมีร้านขายอาหารอยู่เต็มไปหมด มีอาหารทุกสัญชาติและก็มีเวทีใหญ่อยู่อีกด้านหนึ่งและตรงนี้เองก็เป็นที่ตั้งของ Padang Grandstand ที่ผมจะมาชมการควอลิฟายที่นี่ครับ








ที่นั่งของผมที่ Padang Grandstand วันนี้ผมอยู่ที่บล็อก B3 แถวที่ 8 ที่นั่ง 21 และ 22 โชคดีอีกครั้งที่โทรทัศน์จอใหญ่อยู่ตรงหน้าเราพอดี ตอนที่ผมขึ้นมานั่งที่ Grandstand กำลังเป็นช่วงที่ Porsche Carrera Cup กำลังทำการควอลิฟายอยู่ ซึ่งหลังจากที่ผมได้สัมผัสกับเสียงเครื่องยนต์ของ GP2 และ F1 มาแล้วเสียงเครื่องยนต์ของ Porsche นั้นกลายเป็นเสียงรถบ้านไปในบัดดล

เมื่อถึงเวลา 21:00 น. คนก็เริ่มเข้ามาจนเกือบเต็ม การแสดงทุกอย่างที่ลาน Padang Stage ยุติทั้งหมดเพราะไฮไลท์ของวันนี้กำลังจะเริ่มก็คือการควอลิฟายนั่นเอง รถคันแรกที่ออกมาวิ่งก็เป็นรถสีเขียวอีกเช่นเคยและตามกันมาอย่างคึกคัก ทุกคันใส่กันเต็มที่ Padang Grandstand ที่ผมนั่งนี้เสียงเครื่องยนต์ดังมากๆ เนื่องจากจุดที่เรานั่งอยู่นั้นฝั่งตรงข้ามเป็น Supreme Court เป็นกำแพงเสียงอย่างดี เสียงเครื่องยนต์เลยกึกก้องไปหมด ถามว่าเร้าใจไหม เร้าใจมากครับแต่ต้องใส่ Earplug ไม่อย่างนั้นหูแตกแน่นอน

คลิปบรรยากาศ

www.youtube.com/watch?v=fRaiKuUtai8









จบจากการควอลิฟายเวลา 22:00 น. ผมเดินทางกลับโรงแรมทันทีโดยมุ่งหน้าออกไปทาง Gate 3 ซึ่งขากลับนี้ผมต้องฝ่าออกไปกับคนที่สวนเข้ามาเนื่องจากผู้ที่อยู่ในโซนนั้นก็ทยอยกันเข้ามาเพื่อที่จะเข้ามาชมคอนเสิร์ตของวง The Killer ซึ่งจะขึ้นเวทีแสดงประมาณ 23:00 น. กว่าจะออกไปถึง Gate 3 ได้ก็ทุลักทุเลพอควร หลังจากออกมาได้เราก็เดินกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อนเก็บแรงไว้รอชม Race Day ในวันรุ่งขึ้นครับ




Create Date : 08 ธันวาคม 2556
Last Update : 8 ธันวาคม 2556 23:27:42 น. 3 comments
Counter : 1837 Pageviews.

 
ช่วงนี้การอัพบล็อกมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง font ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ระบบของ bloggang หรือคอมของ จขบ. เอง ทำให้ตัวอักษรไม่สม่ำเสมอ แก้ก็ไม่ค่อยได้ แก้แล้วเซฟไม่ติดอีกต่างหาก ต้องขออภัยด้วยนะคะ


โดย: finishline วันที่: 8 ธันวาคม 2556 เวลา:23:53:41 น.  

 
ขอบคุณผู้รีวิวครับ สิงคโปร์เกาะเล็กนิดเดียว ทรัพยากรอะไรก็ไม่มี


โดย: Peter Redbull IP: 122.155.64.31 วันที่: 9 ธันวาคม 2556 เวลา:9:23:34 น.  

 
มีความสมัคคีครับที่บางประเทศไม่มี ก็คงจะไม่ได้จัด เอฟวัน


โดย: rc212 IP: 223.206.209.118 วันที่: 10 ธันวาคม 2556 เวลา:21:24:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.