การเดินทางไปชมการแข่งขันรถสูตร 1 ในสนามเซี่ยงไฮ้คงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เพราะน่าจะมีหลายๆ คนเคยเดินทางไปชมการแข่งขันที่นี่มาแล้ว แต่การเขียนรีวิวนี้เกิดจากก่อนเดินทางไปผมได้พยายามหาอ่านรีวิวการแข่งขันที่เซี่ยงไฮ้จากบล็อกนี้แล้วพบว่ายังไม่มีใครเขียนเอาไว้ จึงตั้งใจว่าจะกลับมาเขียนรีวิวให้เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในครั้งนี้
ทริปนี้เป็นความบังเอิญเหมือนทุกๆ ทริป เหมือนผมมีชีวิตที่จะต้องเดินทาง ผมจึงมีเวลาในการเตรียมตัวไม่มาก เริ่มต้นจากการทำวีซ่า ผมส่งหนังสือเดินทางไปที่เอเยนต์ที่สีลมอย่างเร่งด่วน โดยใช้บริการจากบ.จิ้งอี้ (www.ja99tour.com) ระหว่างที่รอวีซ่า ผมศึกษาทำการบ้านเรื่องการเดินทางทริปนี้ไปด้วย ผมเลือกเดินทางด้วยสายการบิน Spring Airlines (//www.china-sss.com/en) ที่เป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดของจีน ราคาตั๋วไปกลับประมาณ 10,000 บาท สำหรับตั๋วเข้าชมการแข่งขัน ผมเลือกซื้อจากเว็บไซต์ //www.f1-shanghai.com/e/ ซึ่งมีราคาใกล้เคียงกับเว็บอื่น
เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง สายการบินนี้ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลาเดียวคือ 18.10 น. ไปถึงเซี่ยงไฮ้ 23.35 น. ตอนที่เข้าแถวเช็กอินจะเห็นว่ามีผู้โดยสารชาวจีนเต็มไปหมด บางคนมีปัญหาเรื่องกระเป๋าเนื่องจากสายการบินให้พิกัดน้ำหนักแค่ 15 กก. รวมกระเป๋าถือขึ้นเครื่องด้วย จึงเกิดความวุ่นวายหน้าเคาน์เตอร์เล็กน้อย ส่วนผมอ่านข้อกำหนดเรื่องนี้มาแล้ว ผ่านได้สบาย
ประตูทางออกขึ้นเครื่อง
เครื่องบินที่พาเราไป
ที่นั่งบนเครื่องบิน
แอร์โฮสเตสกำลังให้บริการ
ที่นั่งภายในเครื่องบินเป็นแบบ 3+3 มีทางเดินตรงกลาง ระยะระหว่างเบาะแคบเหมือนสายการบินต้นทุนต่ำทั่วไป ส่วนความสะอาดภายในถือว่าดี เที่ยวบินนี้มีอาหารและเครื่องดื่มจำหน่าย แต่ก็สามารถขอน้ำเปล่าจากพนักงานได้ถ้าเรามีขวดน้ำเตรียมไป บางอย่างที่เราต้องยอมรับคือตลอดการเดินทางจะได้ยินเสียงคนคุยกัน มีคนเดินไปมาสลับที่นั่งกันตลอดเวลา แทบจะทุกนาทีไม่มีช่วงไหนที่ทางเดินจะว่างเปล่า ผมเตรียมใจมาก่อนแล้วจึงมองเป็นเรื่องตลกไป ไม่ได้รำคาญอะไร
เนื่องจากตอนที่ไปถึงสนามบินผู่ตงของเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Pudong International Airport) เป็นเวลาดึกมาก รถไฟเข้าเมืองขบวนสุดท้ายจึงหมดไปนานแล้ว ผมได้ตัดสินใจนอนพักที่โรงแรมในสนามบินผู่ตง เมื่อมาถึงสนามบินและเข้าไปใช้ห้องน้ำ ขอบอกว่าห้องน้ำสวย ทันสมัย และสะอาดมาก ผมแปลกใจเหมือนกันในความสะอาด
ห้องน้ำในสนามบินผู่ตง
ที่พักคืนแรกที่อยู่ในสนามบินชื่อ Dazhong Airport Hotel อยู่ระหว่างเทอร์มินอล 1 กับ 2 เมื่อรับกระเป๋าออกมาแล้วจะพบป้ายบอกตลอด เดินหาง่ายมาก ในเรื่องราคาห้องพักจะแพงกว่าในเมืองเล็กน้อยเมื่อเทียบในระดับเดียวกัน มีร้านสะดวกซื้อเปิดตลอด 24 ชม. อยู่ในเทอร์มินอล 1 ด้วย
ป้ายโรงแรมที่พัก
แฟมิลี่มาร์ท
บริเวณล็อบบี้
ราคาห้องพัก
ทางเดินในโรงแรม
ห้องพัก
บรรยากาศนอกโรงแรม
เอาละครับ ต่อไปเราจะเดินทางเข้าตัวเมืองเซี่ยงไฮ้และไปสนามแข่งกัน...
Good Morning Q Day!เริ่มต้นด้วยวันควอลิฟาย ผมเดินทางไปยังสนาม ไปดูบรรยากาศ ดูที่นั่งตามโซนที่ระบุไว้ในตั๋ว ที่สำคัญจะได้ซื้อสินค้าที่ระลึกของทีมได้สบายเพราะคนยังไม่มาก การเดินทางในเซี่ยงไฮ้ต้องใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก (ดูรายละเอียดที่ //www.shmetro.com) ก่อนไปสนามผมต้องเอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมก่อนหลังจากพักที่สนามบินมาคืนหนึ่ง คืนต่อๆ ไปผมเลือกที่พักใกล้ถนนนานจิง
สำหรับการเดินทางมาจากสนามบิน เราสามารถนั่งรถไฟสายสีเขียว 2 ไปลงสถานีนานจิงตะวันออก (Nanjing E) ได้เลย สะดวกมาก แต่ผมอยากทดลองความเร็วของรถไฟฟ้าแม่เหล็ก (MAGLEV) จึงนั่งจากสนามบินไปลงที่สถานี Longyang แล้วต่อรถไฟสาย 2 อีกที ความเร็วสูงสุดของ MAGLEV ในวันนี้คือ 431 กม./ชม. นั่งไปก็จินตนาการไปเรื่อย ถ้าแฮมิลตันขับ W05 อยู่ด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. คงได้แต่มองผมแซงตาปริบๆ!
MAGLEV AIRPORT STATION
ภายใน MAGLEV
ที่นั่งใน MAGLEV
ความเร็วบน MAGLEV
เนื่องจากการเดินทางในเซี่ยงไฮ้จะใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักอย่างที่บอกไปแล้ว ผมจึงเลือกใช้ Three-Day Pass ซึ่งซื้อได้ที่สถานีรถไฟ ทำให้เข้าออกสถานีได้สะดวกรวดเร็วกว่า โดยมีชนิดของตั๋วรถไฟฟ้าให้เลือกซื้อหลายแบบตามความต้องการ สำหรับการเดินทางไปสนามจะมีรถไฟขบวนสีแดงเข้มสาย 11 วิ่งไปถึงสถานี Shanghai International Circuit อยู่หน้าสนามแข่ง ไม่ว่าเราจะเดินทางจากตรงไหน จะต้องหาทางไปต่อสาย 11 ก็จะไปถึงสนามแข่งได้อย่างสะดวก
หลังจากที่ผมแวะฝากกระเป๋าที่โรงแรมบริเวณสถานี Nanjing (E) ผมก็ขึ้นรถไฟสาย 2 ต่อไปยังสถานี Jiangsu Road เพื่อจะขึ้นรถไฟสาย 11 ใช้เวลาจาก Nanjing (E) ไปถึงสนามแข่งประมาณ 50 นาที ถ้าดูในแผนที่รถไฟสาย 11 ดูเหมือนวิ่งใกล้ แต่วิ่งจริงออกไปไกลถึงเขตชานเมือง
จากสถานีรถไฟเดินไปอีกประมาณ 2 นาทีก็จะถึงประตูทางเข้า มีจำนวนผู้ชมมากกว่าที่คิด เมื่อผ่านการตรวจกระเป๋าและตรวจตั๋วเข้าชมแล้วจะพบกับ Grandstand ซึ่งสูงมากประมาณตึก 5 ชั้นได้ และมีร้านสินค้าทีมแข่ง สนามนี้สามารถนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาได้ไม่จำกัด ผู้ชมบางคนถึงกับแบกลังเบียร์เข้ามา บางคนถือพิซซ่าถาดใหญ่มา ดูสนุกสนานดี
บัตรรถไฟฟ้า
ภายในรถไฟฟ้า
ด้านหน้าประตู Grandstand
บัตรที่นั่งของผมอยู่โซน H ดูจากแผนที่สนามเห็นว่าใกล้นิดเดียว แต่พอเดินจริงๆ เกือบ 15 นาที แต่เพราะอากาศเย็นเนื่องจากมีฝนตกตลอด ผมจึงเดินดูผู้ชม ดูร้านอาหารไปเรื่อยๆ เมื่อถึงโซน H ก็มีการตรวจบัตรอีกครั้งแล้วจึงเดินขึ้นไปถึงที่นั่งซึ่งของผมอยู่สูงประมาณตึก 3 ชั้น โดยบรรยากาศในโซน H สนุกสนานพอสมควร ในวันควอลิฟายมีผู้ชมมาประมาณครึ่งหนึ่ง มีจอภาพให้ดู ภาพเหตุการณ์และผลอันดับสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเพราะจอภาพใหญ่และคมชัด ส่วนโซน K บรรยากาศน่าจะสนุกที่สุดในสนามนี้ เพราะว่ามีบรรดาแฟนๆ มารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก นั่งรวมตัวเป็นส่วนๆ มีอุปกรณ์เชียร์มาครบ ทั้งธงแขวน ธงโบก ดูคึกคักมาก ผมสงสัยมากว่าทำไมต้องรวมตัวกันที่โซน K นี้
ดูรอบควอลิฟายจบแล้ว ผมเดินกลับมาที่ร้านขายสินค้าของทีม มาสำรวจดูของที่ผมชอบและตั้งใจจะกวาดกลับให้ได้มากๆ แต่เมื่อเห็นป้ายราคาแล้วพบว่าราคาสูงมาก สูงกว่าที่เซปังและสูงกว่าในเว็บไซต์มาก จึงไม่ได้ซื้ออะไร มีแต่สินค้าของสนามที่สวยและไม่แพง ระหว่างนี้ฝนตกตลอด ผมจึงเดินทางกลับมาเที่ยวที่ถนนนานจิง
โซน H
โซน K
ร้านขายสินค้าที่ระลึก
Good Morning Race Day!วันนี้อากาศดี เย็นสบาย ไม่มีฝน ผมเดินทางออกจากที่พักตั้งแต่เช้าเพราะกลัวว่าแฟน F1 จะมีมากจนเดินทางลำบาก ผมเดินทางโดยรถไฟสาย 2 ไปต่อสาย 11 เพื่อไปยังสนามเช่นเคย โดยตลอดวันในเมืองเซี่ยงไฮ้จะพบแฟนๆ ใส่เสื้อและหมวกของทีมตลอด ยิ่งเมื่อขึ้นรถไฟสาย 11 ในขบวนรถแน่นไปด้วยผู้ชมที่เดินทางไปสนาม ไม่ต้องกลัวหลง เราเดินทางกลุ่มคนเหล่านี้ไปได้เลย สุดทางที่สนามแข่งแน่นอน
บรรยากาศหน้าสนามมีบู๊ทแสดงอุปกรณ์จากสำนักแต่งมากมาย จากนั้นก็ผ่านการตรวจกระเป๋าและตรวจตั๋วเข้าชม ใช้เวลาไม่นานก็ผ่านเข้ามาสู๋โซน Grandstand ซึ่งวันนี้แตกต่างจากเมื่อวาน แฟนคลับของแต่ละทีมมากันคึกคักมากขึ้น มีการรวมกันมาเป็นกลุ่ม มีแฟนๆ คอยโบกธง มีผู้คนเลือกดูสินค้าในร้านค้าทีมและร้านของสนามแน่นทีเดียว
Grass Stand
โซน H
โซน K
บรรยากาศในสนาม
สีสันกองเชียร์
สำหรับผลการแข่งขันเป็นไปตามคาด เครื่องยนต์เมอร์เซเดสไฮบริดยังคงแสดงสมรรถนะความแรงแบบไร้คู่แข่ง หลังจบการแข่งขันผมเดินทางกลับโดยรถไฟสาย 11 เหมือนเดิม ผู้คนมากแต่ไม่ได้ล่าช้าเพราะมีระบบการจัดการขนส่งที่ดี จึงเดินทางกลับถึงที่พักได้ในเวลา 1 ชม.
สุดท้ายนี้ผมขอสรุปการเดินทางมาชมการแข่งขันฟอร์มูล่าวันถึงสนามเซี่ยงไฮ้ดังนี้ครับ
- การเดินทางในเซี่ยงไฮ้สะดวกสบาย ราคาไม่แพง
- การเดินทางไปสนามสะดวก มีสถานีรถไฟฟ้าลงหน้าสนาม
- ควรเลือกที่พักใกล้สถานีรถไฟฟ้า
- ราคาที่พักในเซี่ยงไฮ้ถูกกว่าในกทม.
- ถนนนานจิง (นานจิงตงลู่) มีจุดคึกคักอยู่ที่ Nanjing East
- ที่นั่ง Grandstand โซน K เห็นการแซงได้ชัด บรรยากาศสนุก
- สามารถนำอาหารเข้าสนามได้ ส่วนอาหารในสนามราคาไม่แพงมาก
- มีคนสูบบุหรี่ทุกที่ บนที่นั่งชมมีคนสูบบุหรี่จำนวนมาก ควรเตรียมหน้ากากอนามัยไปด้วย
- ราคาสินค้าทีมแข่งแพงมาก
- สาวจีนชอบแต่งตัวเซ็กซี่มากๆ
หวังว่าข้อมูลที่นำมาฝากนี้จะมีประโยชน์กับคนที่จะเดินทางไปชมที่เซี่ยงไฮ้บ้าง ส่วนผมถ้ามีโอกาสก็จะกลับมารีวิวสนามแข่งในประเทศอื่นๆ ให้ได้อ่านกันอีกครับ