Bloggang.com : finishline : ตะลุยเซปัง 2011 ตอนที่ 1

ตะลุยเซปัง 2011 ตอนที่ 1

เรามาถึงมาเลเซียวันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน ด้วยแอร์เอเชียเหมือนเคยค่ะ พอล้อแตะรันเวย์ปุ๊บ ฝนก็ตกต้อนรับทันที แถมตกแบบมืดฟ้ามัวดินเสียด้วย ผู้โดยสารทุกคนจึงต้องนั่งรออยู่บนเครื่องเป็นนานเพราะอาคารผู้โดยสาร LCCT ที่สร้างมาเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำไม่ได้สะดวกสบายแบบสนามบินหลัก ลงไปก็ต้องเดินตามทางเดินที่เขาทำไว้ ซึ่งถึงแม้จะมีหลังคาคลุมตลอดแต่ทั้งฝนทั้งลมแรงขนาดนี้ไม่มีทางรอดไปได้หรอกค่ะ

ในที่สุดก็ไปถึงโรงแรม Tune ที่จองไว้ได้สำเร็จในเวลาประมาณ 6 โมงเย็นของที่โน่นซึ่งเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง เราใช้วิธีนั่งรถบริการของโรงแรมแม้ว่าที่จริงจะเดินเท้าได้ แต่ด้วยความที่กระเป๋าหนักค่ะ จึงขอประหยัดพลังงานดีกว่า เขาคิดค่าบริการเที่ยวละ 1 ริงกิตหรือ 10 บาทเท่านั้น โรงแรมนี้ใกล้กับ LCCT แค่เอื้อมและไกลจากสนามเซปังเพียง 10 นาทีค่ะ สะดวกดีสำหรับคนต้องการมาดูฟอร์มูล่าวันอย่างเดียว แต่ต้องขอบอกข้อเสียของโรงแรมไว้ก่อนว่าห้องจะแคบมาก ทุกห้องเป็นเตียงควีนไซส์และไม่มีที่เสริมเตียง ถ้าใครไป 2 คนแล้วนอนดิ้นขอแนะนำให้แยกห้องไปเลย และด้วยนโยบายที่เขาจะให้แต่ห้องมาเปล่าๆ ถ้าอยากได้อะไรเพิ่ม เช่น ผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม โทรทัศน์ หรือแม้แต่แอร์คอนดิชั่น ก็ต้อง "ซื้อ" ค่ะ

สำหรับเรื่องอาหารการกินก็หาไม่ยากค่ะ นอกจากร้านอาหารของโรงแรมซึ่งราคาอาจจะสูงกว่าธรรมดาแต่รับได้ ก็ยังมีร้านอาหารต่างๆ บริเวณอาคารสนามบินและมีศูนย์อาหารแบบข้าวแกงและอาหารตามสั่งด้วย

ภาพมุมสูงจากห้องพักชั้น 2

อาหารมื้อแรกของเรา หมี่กรอบราดหน้า

หลังจากผ่านคืนแรกไปแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นการซ้อมวันศุกร์ของฟอร์มูล่าวันค่ะ โดยจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกตอนเช้าคือเวลา 10 โมง เราจึงเช็คเอาท์ตอน 9 โมงเพราะอีก 3 คืนที่เหลือเราจะไปนอนคอนโดของเพื่อนในกัวลาลัมเปอร์ ถึงแม้ในข้อมูลของสนามจะบอกว่ารถ Skybus สีแดงของแอร์เอเชียมีบริการจาก LCCT ไปส่งที่สนามเซปังตั้งแต่วันศุกร์ แต่เอาเข้าจริง พนักงานบอกหน้าตาเฉยว่าวันนี้ยังไม่มี! เราจึงอาศัยรถบัส Airport Liner สีเขียวที่จะวิ่งผ่านแทนค่ะ ถึงตรงนี้ตลกดี คนขับลืมว่าเราจะลงหน้าสนาม พอขับเลยปุ๊บเรากดกริ่งปั๊บ ผลปรากฏว่าเบรกหัวทิ่มหัวตำ ยังดีนะคะที่แกพูดว่าแกลืม ไม่อย่างนั้นคนทั้งรถจะต้องประณามว่าทำไมเรากดกริ่งกระชั้นนัก

เราเดินย้อนกันพอประมาณ แถมต้องข้ามถนนใหญ่หลายเลนอีกต่างหาก พอไปถึงหน้าสนามก็จะมีรถบริการส่งถึงหน้าประตูสนามค่ะ

จุดบริการรถรับ-ส่งหน้าสนาม

หน้าตาของรถชัทเทิลบัส วิ่งเฉพาะรับ-ส่งผู้คนจากหน้าสนามถึงประตูทางเข้า

เป็นปกติค่ะที่วันศุกร์คนจะยังน้อยอยู่เมื่อเทียบกับทั้ง 3 วัน แต่สำหรับพวกเรา ไปทั้งทีก็ต้องให้คุ้ม จะได้อยู่กับนักแข่งและทีมที่รักนานๆ :) เมื่อจะเดินผ่านเข้ามา เราต้องผ่านการตรวจกระเป๋าเพราะเขาห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาจากภายนอกค่ะ นัยว่าต้องซื้ออาหารและน้ำดื่ม (แสนแพง) ของสนามเท่านั้น

ระหว่างทางที่เดินผ่านก่อนจะถึงอัฒจรรย์จะมีซุ้มต่างๆ ทั้งร้านขายของที่ระลึกของทีมฟอร์มูล่าวัน ของที่ระลึกของทางสนามเอง ซุ้มกิจกรรมของผู้สนับสนุนหลักอย่าง LG และกิจกรรมแก้เบื่อเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญเมื่อเข้ามาบริเวณงานแล้วก็จะรู้เองว่าที่นี่ "ใครใหญ่" เพราะมองไปทุกหนทุกแห่งจะมีแต่อะไรที่เป็นของปิโตรนาสและเมอร์เซเดส จีพีทั้งนั้น

บริเวณต้อนรับด้านหน้า

รถสีเงิน-เขียวของเมอร์เซเดส จีพีโชว์ตัวในซุ้ม

คนที่ไปครั้งที่ 3 อย่างเราก็พอคุ้นแล้วสำหรับเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ที่แต่ละทีมเริ่มเตรียมตัวสตาร์ทสำหรับการซ้อมช่วงแรก แต่สำหรับคนที่ไปด้วยกันซึ่งเป็นครั้งแรกของเขาก็ท่าทางตื่นเต้นดีค่ะ เสียงเครื่องเหมือนมีมนตร์สะกด ทำให้เราต้องเร่งเท้าไปให้ถึงที่นั่งเพราะนี่เป็นสัญญาณว่าสิ่งที่รอคอยกำลังจะเริ่มต้นขึ้น วันศุกร์ที่เซปังก็ยังเหมือนทุกปี คือสามารถเลือกนั่งได้ตามสบาย เราจึงพาชาวคณะขึ้นข้างบนก่อนค่ะ และแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งคือต้องใกล้ๆ พิตเร้ดบูลด้วย

รถใครควันคลุ้งแต่วัน?

เฟอร์รารี่เตรียมตัว

เร้ดบูลยังเงียบช่วงต้น

ลูอิส แฮมิลตัน ออกไปลองวิ่งแล้ว

จบการซ้อมช่วงแรกไปโดยที่ใจเราตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะเวลาของ "เซ็บน้อย" ไม่ดีเลย แถมพอระหว่างช่วงพักกลางวัน ทีมงานต้องรีบกินข้าวแล้วกลับมาจัดการกับรถด้วยการเจียอะไรบางอย่างอยู่นานเลยค่ะ ไฟแลบแปลบปลาบออกมาจากพิตของเวทเทลหลายนาที เราชักเริ่มใจเสียแล้วซิเพราะทีรถของมาร์ก เว็บเบอร์ ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้

เข้าสู่ช่วงบ่ายทุกคนก็กลับเข้าประจำการตามหน้าที่ของตน ในเรื่องผลการซ้อมทั้ง 2 ช่วงและอุบัติเหตุเล็กน้อยต่างๆ เราไม่ขอเล่าถึงแล้วกันนะคะเพราะทุกคนคงอ่านจากรายงานข่าวแล้ว เป็นอันว่าเราออกจากสนามในบ่ายวันนั้นด้วยความใจชื้นขึ้นมาพอควรหลังจากที่เวลาของรถเร้ดบูลดูดีขึ้นกว่าช่วงเช้า

จบวันศุกร์เราต้องรีบมุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อไปบ้านเพื่อน โดยต้องย้อนไปเอากระเป๋าที่โรงแรม Tune ก่อน ทุลักทุเลนิดหน่อยค่ะเพราะเป็นเย็นวันศุกร์ที่ฝนตกในเมืองหลวง อาการเหมือนบ้านเราเลยก็คือรถติดอย่างหนัก จากที่จะเจอเพื่อนได้ตอน 6 โมงครึ่งที่ KL Sentral ปรากฏว่ายังติดแหงกตั้งแต่ยังอยู่รอบนอก สุดท้ายเรากับเพื่อนจึงนัดเจอกันที่ Petaling Jaya หรือที่คนท้องถิ่นเรียกสั้นๆ ว่า PJ กว่าจะถึงที่พักก็ 2 ทุ่มไปแล้วค่ะ

วันเสาร์ที่เซปังจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ

Create Date : 12 เมษายน 2554

Last Update : 20 เมษายน 2554 9:08:19 น.

14 comments

Counter : 2987 Pageviews.

คุณ finishline ยังมีแรงเขียน blog ได้แจ่มขนาดนี้ นับถือจริง ๆ ค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ

โดย: JJ Hour IP: 202.28.9.78 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:13:14:00 น.

เยี่ยม ครับ.
มืออาชีพเลยนะเนี่ย.! ^_^

โดย: Lucky IP: 113.53.211.232 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:15:42:04 น.

โอ้ ขอบคุณจากใจจริง แด่คุณพี่finishline ที่นำภาพและบรรยากาศมาฝาก แบบให้ได้เปิดหูเปิดตาเปิดโสตประสาทกันแบบสุดๆๆ และจะคอยติดตามจ้า

โดย: creepangel IP: 125.24.80.188 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:16:19:42 น.

มีโอกาสได้ไปขอ ถ่ายรูปคู่ หรือขอ ลายเซ็น กับ น้อง vettel ไหมครับ ^^ ?

โดย: JUNE IP: 125.27.146.81 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:16:51:47 น.

ูู^
^
^
นึกว่าจะขอภาพเดี่ยว Alonso

โดย: hstgz IP: 202.122.130.31 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:16:57:40 น.

@คุณ JUNE
แค่จะชะเง้อก็ยากแล้วล่ะค่ะ มันยากขึ้นทุกปีเลย - -"

ตอนปี 2009 ถ่ายรูปคิมี่กับเซ็บน้อยสบายเลยเพราะเขายกเวทีสูง แถมตอนนั้นคนก็ยังไม่ค่อยเชียร์เจ้าตัวเล็กนี่ มาถึงปี 2010 ก็ชักจะลำบากมากขึ้น แฟนๆ รุมเยอะ พอถึงปีนี้ไม่ต้องพูดถึงค่ะ ยากมากกกกกกก

สรุปแล้วตลอดที่ไปเซปังมา 3 ครั้ง รู้สึกเราจะถ่ายรูปอลอนโซ่ได้ชัดที่สุดเลยค่ะ อิอิ

โดย: finishline

วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:19:27:30 น.

ผมเองเพิ่งไปดู เอฟ 1 ครั้งแรก ตื่นเต้นมากๆครับ เข้าไปดูทั้ง 3 วันเลย แต่วันอาทิตย์ต้องออกมาก่อน(ดูไป 1 ชม) เพราะรถติดมากๆ กลัวตกเครื่อง

ตอนได้ยินเสียงรถวิ่งที่ความเร็ว 300 กิโล ครั้งแรกยังไม่ทันได้อุดหู เสียงดังสุดๆๆๆๆๆ กระหึ่มจริงๆครับ ช่วงเบรคก็มีรถซีรี่ย์อื่นๆให้ดูด้วย อยากไปดูอีก :D

โดย: SamuDi Knight IP: 202.122.130.31 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:20:52:16 น.

ขอบคุณมากครับ รอชมตอนต่อไปอยู่ครับ

โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 182.52.208.163 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:21:04:14 น.

ราดหน้าน่ากินจัง :P

โดย: fascinator IP: 124.121.243.50 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:21:26:38 น.

ผมก้เพิ่งไปพัก Tune Hotel ครั้งแรกก้คราวที่ไปดู F1 คราวนี้หล่ะครับ ถึงได้รู้ว่า Internet 24Hr ที่ซื้อมา มัน เล่นได้แค่ 24 ชม. จริง ๆ ข้ามวันก็หมดอายุทันที ฮ่วยแล้วมันจะมี Time Remaining Check ทำแมวไรว้าาาา

ส่วนที่ตรงกันข้ามกลับเป็นแอร์ ซื้อมา 24 Hr สำหรับนอน สามคืนคืนละ 8 ชม ตั้งนากาปลุก มาชักคีย์การ์ดออกตอนตี 4 แล้วนอนมันแบบไม่มีไฟฟ้า จนถึงเช้า ปรากฏว่าสองคืนแรกไม่ทันเอะใจ ว่าทำไมเวลาแอร์มันเหลือเยอะจัง สรุปว่ามันนับถอยหลังเมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานเท่านั้น Y_Y ทนนอนหายใจไม่ออกตั้งหลาย ชม.

ไปเซปังปีนี้ สนุกมากครับ แต่อากาศร้อนเหลือเกิน หน้าดำเมี่ยมเรย ปีหน้าไม่พลาดอีกแน่นอน ^ ^

โดย: GoGh IP: 110.169.188.131 วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:23:23:01 น.

@คุณ SamuDi Knight
น่าจะได้อยู่ถึงตอนจบนะคะ บรรยากาศตอนหลังแข่งก็สนุกดี แต่ไม่เป็นไร ไว้คราวหน้าซิคะ กลับวันจันทร์เลย^^

@คุณ GoGh
พักที่ Tune เหมือนกันเหรอคะ แต่อืมมม..เรื่องชั่วโมงเน็ทก็แปลกดีแฮะ ใช่ค่ะ แต่เรื่องแอร์ข้ามวันข้ามคืนได้ แล้วแต่จะบริหาร

สรุปว่าปีหน้าแฟนๆ อยากไปอีกใช่มั้ยเนี่ย อิอิ

โดย: finishline

วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:9:31:27 น.

ค่าใช้จ่ายรายคน ประมาณเท่าไรได้ครับ

ยิ่งอ่าน Blog เจ้าบ้าน ปีหน้าชักอยากไปบ้างแล้วครับ

โดย: VR46 IP: 125.24.164.171 วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:10:47:13 น.

@คุณ VR46
สำหรับเราครั้งนี้หมดไม่เกิน 20,000 ค่ะ ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับที่นั่งในสนามที่เราเลือก เครื่องบินที่เรานั่งไป โรงแรมที่เราจะนอน อาหารที่เรากิน อะไรประมาณนี้ค่ะ

ของเราปีนี้:

- ค่าตั๋ว F1 โซน Crystal (หน้าเส้นชัย ชั้นล่าง) 5,500 บ. (ซื้อตอนโปรโมชั่น 50% ซื้อก่อนปีใหม่)

- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 4,800 บ. (แอร์เอเชีย)

- ค่าโรงแรมคืนละ 1,080 บ. ที่โรงแรม Tune LCCT ใกล้สนามแข่ง แต่เรานอนคืนเดียวเพราะที่เหลือไปนอนบ้านเพื่อนใน KL ค่ะ

- ค่ากินค่าอยู่ / ค่าเดินทาง รวมๆ แล้วไม่เกิน 5,000 บ. (ไม่รวมค่าช้อปปิ้งตามอัธยาศัยนะคะ)

อ่านเพิ่มเติมได้ในบล็อกเก่าของเราตามนี้ค่ะ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=f1star&group=1&month=05-08-2010&gblog=86

โดย: finishline

วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:12:01:57 น.

ขอบคุณครับผม

โดย: runtaro IP: 124.122.213.145 วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:15:10:01 น.