United States Grand Prix 2013 - Post-Race News
หลังการแข่งขันที่สนามออสติน เฟอร์นันโด อลอนโซ่ คว้าอันดับที่ 2 ในคะแนนสะสมประเภทนักขับเป็นที่แน่นอนแล้วนะคะ แต่ภารกิจของเขายังไม่สำเร็จเมื่อต้องพาเฟอร์รารี่ลุ้นอันดับที่ 2 ในคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้างให้ได้
ก่อนจะถึงสนามสุดท้ายของฤดูกาลที่บราซิลในสัปดาห์นี้ เฟอร์รารี่ยังอยู่ในอันดับที่ 3 ของคะแนนสะสม โดยถูกประกบอยู่ระหว่างเมอร์เซเดสและโลตัส ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโอกาสในการเป็นรองแชมป์ประเภททีมด้วยกันทั้งสิ้น ก่อนหน้านี้อลอนโซ่มุ่งมั่นที่จะช่วยเฟอร์รารี่ชิงอันดับที่ 2 จากเมอร์เซเดส แต่ล่าสุดหนังสือพิมพ์เลกิ๊ปของฝรั่งเศสรายงานคำสัมภาษณ์ของนักขับเฟอร์รารี่ว่าการป้องกันอันดับที่ 3 จากโลตัสดูจะเป็นความจริงมากกว่า "ไม่มีอะไรที่เราทำได้มากกว่านี้ในตอนนี้ เราต้องต่อสู้เพื่อเข้าสู่ Q3 และทำคะแนนให้ได้ในวันอาทิตย์ บางทีการที่จะจบปีในอันดับที่ 2 นั้นเป็นเป้าหมายที่สูงเกินไป เราต้องอยู่กับความเป็นจริงและตระหนักว่าอันดับที่ 2 คงเป็นเพียงความฝัน"
เพราะด้วยรู้ดีว่ารถของเขาช้ากว่าเมอร์เซเดสและโลตัส อลอนโซ่จึงภูมิใจอย่างมากกับตำแหน่งรองแชมป์โลกที่ได้มา "ผมภูมิใจเพราะชัดเจนว่าเราไม่ได้มีรถที่เร็วเป็นอันดับสอง ดังนั้นการได้อันดับสองจึงเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม แต่อาจจะดีกว่าถ้าได้อันดับที่ 10 มาสิบครั้งแล้วเป็นแชมป์โลกสักครั้งมากกว่าจะเป็นอันดับที่ 2 อยู่เสมอ"
สำหรับเรื่องสุขภาพของอลอนโซ่อันเป็นผลต่อเนื่องจากสนามอาบูดาบี เขากล่าวกับหนังสือพิมพ์เอเอสสปอร์ตส์เดลี่ของสเปนว่ายังรู้สึกเหนื่อยในการที่ต้องเดินทางไปสู้ศึกสนามปิดท้ายฤดูกาล เนื่องจากก่อนที่จะลงแข่งในยูเอส กรังด์ปรีซ์ เขาต้องนอนพักนิ่งๆ บนเตียง เพราะมีทั้งอาการปวดศีรษะและเวียนศีรษะ ซึ่งจนถึงตอนนี้เขารู้สึกตึงตัวไปหมด แต่ก็หวังว่าเมื่อไปถึงบราซิลอาการจะดีขึ้น อาการเจ็บปวดจะน้อยลงและสนุกกับการแข่งขันมากกว่านี้
**********************************************
ในช่วงหลังมานี้ คนหนึ่งที่ขึ้นโพเดียมบ่อยครั้งคือโรแมง โกรส์ฌอง สถานการณ์ของเขาตอนนี้ดีขึ้นกว่าฤดูกาล 2012 มากทีเดียวค่ะ
จากหลากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว ซึ่งส่วนมากมาจากการที่เขาเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุหลายครั้งโดยเฉพาะในรอบแรกของการแข่งขัน และครั้งที่จำกันได้มากที่สุดก็คือรอบแรกของเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ จนกระทั่งนำมาสู่การโดนโทษห้ามลงแข่งขันในสนามถัดไปที่มอนซ่า ทำให้เขาทุกข์ใจอย่างยิ่งจนกระทั่งคิดว่าอาจต้องหมดอนาคตในการเป็นนักขับฟอร์มูล่าวัน เขาจึงเข้ารับการบำบัดทางจิตนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้เขายังเข้าพบจิตแพทย์อยู่เสมอ
เขาเปิดใจว่าเขาชอบที่จะรับการรักษาไปเรื่อยๆ เพราะทำให้เขาเป็นคนที่ดีขึ้นทั้งในชีวิตส่วนตัวและเรื่องงานด้วย โดยอีกคนที่ยืนยันได้ดีก็คือทีมบอสโลตัส เอริก บูลลิเยร์ ซึ่งกล่าวว่าปกติแล้วโกรส์ฌองเป็นนักขับที่เร็วมาก บางครั้งมากไปด้วยซ้ำ แต่หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้วเมื่อเขาได้กลายเป็นพ่อคนและมีความมั่นใจมากขึ้น จึงสะท้อนมาเป็นผลงานที่เราได้เห็นในตอนนี้ ทั้งนี้ บูลลิเยร์คิดว่าการย้ายออกจากโลตัสของคิมี่ ไรค์โคเน่น บวกกับชีวิตส่วนตัวของเขาทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นในการแข่งขัน
*ข้อมูลจาก nextgen-auto.com
Create Date : 19 พฤศจิกายน 2556 |
|
6 comments |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2556 0:33:47 น. |
Counter : 1741 Pageviews. |
|
|
|