Preview: Canadian Grand Prix 2016
สนามอีกแห่งที่พร้อมท้าทายความสามารถของนักขับและสมรรถนะของรถ ด้วยความแคบของสนามและการใช้เบรก ใครจะคว้า 25 แต้ม ลุ้นกันสุดสัปดาห์นี้ค่ะ
รายละเอียดการแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย) สนามที่ 7: 10-12 มิ.ย. 59 ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 10 มิ.ย. เวลา 21.00-22.30 น. ซ้อม 2 - คืนวันศุกร์ต่อเช้าวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย. เวลา 1.00-2.30 น. ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 11 มิ.ย. เวลา 21.00-22.00 น. รอบควอลิฟาย - คืนวันเสาร์ต่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 12 มิ.ย. เวลา 0.00-1.00 น. แข่งขัน - คืนวันอาทิตย์ต่อเช้าวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย. เวลา 1.00 น. *ติดตามชมทุกช่วงได้ทางช่องฟ็อกซ์สปอร์ตส์ เอชดี หรือเว็บไซต์ที่ขึ้นไว้ด้านขวานี้
ข้อมูลสนาม ชื่อสนาม: เซอร์กิต ฌิล วิลเนิฟ (กึ่งสตรีทเซอร์กิต) ทิศทางการวิ่ง: ตามเข็มนาฬิกา จำนวนรอบแข่งขัน: 70 รอบ จำนวนโค้ง: 14 โค้ง ปีที่สนามเปิดใช้: ค.ศ. 1978 ปีที่เริ่มจัดการแข่งขันกรังด์ปรีซ์: ค.ศ. 1978 ความยาวของสนาม: 4.361 กม. ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 305.27 กม. สถิติสนามต่อ 1 รอบ: 1:13.622 (รูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ / เฟอร์รารี่ - 2004)
ข้อมูลทางเทคนิค ความเร็วสูงสุด: 333 กม./ชม. อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อรอบ: 56% อัตราการใช้เชื้อเพลิงต่อรอบ: 1.48 กก. อัตราการเปลี่ยนเกียร์ต่อรอบ: 91 ครั้ง การเลือกยางของปิเรลลี่: อัลตร้าซอฟต์ (สีม่วง) / ซูเปอร์ซอฟต์ (สีแดง) / ซอฟต์ (สีเหลือง) แรง G ในโค้งสูงสุด: 3.4 (โค้ง 5) โอกาสของเซฟตี้คาร์: 50% จำกัดความเร็วในพิตเลน: 80 กม./ชม. ตลอดสุดสัปดาห์การแข่งขัน DRS Zone: 1) ระหว่างโค้ง 12 ถึงโค้ง 13 เริ่มที่ระยะ 55 เมตรหลังโค้ง 9 2) ทางตรงหน้าพิต ระหว่างโค้ง 14 ถึงโค้ง 1 เริ่มที่ระยะ 70 เมตรหลังโค้ง 14 โดยมีจุดตรวจจับเวลาจุดเดียวที่ระยะ 110 เมตรหลังโค้ง 9
พยากรณ์อากาศสุดสัปดาห์ของการแข่งขัน วันศุกร์ - มีเมฆเล็กน้อย อุณหภูมิสูงสุด 17 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 11 องศาเซลเซียส วันเสาร์ - มีเมฆเล็กน้อย อุณหภูมิสูงสุด 19 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 13 องศาเซลเซียส วันอาทิตย์ - ท้องฟ้าสดใส อุณหภูมิสูงสุด 18 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส
ผู้ได้ตำแหน่งโพลในแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีที่ผ่านมา 2015 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:14.393 2014 - นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 1:14.874 2013 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:25.425
ผู้ชนะแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีที่ผ่านมา 2015 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 2014 - แดเนียล ริกเคียร์โด้ (เร้ดบูล) 2013 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล)
เวลาต่อรอบเร็วที่สุดในแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีที่ผ่านมา 2015 - คิมี่ ไรค์โคเน่น (เฟอร์รารี่) 1:16.987 รอบที่ 42 2014 - เฟลิเป้ มาสซ่า (วิลเลียมส์) 1:18.504 รอบที่ 58 2013 - มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 1:16.182 รอบที่ 69
เรื่องน่ารู้ก่อนดูการแข่งขัน
- ครั้งนี้เป็นรายการแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ ครั้งที่ 47 และเป็นการแข่งขันในเซอร์กิต ฌิล วิลเนิฟ ครั้งที่ 37 โดยก่อนหน้าที่จะจัดการแข่งขันในสนามแห่งนี้ครั้งแรกเมื่อปี 1978 แคนาดาเคยใช้สนามอื่นๆ มาก่อน ได้แก่ มอสปอร์ต ในปี 1967 1969 1971-1974 และ 1976-1977 รวมถึงสนามมองต์ ทรองบลองต์ ในปี 1968 และ 1970
- มิชาเอล ชูมัคเกอร์ คือนักขับที่คว้าชัยชนะจากสนามนี้มากที่สุด ด้วยจำนวน 7 ครั้ง ซึ่งเขาชนะกับเบเน็ตตองในปี 1994 และอีก 6 ครั้งกับเฟอร์รารี่ในปี 1997 1998 2000 และ 2002-2004
- ลูอิส แฮมิลตัน ชนะในมอนทรีออลเมื่อปี 2007 เป็นชัยชนะแรกของเขาในฟอร์มูล่าวัน และยังมีนักขับอีก 5 คนซึ่งชนะที่นี่เป็นชัยชนะครั้งแรกในกรังด์ปรีซ์ของตน ได้แก่ ฌิล วิลเนิฟ ชนะการแข่งขันในสนามแห่งนี้ในปีแรกที่จัดด้วยเมื่อปี 1978 เธียร์รี่ บุตเซ่น ในปี 1989 ฌอง อเลซี่ ในปี 1995 โรเบิร์ต คูบิซ่า ในปี 2008 และแดเนียล ริกเคียร์โด้ ในปี 2014
- ในอดีตมีนักขับเพียงคนเดียวที่เคยชนะแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ จาก 2 สนาม ได้แก่ แจ๊กกี้ อิกซ์ ซึ่งชนะการแข่งขันในสนามมอสปอร์ตเมื่อปี 1969 และสนามมองต์ ทรองบลองต์ ปี 1970
- มีนักขับในกริดปัจจุบันจำนวน 6 คนที่เคยชนะการแข่งขันสนามนี้ นอกจากแฮมิลตันแล้ว คิมี่ ไรค์โคเน่น เคยชนะเมื่อปี 2005 กับแม็คลาเรน เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ชนะในปี 2006 กับเรโนลต์ เจนสัน บัตตัน ชนะในปี 2011 กับแม็คลาเรน เซบาสเตียน เวทเทล ชนะปี 2013 กับเร้ดบูล เช่นเดียวกับริกเคียร์โด้ในปี 2014 ซึ่งในบรรดานักขับปัจจุบัน แฮมิลตันเป็นคนเดียวที่เคยชนะมากกว่า 1 ครั้ง
- แม็คลาเรนเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในรายการนี้มากที่สุด ด้วยจำนวนชัยชนะ 13 ครั้ง รองลงมาเป็นเฟอร์รารี่ 11 ครั้ง ตามมาด้วยวิลเลียมส์ 7 ครั้ง โดยบีเอ็มดับเบิ้ลยู-เซาเบอร์ เป็นทีมเดียวที่ได้ชัยชนะครั้งแรกของตนจากสนามนี้เมื่อปี 2009 ซึ่งเป็นชัยชนะครั้งเดียวของทีมตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ลงแข่งขันที่นี่อีกด้วย
- ตำแหน่งโพลในสนามนี้อาจไม่สำคัญนัก ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ชนะมาจากตำแหน่งโพลเพียง 50% เท่านั้น
*ข้อมูลจาก formula1.com / gpupdate.net / wikipedia.org ภาพจาก fia.com
Create Date : 09 มิถุนายน 2559 |
|
10 comments |
Last Update : 10 มิถุนายน 2559 0:08:59 น. |
Counter : 1802 Pageviews. |
|
|
|
เอฟไอเอเปิดเผยข้อมูลอุบัติเหตุของเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ที่ออสเตรเลีย ในนิตยสาร "ออโต้แม็กกาซีน" ของพวกเขา โดยระบุว่าอลอนโซ่ใช้ความเร็ว 313 กม./ชม. ขณะพยายามแซงเอสเตบัน กูเตียร์เรซ และเมื่อชนเข้าท้ายรถฮาส ความเร็วมาอยู่ที่ 305 กม./ชม.
เมื่อรถส่วนหน้าเสียหาย ทำให้พุ่งเข้ากำแพงด้วยแรง 45G ซึ่งภาพจากกล้องไฮสปีดที่เอฟไอเอนำมาติดตั้งในรถฟอร์มูล่าวันครั้งแรกในปีนี้บันทึกได้ว่าศีรษะของอลอนโซ่กระแทกที่พักศีรษะข้างซ้าย 2 ครั้งระหว่างอุบัติเหตุ และเมื่อไถลไปถึงพื้นหญ้าอีกด้าน รถได้พลิกตลบด้วยความแรงถึง 46G ม้วนกลางอากาศ 540 องศา เป็นเวลา 0.9 วินาที สุดท้ายรถหยุดด้วยการเอาท้ายตั้งลงพื้น แรงครั้งสุดท้ายที่ตรวจจับได้ในแนวดิ่งเท่ากับ 20G
ภาพที่บันทึกได้จากอุบัติเหตุครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเสี้ยววินาที ซึ่งมีค่ามากในแง่ของการพัฒนาระบบความปลอดภัยในการแข่งขันต่อไป
//www.motorsport.com/f1/news/data-reveals-alonso-s-305km-h-melbourne-crash-peaked-at-46g-748999/