- หลังจากเคยได้อันดับที่ 3 เมื่อปี 2014 ครั้งนี้ แดเนียล ริกเคียร์โด้ ได้อันดับที่ 2 นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาในโมนาโกนับถึงปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังเป็นโพเดียมครั้งแรกของเขาในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นเพียงอันดับที่ 2 ครั้งที่ 2 ในฟอร์มูล่าวันของเขาเท่านั้น

- เซอร์จิโอ เปเรซ ได้อันดับที่ 3 และเป็นโพเดียมแรกของเขาในโมนาโก ทำให้ขณะนี้เขามีโพเดียมในฟอร์มูล่าวันรวมแล้ว 6 ครั้ง โดยทำให้กับเซาเบอร์ 3 ครั้งและฟอร์ซอินเดีย 3 ครั้ง นับว่าเขาได้โพเดียมมากกว่าแม็คลาเรนนับตั้งแต่เขาออกจากทีมเมื่อสิ้นปี 2013

- นิโค ฮูลเคนเบิร์ก เพื่อนร่วมทีมของเปเรซ ยังไปไม่ถึงโพเดียมฟอร์มูล่าวัน แต่จากที่เขาสามารถแซงนิโค รอสเบิร์ก เอาอันดับที่ 6 ไปได้ในรอบสุดท้าย ทำให้เขาได้คะแนนเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สนามหลังสุด และส่งผลให้รอสเบิร์กจบการแข่งขันในอันดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ฮังการี 2015 ซึ่งครั้งนั้นนักขับเมอร์เซเดสจบอันดับที่ 8

- รอสเบิร์กไม่ได้ขึ้นโพเดียมมา 2 สนามติดต่อกันแล้ว ครั้งล่าสุดที่เป็นเช่นนี้ย้อนไปในการแข่งขันที่อิตาลี-สิงคโปร์ ปี 2015

- แม็คลาเรนฉลองครบรอบ 50 ปีของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันครั้งแรกด้วยการจบแบบมีคะแนนทั้งสองคันเป็นครั้งที่ 2 ในฤดูกาลนี้ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ได้อันดับที่ 5 เป็นผลงานดีที่สุดของเขานับตั้งแต่การแข่งขันที่ฮังการีปีที่แล้ว ขณะที่เจนสัน บัตตัน เพื่อนร่วมทีม ได้อันดับที่ 9 เป็นสนามที่สองติดต่อกัน

- คะแนนสุดท้ายในโมนาโกครั้งนี้เป็นของเฟลิเป้ มาสซ่า ทำให้เขาเป็นนักขับคนเดียวจนถึงขณะนี้ที่ได้คะแนนจากการแข่งขันทุกสนามนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล

- แม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น ไม่จบการแข่งขันในโมนาโกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และอุบัติเหตุในการแข่งขันนับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ของเขา

- รถของเรโนลต์และเซาเบอร์ต่างไม่จบการแข่งขันทั้ง 2 คันเป็นครั้งแรกในฤดูกาล ซึ่งทั้งสองทีมยังไม่ได้คะแนนในฤดูกาลนี้อีกด้วย

- นักขับประจำเซฟตี้คาร์ แบร์นด์ เมย์แลนเดอร์ ฉลองวันเกิดครบ 45 ปีไปในการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งของขวัญวันเกิดของเขาคือการได้นำการแข่งขัน 8 รอบ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่การแข่งขันโมนาโก กรังด์ปรีซ์ เริ่มการแข่งขันด้วยเซฟตี้คาร์










*ข้อมูลจาก formula1.com
ภาพจาก motorsport.com