- -" [Hathi ชวนเที่ยว ชวนหม่ำ] ไปเช้า-เย็นกลับ @ ย่างกุ้ง [พม่า]


ทริปย่างกุ้ง

จองตั๋วแอร์เอเชียได้ประมาณ 1500 นิดๆ ตอนใกล้วันไปคอนเฟิร์มตั๋วจ่ายเพิ่มอีก 200 บาทค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นค่าอะไรเหมือนกันขี้เกียจโทร.ถาม

เตรียมทริป กะว่าน่าจะทันตามนี้ **** ใครจะไปเช้าเย็นกลับเตรียมเวลาเที่ยวดีๆนะคะ เพราะว่ารถติดมว้ากกกกกก มว้ากกกกกก มากจริงๆค่ะ



จากนั้นติดต่อเช่ารถแบบไกด์ไม่จำเป็น หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตก่อนไปค่ะ เที่ยวเองไม่ต้องง้อไกด์ ><” ติดต่อไปสองสามเจ้า ราคาใกล้เคียงกัน คือ 1 วัน 60 ดอลล่า เป็นรถแอร์ ได้เจ้าของทีมคุณนันดา เบอร์ติดต่อตามนี้ค่ะเผื่อว่าใครสนใจ


ก่อนถึงวันไปก็แลกเงินพม่า แถวสะพานควาย อายแลกร้านนัดมั่นคง แต่มีอีกหลายร้านในเวิ้งนั้นค่ะ  ไปกัน 4 คน ลงขันคนละ 5000 บาท ** ควรแลกทั้งเงินพม่าและเงินดอลล่า เผื่อๆไว้ก่อน ดอลล่าจะต้องแลกแบบไม่ยับนะคะ ไม่งั้นใช้ยาก แต่เอาจริงๆ อายใช้แค่จ่ายค่ารถเช่าพร้อมคนขับอะค่ะ นอกนั้นใช้เงินพม่าจ่ายหมดเลย

เตรียมพาสปอร์ต ตั๋ว พร้อม เดินทาง


รถที่ได้เป็นสำหรับ 4 ที่นั่ง ไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ พอนั่งสบาย แอร์พอเย็นอยู่บ้าง ไม่อับเท่าไหร่ เราได้คุณตีห้า (เขาว่าเขาชื่อนี้ ^_______^) มาขับให้ เป็นน้องชายของคุณนันดาอีกที ดูแลเอาใจใส่ดีมากๆค่ะ


จุดหมายแรก (ข้าวเช้ากินกันมาก่อนแล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลานะคะ)

ชเวดากอง ควรไปตอนเช้าเพราะจะได้ไม่ร้อนจัดค่ะ
อายขึ้นทางด้านทิศตะวันออก ทุกทิศสามารถขึ้นได้ทั้งเดินบันไดขึ้นไป ก็จะมีของขายตามรายทาง หรือคุณตีห้าเค้าพาไปขึ้นลิฟต์ค่ะ ที่นี่ห้ามใส่รองเท้าเข้าพื้นที่ของวัดนะคะ เพราะงั้นต้องฝากรองเท้าหรือไม่ก็พกไปด้วยค่ะ ***แม้ว่าจะมีคนท้องถิ่นไปด้วย แต่น่าจะเฉพาะชเวดากองนะคะ อายแนะนำให้เอารองเท้าใส่กระเป๋าไปด้วย อย่าฝากค่ะ ค่าฝากแพงอยู่นะคะ แต่ว่าสถานที่อื่นค่าฝากรองเท้าจะแล้วแต่ทำบุญค่ะ คล้ายๆดอกไม้ธูปเทียนของไทย ^^




ลงชื่อเข้าสถานที่ ซื้อตั๋ว 8000 kyt ต่อคน



ขึ้นลิฟต์ถึงเดินเข้าไปจะพบวิหารประดิษฐานพระพุทธเจ้าก่อนค่ะ (ทิศเหนือ คือ พระโคตมพุทธเจ้า ทิศตะวันออก คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า
ทิศใต้ คือ พระโกนาคมนพุทธเจ้า ทิศตะวันตก คือ พระกัสสปพุทธเจ้า) อายเก็บภาพมาแค่พระกกุสันธพุทธเจ้าค่ะ เอาจริงๆ รูปหน้าคล้ายกันทุกองค์เลย แยกไม่ออก แหะๆ จากนั้นเดินเวียนขวาค่ะ แต่ไม่ได้เวียนครบ 3 รอบนะคะ เวลาไม่น่าจิพอ






เก็บเจดีย์ชเวดากองแบบเต็มภาพ (ไม่รู้ว่าใช่มุมนี้ไหมนะคะ เค้าว่าจะมีอยู่จุดนึงที่ถ่ายได้ทั้งองค์เจดีย์ มุมอื่นๆจะไม่ครบองค์ อายว่าตรงนี้ครบสุดแล้ว อาจจะมีจุดอื่นอีกก็ได้ค่ะ)


ตามหาสิ่งที่โน๊ตไว้ว่าจะมาสักการะบูชา (ใครหาไม่เจอถามเจ้าหน้าที่ได้นะคะ คนที่ถือวิทยุสื่อสาร เค้าจะทราบแทบทุกจุดเลย แค่เอาภาพจุดที่อยากไปให้เค้าดู ^^ )

1. พระหยก


2. สรงน้ำพระประจำวันเกิด เดินหากันหน่อยค่ะ ตอนนี้สบายแล้วมีป้ายบอกวันไว้ด้วยค่ะเป็นภาษาอังกฤษ วิธีการสรงน้ำพระประจำวันเกิด คุณตีห้าบอกว่าให้สรงน้ำเรียงจากพระพุทธ ในภาพองค์ขาวๆ เทพประจำวันเกิด ด้านหลังพระพุทธ สัตว์ประจำวันเกิด ด้านหน้าสุดล่าง และเสาด้านหลังที่มีป้ายบอกวันค่ะ


3.  ไหว้พระสุริยันจันทรา เห็นว่าคนทำมาค้าขายจะรุ่งเรืองนะคะ ตามภาพค่ะ จุดสังเกตุคือรูปนกยูงและกระต่ายค่ะ ถ้าดูจากองค์พระจะงงมาก คล้ายกันไปหมดเลย


4. เทพทันใจ โบโบยี เป็นภูติผีกึ่งเทพ เชื่อกันว่าอธิษฐานขอสิ่งใดจะสมหวัง


5. พระธาตุของพระพุทธเจ้า (พระเขี้ยวแก้ว)


6. ลานอธิษฐาน ตามตำนานว่าพระเจ้าบุเรงนองมาไหว้อธิฐาน ณ จุดนี้ก่อนขึ้นเป็นกษัตริย์ค่ะ


7. ใกล้ๆกันจะเป็นพระองค์ใหญ่ มีเหมือนผ้าโบกอยู่เหนือเศียร และจะมีเชือกห้อยลงมาสำหรับโบกผ้านี้ค่ะ เค้าว่าให้ดึงเชือกทั้งหมด 5 ครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลและร่มเย็นค่ะ




8. ไหว้รอยพระพุทธบาท มี 2 จุดนะคะ อายไปไหว้จุดเดียวค่ะ เห็นว่าในรอยพระพุทธบาทจะมีตาน้ำโบราณ ทำให้น้ำในรอยพระพุทธบาทไม่เคยแห้ง



9. ระฆังใหญ่มีสองจุด ปัจจุบันไม่เปิดให้เข้าใกล้แล้วนะคะ อดตีระฆังอธิฐานเลย ได้แต่เก็บภาพมาค่ะ



10. พระที่มีตาเหมือนคนมีชีวิตจริงๆค่ะ ตามตำนานบอกไว้ว่าที่พระองค์นี้มีดวงตาแบบนี้เนื่องจากว่ามีคนถวายดวงตาให้กับองค์พระด้วยความศรัทธา อยู่ใกล้ลานอธิษฐานนะคะ ถ้าจำไม่ผิด


11. เจดีย์ชเวดากองจำลอง


12. พระพุทธรูปชินซอพู สร้างโดยกษัตริย์หญิงของหงสาวดี อธิษฐานในเรื่องการงานจะสมปรารถนาค่ะ


13. พระพุทธรูป ที่มีตาสองข้างไม่เท่ากัน จุดนี้ลึกลับมากจริงๆค่ะ ท่านไม่ได้อยู่โดดเด่น แต่ว่าอยู่ในหลืบไป หาไม่เจอโปรดถามเจ้าหน้าที่เถิด อายเจอเพราะถามเช่นกันค่ะ ตามตำนาน(ที่อ่านจากอินเทอร์เน็ต จำไม่ได้ว่าแหล่งข้อมูลใดค่ะ อ่านเยอะมาก) เล่าว่า ผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้พยายามเสกหินให้กลายเป็นทอง แต่ล้มเหลวหลายครั้ง จนต้องควักลูกตาทั้ง 2 ถวายพระราชาเป็นการไถ่โทษ ทว่าเขาทำสำเร็จในการพยายามครั้งสุดท้าย และหินศักดิ์สิทธิ์ทำให้เขามองเห็นอักครั้ง จึงให้ศิษย์ไปหาตาใหม่มาใส่ ลูกศิษย์หาได้แต่ตาวัวกับตาแพะ จึงได้ชื่อว่ามนุษย์ตาวัวตาแพะ และเขาได้สร้างพระพุทธรูปที่ตาไม่เท่ากันถวายเป็นพุทธบูชา


14. พระพุทธรูปที่แกะจากไม้


15. พระพุทธรูปที่คนต้องการมีลูกนิยมไปขอที่นี่ค่ะ ใครอยากได้ลูกชายให้ขอทางเทพที่อุ้มเด็ก ใครอยากได้ลูกสาวให้ขอทางเทพที่ถือดอกบัว ^^


16. เจดีย์ศรีมหาโพธิ์ จะมีรูปทรงแปลกกว่าเจดีย์องค์อื่นค่ะ โดยจำลองมาจากอินเดีย


17. พระเกศาธาตุ

สี่ภาพที่เหลือเก็บภาพมาฝากกันค่ะ 





ทำเวลาตามตารางได้ดี เสร็จประมาณ 11 โมงนิดๆ เริ่มร้อนจัด แวะกินข้าวใกล้ๆ ร้านนี้ค่ะ
โกลเด้นดั๊ก สาขานี้จะออกแนวภัตาคาร มองไปเห็นชเวดากองอยู่ไกลๆสวยดีค่ะ




ใครสนใจเมนูร้านนี้หาเอาจากเว็บร้านนะคะ




สั่งไปไม่กี่อย่างค่ะ อ้อ ที่นี่ข้าว เค้าน่าจะคิดแบบบุฟเฟ่ต์นะคะ คือคิดเป็นหัว หัวละ 300 kyt ค่ะ
อย่างแรก เป็ดย่าง อร่อยจริงค่ะ หนังกรอบ เนื้อแน่น ไม่อมน้ำมันแม้แต่น้อย สมคำร่ำลือ ยำไข่เยี่ยวม้า 555 ไปกินถึงพม่ากันเลยทีเดียว เผ็ดหวานดีค่ะ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง นี่ก็เช่นกัน แต่ซอสของที่นี่จะเป็นซอสมะขามค่ะ หวานเค็มดี เบคอนทอด ที่นี่จะห่อผักชีด้วยค่ะ และปอเปี๊ยะปลา อายว่าคาวไปสำหรับอายค่ะ คิดราคาออกมาไม่แพงมาก (จริงๆเหมือนว่าทางร้านมีเมนูที่มีราคานะคะ แต่ว่าต้องร้องขอค่ะ อายลืม สั่งๆไปเสร็จละเพิ่งนึกได้ เลยขี้เกียจขอละค่ะ กะว่าถ้าแพงมหาศาลค่อยขอดู ^^”)







ตามตารางอายอยากแวะสุเลพญาก่อน แต่ว่าคุณตีห้าเค้าบอกว่าให้ไปโบตะทาวน์ก่อน เอ้า ตามใจผู้พาไป

เสียค่าเข้าคนละ 6000 kyt นะคะ


แวะชมเจดีย์ที่ภายในทาเป็นสีทองอร่ามก่อน เห็นตามมุมต่างๆมีคนมานั่งสมาธิอยู่เหมือนกันค่ะ พระทองแท้ๆ จะถูกล็อคกุญแจหลายชั้นมาก มีให้ชมจุดเดียวซึ่งกระจกค่อนข้างมัวมาก เลยไม่เก็บภาพมาดีกว่า - -“






ออกจากจุดนี้ เดินไปไหว้เทพทันใจค่ะ ตั้งอยู่ในศาลากลางน้ำ เชื่อว่าอธิษฐานสิ่งใดจะสมความปรารถนารวดเร็วทันใจ วิธีการ คือ เตรียมเงินไว้ 2 ใบ ม้วนตามภาพ คุณตีห้าม้วนให้ค่ะ คงกลัวเราจะม้วนกันไม่เป็น นำเงินกรวยซ้อน ใส่มือท่านเทพ ขอพรพร้อมกับเอาหน้าผากไปชนนิ้วชี้ของท่านเทพ จากนั้นดึงเงินใบบนกลับมาไว้เป็นที่ระลึกเป็นขวัญถุงประมาณนี้ค่ะ เสร็จแล้วเดินอ้อมไปด้านหลังท่านเทพแล้วมาลูบไม้เท้าที่ท่านถือไว้






จากนั้นแวะไหว้พระพุทธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวา ซึ่งเป็นพุทธรูปปางมารวิชัย เฉพาะผู้ชายเท่านั้นจะได้เข้าไปไหว้ใกล้ๆองค์พระค่ะ แง่มมมมมม


ข้ามไปอีกฝั่งเพื่อไปไหว้เทพกระซิบ ว่ากันว่าไปกระซิบสิ่งที่ต้องการใกล้ๆหูท่านเบาๆ จะสมปรารถนาค่ะ ตอนหาข้อมูลเทพท่านมีผมสวยงามมากเลย แต่ตอนอายไป >/////< ท่านโกนผมหมดเลยใช่ไหมคะ แหะๆ ตอนนี้อดกระซิบใกล้ๆแล้วด้วยนะคะ ล้อมรั้วไว้หมดเลย ทำไมกัน แง่ววววว ที่นี่เครื่องเซ่นมีราคานะคะ ถ้าจำไม่ผิด 200-300 kyt ใครไม่อยากจ่ายก็ไปไหว้เฉยๆก็ได้ค่ะ

จากนั้นไปต่อที่สุเลพญา ตอนแรกคุณตีห้าจะไม่ยอมแวะค่ะ เพราะว่าแถวนี้ไม่มีที่จอด เราเลยขอว่าแวะแป๊บเดียว อยากไปไหว้เทพทันใจ >/////< ที่จุดนี้เลยต้องวิ่งไปกันเอง งงๆหน่อยค่ะ ชินกับการมีคุณตีห้านำทาง 555+ แต่ว่าก็ไปได้ถูกนะคะ จากทางเข้าจ่ายค่าตั๋ว 3000 kyt ค่ะ ฝากรองเท้าไว้ด้านล่างใส่เงินตามศรัทธา ไหว้พระพุทธเจ้าด้านหน้าก่อน จำลอง 4 ทิศเหมือนชเวดากองเลย เห็นว่าเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่กว่าด้วยนะคะ แต่ว่าเล็กกว่าค่ะ อายเดินวนรอบแต่ไม่ได้เก็บภาพมาเท่าไหร่ รีบ ><” เกือบหาจุดที่จะมาไหว้ไม่เจอ เลยเอาภาพไปถามคนแถวนั้นเอา เค้าก็ชี้ทางไปให้ >/////<  เทพทันใจองค์โตที่สุดค่ะ เชื่อกันว่าขอพรอะไรจากท่านจะได้รับอย่างรวดเร็ว ตามตำนานเล่าว่าเทพองค์นี้เป็นเทพที่รักเด็กๆและจะคอยปกป้องคุ้มครองให้เด็กๆปลอดภัยค่ะ







ต่อด้วยวัด Nga Htat Gyi จะประดิษฐานพระพุทธรูปสีขาวองค์โตมากๆ มว้ากกกกกจริงๆค่ะ สูงเท่าตึก 5 ชั้น ปางมารวิชัย อ้อ ระวังคนพม่าที่เข้ามาทักด้วยนะคะ บางคนก็เข้ามาขอเงินค่ะ บางคนทำมาเป็นให้ความรู้จากนั้นก็ขอเงินค่าไกด์ซะงั้น - -“ ดีว่าเรามีคุณตีห้าไปด้วย พอเค้าเห็นว่าแปลกๆ เค้าเลยเดินมาถาม เลยจบไปค่ะ แหม๋ ที่นี่ก็มีเทพทันใจเช่นกันค่ะ ชี้นิ้วมาเลย แต่ว่าไม่มีตำนานอะไรนะคะ เหมือนว่าทุกจุดของวัดในพม่าจะมีเทพทันใจแบบนี้ประจำอยู่ค่ะ






จากจุดนั้นวัดใกล้กันคือวัดพระนอนตาหวาน Kyauk Htat Gyi องค์โตอีกเช่นกันค่ะ และตาหวานมากจริงๆ ขนตาเด้งมากกกกก เก็บภาพเต็มองค์ไม่ครบ ครบก็ไม่ค่อยเห็นหน้ากับตาเลย ><” ระฆังไม้ จำลองจากภาพวาด คุณตีห้าว่าไม้นี้โบราณมาก แต่ดูใหม่จัง 555 เช่นกันค่ะ ที่นี่มีเทพทันใจด้วย ขอพรกันจนมึนเลย แฮร่








จุดสุดท้าย (อดผ่านทะเลสาบกันดอจี คือผ่าน แต่ไม่ได้แวะถ่ายภาพค่ะ) ทะเลสาบอินยา ก่อนถึงผ่านเมือง มีภาพฝาผนังแบบนี้ด้วย ดูน่ารักเชียว อิอิ


ทะเลสาบค่อนข้างร้อนจัด ที่นี่มีร้านอาหารเยอะเลย แต่เรายังอิ่มอยู่ค่ะ กับเวลาใกล้หมดละ ได้แต่แวะชมทะเลสาบนั่นหละ


อ้อ ลองกินหมูลวกต้มตามภาพไปค่ะ ชิ้นละ 6 บาท แพงอยู่นะ ชิ้นจิ๋วเชียว อายซวยหน่อยได้ชิ้นที่มีกลิ่นสาบหมู คนอื่นเค้าอร่อยกันค่ะ T^T



จบทริป บึ่งไปสนามบิน เวลาดันเหลือ เลยต้องกินข้าวในสนามบินนั่นหละ และร้านที่ได้รับเลือกคือ ราเมนยามาโกย่า แหม๋ ต้องกินกันถึงนี่เลย สั่งกันไปคนละชามค่ะ รสอ่อนดี เหมือนกับที่กินในทองหล่อนั่นหละ แต่ก็แก้หิวดีค่ะ (จริงๆมีแค่ร้านนี้ ร้านอาหารไทย และร้านเบอเกอร์คิง -*-)








เงินพม่ายังเหลือเลยต่อไอติมอีกถ้วย ของแบรนด์นี้ สเว่นเซ่น 555 รู้สึกเหมือนวันนี้ชั้นมากินอัลไล ในย่างกุ้ง เสียดาย ครั้งหน้าถ้าได้ไปใหม่จะแวะกินอาหารท้องถิ่นให้ได้เลย ><”





Create Date : 20 กันยายน 2559
Last Update : 20 กันยายน 2559 8:19:49 น.
Counter : 3834 Pageviews.

0 comments

Hathi
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]



แนะนำตัวนิดนุง

Hathi = หทัย นะคะ ^^ มีหลายท่านอ่านแล้วก็ออกเสียงแตกต่างกันไป ฮาติ แฮทไฮ เอิ่ม หลายหลายจริงๆ (ทราบว่าควรเขียนแบบชื่อประเทศ แต่มันซ้ำกะท่านอื่นได้ง่ายอะค่ะ ^^)


จริงๆเลือกชื่อนี้เพราะเป็นชื่อต้นของชื่อจริงอะค่ะ ไม่คิดว่ามันจะอ่านได้หลายแบบเนาะ ลืมนึกไปค่ะ


บล็อกนี้อายทำเหมือนไดอารี่นะคะ คือ ถ้าจะเข้ามาหาสาระ คงไม่ค่อยมี แหะๆ เหมือนจดบันทึกของอายเองอะค่ะ ต้องขออภัยด้วยนะคะ

สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ทาง IG eyehathi นะคะ
กันยายน 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog