Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
16 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

7 days in Lahore

วันอาทิตย์ 1 July 2007 ใช้เวลา 4 ชั่งโมงครึ่ง เครื่องบินของการบินไทยก็ลงจอดที่สนามบิน Lahore International Airport ตรงเวลาสี่ทุ่มครึ่ง โดยไม่ต้องดูป้ายบอกทาง ผู้โดยสารทุกคนก็ต้องเดินมาเข้าคิวผ่านตม. ซึ่งมีแค่สองช่องสำหรับทุกคนไม่ว่าคนชาติไหน ทั้งคนจีน คนไทย แขก ฝรั่ง จริงๆก็น่าภูมิใจกับสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีเจ้าหน้าที่ตม กว่าห้าสิบช่อง มากกว่าสนามบินใดๆในโลก นอกจากมีหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก ใช้เวลาก่อสร้างนานที่สุดในโลก มีร้านค้าปลอดภาษีมากที่สุดในโลก มีเครื่องตรวจระเบิด CTX มากที่สุดในโลก แต่มีห้องน้ำน้อยที่สุดในโลก

คนจีนดูจะมีมากกว่าชาติอื่นถ้าวัดจากความดังของเสียงที่คุยกัน ในกลุ่มคนจีนแทบไม่มีคนพูดภาษาอังกถษได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตม. ตะโกนถามเข้ามาในแถวว่า “Any Chinese who can speak English?” ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ใด ทำให้คนจีนกลุ่มนั้นต้องโดนเรียกออกจากแถว จนกว่าจะมีคนจีนที่สามารถพูดภาษาอังกถษได้ ชาวจีนช่างกล้าหาญแม้พูดได้แต่ภาษาจีน ข้าก็จะเดินทางไปทุกที่ที่ชาติต้องการ พวกเราชาวจีนมีมากกว่าพันล้านคนทุกหนึ่งในหกคนในโลกต้องเป็นคนจีน แต่ไม่มีคนจีนคนไหนในแถวที่สามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตม.ได้เลย

ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง กว่าจะได้ออกมาจากตม. เดินออกมาเจอคนขับแท็กซี่มาอออยู่เต็มหน้าประตู พวกที่โรงแรมส่งมารับจะถือป้ายชื่อ หนึ่งในนั้นก็มีชื่อเราอยู่ด้วย เดินแหวกฝูงชนมาขึ้นรถตู้ไปยังโรงแรม เส้นทางจากสนามบินต้องผ่านถนนดินแดงในช่วงแรกจึงจะไปถึงไฮเวย์ ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที ก็เข้าสู่เมือง Lahore ซี่งมีสีเทาเป็นส่วนใหญ่ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของปากีสถาน อยู่ใกล้พรมแดนติดกับอินเดีย แล้วรถตู้ก็พาเรามาถึงโรงแรม Sunfort แทนที่จะเป็นโรงแรม Holiday Inn ที่บริษัทบอกว่าได้จองไว้ให้เรา คุยกับเจ้าหน้าที่เช็คอินเค้าก็โชว์ใบจองให้ดู ก็เลยตกลงเข้าพัก จองไว้สองคืนค่าที่พักคืนละสามพันบาท ดูจากสภาพโรงแรม ถ้าเป็นที่เมืองไทยราคาไม่น่าเกินสองพัน

วันจันทร์ หลังกินอาหารเช้าแบบยุโรป-ปากีสถานเสร็จลองถามเจ้าหน้าที่เรืองแท็กซี่ เค้าบอกให้ใช้ของโรงแรม ราคามาตรฐาน เป็นรถโตโยต้าแคมรี ใช้เวลาที่แค่สามนาทีก็มาถึงบริษัท ค่ารถสามร้อยบาท อีกวันนั่งแท็กซี่ยี่ห้อเดียวกับมิสเตอร์บีนแค่หาสิบบาท ราคามาตรฐานอะไรของมันวะ ที่นี่จะไปไหนก็เรียก Rickshaw (จริงๆแปลว่ารถรากแบบสองหรือสามล้อแบบโบราณ) คือรถตุ๊กๆสามล้อแบบเมืองไทยนี่เอง ราคาค่าโดยสารสิบถึงสี่สิบบาท รถแท็กซี่ (แบบมิสเตอร์บีน) แทบไม่มี มีอีกทางเลือกหนึ่งคือรถลากสองล้อแบบใช้ลา donkey ลาก ยังไม่มีโอกาศได้ลองนั่งดู

ออฟฟิตที่ทำงานอยู่บนชั้นสิบเอ็ดของอาคาร city towers ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของตึก ชั้นล่างจะเป็นห้างคล้ายพาหูรัดส่วนใหญ่ขายผ้าอินเดีย เป็นครั้งแรกที่ต้องมาทำงานกับบริษัทคนจีน ซึ่งมีชือเสียงในเรื่อง un-organized และส่งมอบงานล่าช้าที่เมืองไทย มีพนักงานคนปากีสถานพอๆกับคนจีน แต่ผู้จัดการและวิศวะกรส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนทั้งหมด ยกเว้นในกลุ่ม consultants ของเราเป็นแอฟริกาใต้(คนขาว) อินโดนิเซีย ปากีสถานอย่างละคน และคนไทยสองคน ไม่มีหัวหน้าทีม ทำงานเป็นระบบแบบตั้วเฮีย คือเฮียๆคนจีนต้องการอะไรก็จะมานั่งข้างๆแล้วสั่งงานเอา น่าจะคล้ายๆทำงานแบบ work to order ทำตามคำสั่งเป็นวันๆไป

วันอังคารย้ายไปอยู่เกสท์เฮาส์ Roses Palace ไกล้ๆที่ทำงาน ได้ห้องติดกับดาดฟ้าซึ่งเป็นห้องเดียวที่มีหน้าต่างสามารถมองออกไปเห็นท้องฟ้า ราคาคืนละ 900 บาทรวมอาหารเช้า ตอนเย็นไปกินร้านไก่ทอดของคนท้องถิ่นใกล้ๆเกสท์เฮาส์กับเพื่อนที่ทำงาน เป็นร้าน ปากีสถาน Fried Chicken กินชุดไก่ทอดกับ coleslaw ราคา 50 บาท นั่งดูทีวีเหตุการณ์ที่พวกนักศึกษาหัวรุนแรงตามแนวตาลีบันยึดมัสยิดแดง จับนักคนเป็นตัวประกันสองพันคน ในอิสลามาบัด

วันพุธเช้าตื่นมาท้องเสีย ไปทำงานบอกเพื่อนคนอินโดว่าไปกินไก่ทอดเมื่อวานแล้วท้องเสีย มันบอกว่า “Welcome to Pakistan” มันยังว่าแบคทีเรียที่นี้คงไม่เหมือนที่อื่น ตอนเที่ยงมันเลยพาไปกิน KFC ของแท้แก้เคล็ด KFC ชุดไก่ย่างสองชิ้นราคา 120 บาท แต่ก่อนมาเจอเพื่อนที่เมืองไทยบอกว่า อาหารที่นี้สกปรก ขนาดมันไปกิน KFC มายังท้องเสียเลย แต่ตอนนี้คงไม่เป็นไรแล้วหละ แบคทีเรียในลำไส้เราน่าจะทำความรู้จักกับแบคทีเรียเจ้าถิ่น คงจะคุยกันรู้เรื่อง

วันพฤหัส นั่ง Rickshaw ไปทำงานเหมือนเดิม ค่ารถสิบบาท วันนี้ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ไปกินอาหารท้องถิ่นเด็ดขาด ตอนเที่ยงเลยไปกินอาหารจีนใกล้ที่ทำงาน เป็นร้านจีนแต่งคล้ายศาลเจ้า กินกันสองคนค่าอาหารประมาณสี่ร้อยบาท รวมค่าข่าวเปล่าสำหรับสองคนเก้าสิบบาท ต้องทำใจว่าเมืองนี้ข้าวเปล่าหายาก

เลิกงานประมาณทุ่มครึ่งพากันไปกิน Subway แซนวิชช์ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาได้กิน Subway ที่ปากีสถาน นอกจากที่อเมริกาก็ยังไม่เคยกิน Subway ที่ไหนเลย สั่ง sandwich แบบอิตาเลียนราคา 200 รูปี ก็ประมาณ 100 บาท เทียบกับที่อเมริการาคา 5 เหรียญ เย็นนี้อากาศไม่ร้อนนัก เลยได้มานั่งกินที่ม้าหินอ่อนหน้าร้าน มีกำแพงโบราณอาณาจักร Mughal มีคนปากีสถานมาเดินเล่นอยู่เป็นฉากหลัง โดยมีบทสนทนาระหว่างเพื่อนชาวปากีสถานซี่งศึกษาปรัชญาอิสลามกับคนแอฟริกาใต้ซึ่งได้ศึกษาประวัติศาสต์คริสต์ เกี่ยวกับความเกี่ยวโยงกันระหว่างสองศาสนากันอย่างเมามัน บางเรื่องเราก็เพิ่งได้ยินครั้งแรกนี้แหละ สรุปว่ามีความเกี่ยวโยงลึกซึ้ง ศาสนาอิสลามซึ่งเกิดหลังได้อ้างอิงเรื่องพระเยซู ว่าเป็น Prophet คนหนืงของพระเจ้า มีพระเจ้าองค์เดียวกัน แล้วรบกันทำไมตั้งหลายครั้ง เฮ้ยย

กลับมาถึงห้องสี่ทุ่ม เปิดเมล์ดู มีเมล์มาจากผู้จัดการที่อเมริกา ว่าลูกค้าเจ้าประจำและเจ้าเดียวตอบรับมาแล้วนะหลังจากผ่านไปสองอาทิตย์ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับมี offer ที่ปากีสถาน ถ้าไม่ตอบรับไปอาจจะไม่ได้งานอีกเลย แต่ถ้าไปแอลเอ ก็จะต้องฉีกสัญญาและคงไม่ได้ทำงานกับบริษัทนี้อีกต่อไป ไม่มีทางเลือกนอกจากไปแอลเอ

วันศุกร์เอาตั๋วไปเลื่อนที่สำนักงานการบินไทยในเมือง รอรถแท็กซี่หน้าออฟฟิตอยู่นานรถแท็กซี่ของมิสเตอร์บีนไม่โผล่มาซักคัน ต้องไปพึ่งบริการรถริกชอร์ที่จอดอยู่หน้าตึก หลังเจรจากันอยู่ซักพักตกลงราคาได้สองร้อยรูปิ จากสามร้อย ได้ริกชอร์คันใหม่พอสมควร ใช้เวลาขับไปประมาณครึ่งชั่วโมง ระหว่างทางจะมีตำรวจตั้งด่านตรวจเป็นระยะ บรรยากาศตื่นเต้นดี ไปถึงเจ้าหน้าที่แก้ไขตั๋วให้เดินทางพรุ่งนี้ตอนสามทุ่ม แต่บอกว่าพรุ่งนี้จะมีคนโทรไปคอนเฟิร์มตั๋วก่อนถึงจะใช้บินได้ มีอย่างนี้ด้วยเพี่งเคยเจอปกติถ้าเลื่อนตั๋วไกล้ๆวันเดินทางก็ถือว่าคอนเฟิร์มเลย แล้วเราเป็นคนโทรไปคอนเฟิร์มตั๋วเอง ให้เบอร์โทรที่โรงแรมเอาไว้ ถ้าเกิดออกไปกินข้าวแล้วโทรมาไม่อยู่จะได้บินกลับมัยเนี้ย

กลับมาที่ออฟฟิตด้วยความรู้สึกแปลกๆเพราะวันนี้มาทำงานวันสุดท้ายแล้ว ไม่ได้บอกใคร คงจะรู้กันเองวันจันทร์ เพราะจะอีเมล์ไปบอกผู้จัดการในวันจันทร์ เลิกงานไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงานเหมือนเคย วันนี้เพื่อนปากีสถานที่เป็นคนปากีคนเดียวในทีมแต่เป็นคนสำคัญที่สุด เพราะเป็นคนเดียวที่มีรถ พวกเราทั้งห้าคนไปที่ต่างๆโดยไม่ต้องพึ่งริกชอร์ พาไปกิน subway แซนวิชช์อีกครั้งเป็นการสั่งลา ก่อนไปแวะไปเอากางเกงยีนส์ทีย่านร้านหรูของเมือง แต่ทางกำลังปรับปรุงถนนทางไปร้านเป็นถนนลูกรังตลอดทางจนถึงหน้าร้าน

วันเสาร์ ต่ออินเตอเน็ต เพื่อจองโรงแรม กับรถเช่าที่สนามบินแอลเอ อินเตอร์เน็ตมีปัญหาตั้งแต่เช้า ที่โรงแรมมีไวไฟ แต่ต้องมีคนคอยเปิดปิดเครื่องตัวแม่ข่ายที่ชั้นล่าง กว่าจะจองได้ต้องเดินขึ้นลงอยู่หลายรอบ คอยลุ้นให้พนักงานตอนรับ ซึ่งทำหน้าที่ทุกอย่าง ทั้งเช็คอิน รับโทรศัพท์ เสริฟอาหารเช้า เปิดปิดเครื่องรวมทั้งซ่อมอินเตอเน็ต แถมค่ำนี้อาสาขับแท็กซี่ไปส่งที่สนามบินด้วย

กำลังจะออกไปกินอาหารเที่ยงมีโทรศัพท์มาจากสายการบินคอนเฟิร์มตั๋ว เกือบจะไม่ได้กลับบ้าน ถ้าออกไปกินข้าวเร็วกว่านี้หน่อยเดียว ใครมัวแต่เข้าห้องน้ำแล้วมีโทรศัพท์มาจากสายการบินแล้วออกมารับไม่ทันคงตกเครื่องบิน เดินออกไปจากย่านโรงแรมซึ่งไม่มีร้านอาหารที่เราพอจะกินได้โดยไม่ท้องเสียในรัศมีห้าร้อยเมตร ไปเจอร้านอาหาร Salt’n Pepper Village เป็นร้านหรูทีเดียว สั่งอาหารชุดประจำร้านมากิน เป็นไก่ย่างและเนื้อย่าง กินกับข้าวหมกไก่ปากีสถาน และโรตี เป็นอาหารมื้ออร่อยที่สุดในปากีสถาน ราคาร้อยห้าสิบรูปี

รถแท็กซี่มารับตามนัดตอนหนึ่งทุ่ม โดยพนักงานต้อนรับ ไม่ได้เป็นคนขับรถไปส่งเรา อาจมีปัญหาในการหารถ ก่อนขึ้นแท็กซีบอกให้เราจ่ายค่าแท็กซี่สามร้อยรูปีซึ่งถือว่าถูกมาก รถแท็กซีขับไปทางโฮเวย์ ก่อนจะไปเข้าถนนลูกรังทางไปสนามบิน ก่อนจะเข้าเทอร์มินอล มีตำรวจมาตรวจรถพร้อมขอดูพาสปอร์ตกับตั๋วเครื่องบิน มาถึงสนามบินตอนทุ่มครึ่งเข้าเทอร์มินอลไปเช็คอิน ข้างในไม่มีร้านอาหารให้กินเลย ต้องออกไปนอกเทอร์มินอลอีกครั้ง ระหว่างเดินออกไปมีเจ้าหน้าที่ตามมาด้วยถามว่าจะไปไหน เราก็บอกว่าหาอะไรกิน เค้าชี้ให้เราไปอีกทางพร้อมตามดูให้มั่นใจว่าเราไม่ได้ไปวางระเบิดที่ไหน ทั้งสนามบินมีร้านอาหารอยู่ร้านเดียวอยู่มุมขวามือทางเข้า สั่งข้าวหมกไก่มากินอีกที ในเมนูไม่เขียนราคา เราเลยได้กินข้าวหมกไก่จานละสามร้อยบาท ก่อนกลับเข้าไปในเทอร์มินอล แรกเงินรูปีเป็นดอลลาห์ หมดเลย ลืมเก็บไว้เอาแบงค์ปากีสถานไปฝากแม่ และยังไม่มีรูปในลาฮอล์เลย

ลาก่อนลาฮอร์




 

Create Date : 16 กันยายน 2550
4 comments
Last Update : 7 ธันวาคม 2550 5:40:56 น.
Counter : 965 Pageviews.

 

แวะมาอ่านค่ะ เลยรายงานตัวให้เจ้าบ้านทราบด้วย

 

โดย: D*U*A*N (thisisduan ) 16 กันยายน 2550 8:14:09 น.  

 



*** สวัสดีจ้า แวะมาเยี่ยมในวันหยุด happy weekend นะคะ ***


 

โดย: หน่อยอิง 16 กันยายน 2550 9:36:42 น.  

 

แวะมาทักทายวันหยุดค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: annie (annie_martian ) 16 กันยายน 2550 12:32:47 น.  

 

วางแผนไว้เหมือนกันค่ะว่าจะไปเที่ยวที่นั่น สงสัยต้องเตรียมตัวมากกว่าที่คิดอีกค่ะ เฮ้อ คิดถูกหรือป่าวไม่รู้ค่ะ แต่ว่าอยากได้ประสบการณ์ที่แตกต่างค่า

 

โดย: อาโย IP: 203.151.120.204 14 พฤศจิกายน 2551 14:44:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Explorer
Location :
@Lonely Planet@ United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Explore the world
Friends' blogs
[Add Explorer's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.