สวัสดีครับ
เวลาที่เราไปเที่ยวต่างประเทศก็มักจะคาดหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ดีๆ ที่น่าจดจำกลับมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นไปตามที่คาดหวังแต่สำหรับคนที่เคยเจอปัญหาระหว่างทริปก็คงจะรู้ดีว่าเวลาที่เกิดอะไรขึ้นแล้วหาคนช่วยเหลือไม่ได้เนี่ยมันเป็นประสบการณ์ทีไม่ค่อยดีสักเท่าไร ทั้งเหนื่อยทั้งไม่สบายใจแถมยังจะเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายมากมายที่ตามมาอีกด้วย ทั้งในกรณีของการเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุระหว่างทางหรือสายการบินยกเลิกเที่ยวบินกระทันหัน ฯลฯซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราไปห้ามไม่ได้แต่เราสามารถเตรียมตัวให้พร้อมรับเหตุการณ์เหล่านี้ได้ด้วยการทำประกันภัยการเดินทาง ดีอย่างไร มาดูกันครับ
บาดเจ็บหรือเจ็บป่วย...ประกันคุ้มครอง
หากเราเดินทางแล้วเกิดเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุจนต้องเขาโรงพยาบาลบริษัทประกันจะช่วยชดเชยในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ค่าหมอ ค่ายา ค่าห้อง ค่าผ่าตัดฯลฯ รวมถึงค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีการเคลื่อนย้ายเพื่อการรักษาอีกด้วยครับ
ยกเลิกการเดินทาง...ประกันจ่ายคืน
หากเกิดเหตุฉุกเฉินจนทำให้เราไม่สามารถเดินทางได้เช่น คนในครอบครัวเสียชีวิต บาดเจ็บ หรือป่วย เกิดการชุมนุมปิดสนามบินหรือสภาพอากาศเลวร้ายจนไม่สามารถบินได้บริษัทประกันจะชดเชยในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าที่พักให้รวมถึงในกรณีที่เดินทางไปแล้วแต่มีเหตุให้ต้องกลับก่อนกำหนดบริษัทประกันก็จะชดเชยให้ในส่วนของค่าเดินทางและที่พักที่เสียไปแล้วด้วย
ไฟลท์ดีเลย์...ประกันชดเชยให้
หากสายการบินมีการเลื่อนเที่ยวบินหรือออกเดินทางล่าช้าทำให้เราต้องเสียเงินเพิ่มในส่วนของที่พักและค่าเดินทาง บริษัทประกันจะชดเชยให้ในส่วนที่จ่ายเพิ่ม
กระเป๋าหาย...ประกันจ่ายให้
นับเป็นเรื่องยุ่งยากสุดๆเรื่องหนึ่งเลยนะครับหากเดินทางไปถึงที่หมายแล้วแต่กระเป๋าเดินทางกลับสูญหายทำให้เราไม่มีเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ซึ่งในส่วนนี้ประกันจะชดเชยในส่วนของค่าเสื้อผ้าและสิ่งของจำเป็นให้ครับรวมถึงกรณีที่กระเป๋ามาช้า โดยกำหนดระยะเวลาของคำว่า ล่าช้า อยู่ที่ 8-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกันครับ
มีปัญหาระหว่างเดินทาง...ประกันช่วยได้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างทริปเราสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับนับว่าเป็นการสร้างความมั่นใจและความอุ่นใจได้อย่างดีครับเพราะในยามที่เกิดปัญหาแล้วเราไม่รู้ว่าจะหันไปพึ่งใครบริการนี้ก็ช่วยให้อุ่นใจขึ้นได้ครับ
ทั้งนี้เราสามารถเลือกทำประกันการเดินทางได้ทั้งแบบรายเที่ยวหรือรายปีครับใครเดินทางบ่อยเลือกทำแบบรายปีก็คุ้มกว่า ซึ่งแบบรายปีนี้จะไม่ใช่ว่าคุ้มครองตลอด360 วันนะครับ แต่จะนับแค่วันที่เดินทางเท่านั้น มีแบบ 60, 90, และ 120วันขึ้นอยู่กับบริษัทประกันกำหนดส่วนแบบรายเที่ยวเราต้องกำหนดวันเดินทางไป-กลับให้ชัดเจน เช่นเดินทางวันที่ 1/8/56กลับ 10/8/56 ก็จะได้รับความคุ้มครอง 10 วัน แต่ถ้าเราเดินทางกลับก่อนวันที่ 10ความคุ้มครองก็จะสิ้นสุดลง ณ วันที่เราเดินทางกลับถึงเมืองไทยครับ
นอกจากนี้หากใครถือบัตรเครดิตลองเช็คสิทธิประโยชน์จากบัตรดูก่อนนะครับว่ามีประกันภัยการเดินทางมาให้แล้วหรือเปล่าจะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มครับ
แนะนำข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบล็อกวันนี้
K-Expert Guidebook เรื่อง อยากเที่ยวตามฝัน (คลิกเพื่ออ่าน)
K-Expert ทุกความต้องการตอบได้ช่วยได้
Email ปรึกษาทุกเรื่องการเงินอย่างเป็นส่วนตัว: k-expert@kasikornbank.com
Website รวมบทความและเครื่องมือคำนวณทางการเงิน : www.askkbank.com/k-expert