เทคนิคปรับแผนลงทุน รับดอกเบี้ยขาลง
สวัสดีครับ ในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง พูดง่ายๆก็คือฝากเงินในธนาคารแล้วได้ดอกเบี้ยน้อยลงเรื่อยๆ จนแทบไม่ออกดอกออกผลผู้ที่จะยิ้มแก้มปริก็เห็นจะเป็นคนที่กำลังมีแผนขยายธุรกิจหรือผู้ที่กำลังผ่อนบ้านเพราะหากคิดขยายธุรกิจหรือซื้อบ้านก็จะได้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกส่วนใครที่กำลังผ่อนบ้านอยู่แล้วก็ทำเรื่องรีไฟแนนซ์ให้ได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงได้อีกส่วนผู้ที่ยิ้มไม่ค่อยจะออกก็คงจะเป็นกลุ่มผู้ออมและนักลงทุนเพราะได้รับผลตอบแทนน้อยลงเรื่อยๆ จนแพ้เงินเฟ้อเสียราบคราบดังนั้นเราจึงควรปรับแผนการลงทุนเพื่อให้พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเรื่อยๆ ครับควรทำอะไรบ้าง วันนี้ผมมีเทคนิคมาบอกเล่าครับ ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาวมากขึ้น เช่น พันธบัตรและหุ้นกู้จะช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นโดยควรเลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่น่าลงทุน หรือ Investment Grade ในระดับBBB ขึ้นไป แต่ถ้าหากไม่สนใจพันธบัตรหรือหุ้นกู้ก็ขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้แบบครบกำหนดอายุโครงการ ระยะเวลาตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพราะเมื่อเทียบแล้วให้ผลตอบแทนสูงกว่าการออมเงินในบัญชีฝากประจำที่มีกำหนดอายุเท่ากันอีกทั้งผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนตราสารหนี้ไม่เสียภาษีครับ อย่างไรก็ตามเราควรยังต้องมีการลงทุนระยะสั้นๆ เช่น บัญชีออมทรัพย์หรือกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุน้อยกว่า 1 ปี อยู่นะครับทั้งนี้ก็เพื่อให้มีสภาพคล่อง โดยควรมีเงินออมสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้เท่ากับ 3-6เท่าของรายจ่ายรายเดือนครับ ออมเงินในเงินฝากปลอดภาษีที่มีอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินแบบรายเดือนซึ่งผลตอบแทนจากการออมนี้ไม่ต้องเสียภาษี โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องออมเป็นจำนวนเท่าๆกันทุกเดือนเป็นระยะเวลาขั้นต่ำ 24 เดือน ซึ่งในช่วงที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นขาลงการออมในรูปแบบนี้จะช่วยล็อคอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่ให้ลดลงครับ โดยสามารถเลือกออมแบบนี้ได้ในรูปแบบของบัญชีฝากประจำนั่นเองครับแต่ต้องเป็นบัญชีฝากประจำที่มีกำหนดอายุตั้งแต่ 24 เดือนขึ้นไปเท่านั้นนะครับหากต่ำกว่านั้น ผลตอบแทนที่ได้จะต้องโดนหักภาษีครับ ลงทุนในหุ้นสามัญมากขึ้น ในมุมของนักลงทุนในกรณีที่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลงทำให้การลงทุนในหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นเพราะผู้ที่ลงทุนในหุ้นโดยการกู้เงินจากบริษัทหลักทรัพย์ (Margin) จะทำให้มีต้นทุนในการกู้ที่ต่ำลงและในแง่ของบริษัทจดทะเบียน หากดอกเบี้ยปรับตัวลดลงจะช่วยให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายของเงินกู้ที่มีอยู่กับสถาบันการเงินลดน้อยลงซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรมากขึ้นและเป็นผลบวกกับราคาหุ้นในระยะยาวทั้งนี้ต้องขอหมายเหตุไว้ ณ จุดนี้สักนิดว่า ความเป็นไปของตลาดหุ้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวนะครับมันเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของทั้งไทยและเศรษฐกิจโลกเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ภาพรวมของอุตสาหกรรมและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน เป็นต้น ดังนั้นหากตัดสินใจจะเล่นหุ้นแนะนำว่าให้ดูหลายๆ องค์ประกอบรวมกันหรือปรึกษาผู้รู้ก่อนตัดสินใจครับ ทั้งนี้จะเลือกลงทุนไม่ว่าจะรูปแบบใดอย่างไรก็ควรเลือกลงทุนให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้นะครับและควรศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนเสมอเพื่อให้การลงุทนมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ หากใครมีคำถาม สามารถปรึกษาK-Expert ได้ทุกเรื่องการเงิน ผ่านช่องทางดังนี้ครับ Email ปรึกษาทุกเรื่องการเงินอย่างเป็นส่วนตัว: k-expert@kasikornbank.com Website รวมบทความและเครื่องมือคำนวณทางการเงิน: www.askkbank.com/k-expert Twitter @KBank_Expert: //twitter.com/KBank_Expert Credit: ภาพประกอบจาก Chicagoagentmagazine.com
Create Date : 27 มีนาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 27 มีนาคม 2556 12:01:57 น. |
Counter : 1225 Pageviews. |
|
|
|