สวัสดีครับ
วันนี้ (25 มีนาคม 2556)คงเป็นวันที่ใครหลายๆ คนรอคอยเพราะเป็นวันที่ โบนัส ออกให้ชื่นใจเชื่อว่าเพื่อนผู้อ่านหลายๆคนคงจะมีแผนไว้ในใจกันอยู่แล้วว่าจะนำเงินก้อนนี้ไปทำอะไรดี ส่วนใครยังไม่มีไอเดียวันนี้ผมมีไอเดียการใช้เงินโบนัสมานำเสนอ 4 ข้อครับ
ซื้ออิสรภาพ
หากมีหนี้เป็นบ่วงเงินโบนัสจะช่วยให้เราเป็นอิสระได้ครับ ด้วยการนำเงินไปโปะหนี้ที่มีโดยโปะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงๆก่อน เช่น หนี้นอกระบบ หนี้บัตรกดเงินสด และหนี้บัตรเครดิต
สำหรับเพื่อนผู้อ่านที่มีหนี้บ้านหากเงินโบนัสยังเหลือหรือไม่มีหนี้อื่นๆ ขอแนะนำให้ใช้โบนัสโปะหนี้บ้านครับเพราะหนี้บ้านคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ยิ่งเราโปะให้เหลือเงินต้นน้อยๆก็ยิ่งเสียดอกเบี้ยน้อย เราจะได้ประโยชน์ในเชิงดอกเบี้ยจ่ายครับ
ส่วนคนที่มีหนี้รถขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งใจร้อนนำเงินโบนัสไปโปะหนี้รถนะครับเพราะสินเชื่อรถคิดดอกเบี้ยแบบคงที่โดยคิดรวมไปกับเงินต้นแล้วหารจำนวนงวดให้เป็นงวดเท่าๆกัน ดังนั้นการโปะรถจึงไม่ค่อยได้ประโยชน์ในเชิงดอกเบี้ยครับอาจจะมีบ้างก็ในกรณีที่ได้รับส่วนลดดอกเบี้ยของงวดที่เหลือครับดังนั้นก่อนตัดสินใจ แนะนำให้คำนวณดีๆ ก่อนครับว่าคุ้มค่าไหมหรือถ้ามีแนวทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยรถ ก็แนะนำให้นำเงินไปลงทุนดีกว่าครับ
ซื้อความมั่นคง
เป็นทางเลือกที่เหมาะกับเพื่อนผู้อ่านที่เพิ่งเริ่มออมและผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอนครับหากได้โบนัสมา แนะนำให้นำไปออมเป็นเงินสำรองฉุกเฉินเพื่อความมั่นคงครับโดยออมให้ได้ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน เพื่อที่จะได้มีเงินสำรองไว้ใช้หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเช่น เกิดอุบัติเหตุต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจนไม่สามารถทำงานได้หลายสัปดาห์หรือมีเหตุต้องใช้เงินด่วน จะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินครับ
ซื้อความมั่งคั่ง
เป็นทางเลือกการใช้เงินโบนัสที่ขอแนะนำให้กับเพื่อนผู้อ่านที่มีทั้งอิสรภาพและความมั่นคงทางการเงินแล้วครับเงินโบนัสที่ได้มา หากไม่ได้นำไปใช้อะไรก็อย่าเก็บไว้นิ่งๆ เลยครับมูลค่ามันจะแพ้เงินเฟ้อเอาเสียได้ควรนำมาลงทุนเพื่อให้เงินทำงานและออกดอกผลดีกว่าครับ
ทั้งนี้การลงุทนก็มีหลายรูปแบบให้เลือกลงทุนตามความถนัดและลงทุนในระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ เช่น หุ้นทองคำ กองทุนรวม ตราสารหนี้ บัญชีฝากประจำ ฯลฯ โดยก่อนลงทุนควรทำแบบประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงก่อนครับ(สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลงทุน) ทั้งนี้แบ่งเงินโบนัสไปซื้อLTF หรือRMF ไว้เพื่อลดหย่อนภาษีด้วยก็ดีนะครับ
ซื้อความสุข
ให้รางวัลตัวเองหลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งปีไม่ใช่เรื่องผิดไม่มีอะไรเสียหาย เราจะช้อปปิ้ง ไปทานอาหารอร่อยๆ ไปเที่ยวหรือทำทรีทเม้นท์บำรุงผิวพรรณก็ทำได้ เพียงแต่ คงจะดีที่สุดหากเรามีทั้งอิสรภาพความมั่นคง และความมั่งคั่งแล้ว จะได้ช้อป กิน เที่ยว บำรุงได้อย่างสบายใจและเป็นการซื้อความสุขได้อย่างเต็มที่จริงๆ
ส่วนใครที่ไม่ได้มีไลฟ์สไตล์ช้อป กิน เที่ยวอะไรแบบนั้นก็สามารถซื้อความสุขได้ด้วยการดูแลคนรอบข้าง คนในครอบครัวและสามารถแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่นได้ด้วยการทำบุญหรือบริจาคครับซึ่งการสิ่งเหล่านี้ให้ความสุขได้ถึง 2 ต่อครับ นั่นคือถ้าเราดูแลพ่อแม่ด้วยการซื้อประกันให้ เราก็เป็นสุขใจแถมยังสามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยครับหรือหากเราบริจาค ก็สามารถนำใบเสร็จและใบรับรองไปลดหย่อนภาษีได้เช่นกันครับ(ควรศึกษาเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีให้ดีด้วยนะครับ)
และนี่ก็คือ 4แนวทางการใช้เงินโบนัสที่ K-Expertนำมาเสนอกันในวันนี้ครับ ทั้งนี้อยากทิ้งท้ายไว้ว่าเงินโบนัสจะมากจะน้อย เราก็สามารถใช้อย่างคุ้มค่าได้หากเราแบ่งสรรปันส่วนให้ดีหรือจัดลำดับความสำคัญของรายจ่ายให้ดีครับ
สำหรับเพื่อนผู้อ่านที่มีข้อสงสัยเรื่องการเงินสามารถปรึกษา K-Expert ได้ฟรีตามช่องทางต่อไปนี้ครับ
Website รวมบทความและเครื่องมือคำนวณการเงินDIY: www.askkbank.com/k-expert
Email บริการที่ปรึกษาเชิงลึกอย่างเป็นส่วนตัว: k-expert@kasikornbank.com
Twitter @KBank_Expert: //twitter.com/KBank_Expert
Credit: รูปภาพประกอบจาก Practiceprogress.com