สวัสดีครับ

เมื่อปลายปีที่ผ่านมากรมสรรพากรได้ออกเกณฑ์การยื่นภาษีสำหรับสามี-ภริยาออกมาแล้วนะครับโดยให้เลือกยื่นได้ถึง 5 วิธีด้วยกัน ดังนี้ครับ

แยกยื่น : เหมาะกับคู่สมรสที่มีเงินได้ในฐานภาษีเดียวกันการแยกยื่นจะทำให้คู่สมรสได้รับการยดเว้นภาษีที่เงินได้ 150,000 บาทแรกทั้งคู่จึงทำให้มีโอกาสเสียภาษีน้อยกว่ารวมยื่น

(1)สามี-ภริยาต่างผ่ายต่างแยกยื่นเงินได้ทุกประเภท

- สามีแยกยื่นเงินเดือนและเงินได้อื่นๆทั้งหมด [40(1)-(8)] ด้วยตัวเอง

- ภริยาแยกยื่นเงินเดือนและเงินได้อื่นๆทั้งหมด [40(1)-(8)] ด้วยตัวเอง

รวมยื่นเงินได้ทุกประเภท : เหมาะกับคู่สมรสที่ฝ่ายได้ฝ่ายหนึ่งมีรายได้ไม่สูงนักแต่มีรายการที่ใช้หักลดหย่อนภาษีได้มาก หากแยกยื่นอาจทำให้คู่สมรสที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนที่มีอยู่ได้ดังนั้นจึงควรรวมยื่นเพื่อที่จะได้ใช้สิทธิลดหย่อนได้เต็มที่ซึ่งจะส่งผลให้เงินได้สุกทธิรวมของทั้งคู่ลดลงทำให้เสียภาษีน้อยลงได้ครับ

(2)รวมยื่นเงินได้ทุกประเภทที่สามี

- สามียื่นแบบโดยรวมเงินเดือนและเงินได้อื่นๆทั้งหมด [40(1)-(8)] ของทั้งตนเองและภริยา

- ภริยาไม่ต้องยื่น

(3)รวมยื่นเงินได้ทุกประเภทที่ภริยา

- สามีไม่ต้องยื่น

-ภริยายื่นแบบโดยรวมเงินเดือนและเงินได้อื่นๆ ทั้งหมด [40(1)-(8)] ของทั้งตนเองและสามี

แยกยื่นเฉพาะเงินเดือน [40(1)] : เหมาะกับคู่สมรสที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเงินเดือนสูงและมีรายได้อื่นๆ อยู่บ้างแต่ไม่สูงนัก ในกรณีนี้ฝ่ายที่มีเงินเดือนสูงควรแยกยื่นเฉพาะเงินเดือน เพื่อไม่ให้ฐานภาษีขยับตัวขึ้นสูง โดยให้นำรายได้อื่นๆ [40(2)-(8)] ไปรวมยื่นกับอีกฝ่ายแต่ก็ควรระวังให้ดีนะครับ เพราะการที่เราเอาเงินได้อื่นๆ ไปรวมยื่นกับอีกฝ่ายอาจทำให้ฐานภาษีของอีกฝ่ายขยับตัวขึ้นสูงได้ครับ ดังนั้นควรคำนวณให้ดีก่อนยื่นครับ

(4) สามีเป็นฝ่ายแยกยื่นเฉพาะเงินเดือน

- สามียื่นเฉพาะเงินเดือนของตนเอง

-ภริยายื่นรายได้ทุกประเภทของตนเอง [40(1)-(8)] และรายได้อื่นๆ[40(2)-(8)] ของสามี

(5)ภริยาเป็นฝ่ายแยกยื่นเฉพาะเงินเดือน

-สามียื่นรายได้ทุกประเภทของตนเอง [40(1)-(8)] และรายได้อื่นๆ[40(2)-(8)] ของภริยา

-ภริยายื่นเฉพาะเงินเดือนของตนเอง

เรียกได้ว่าเกณฑ์ใหม่นี้มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้นทำให้สามี-ภริยาประหยัดภาษีได้มากขึ้น จะได้มีเงินไปเลี้ยงดูครอบครัวได้มากขึ้นอย่างไรก็ตามขอแนะนำให้คุณสามา-ภริยาลองคำนวณดูก่อนนะครับว่ายื่นวิธีไหนคุ้มค่ากว่ากัน

ทั้งนี้หากใครมีคำถามเรื่องการวางแผนภาษี สามารถส่งคำถามมาปรึกษา K-Expert ได้ที่อีเมล k-expert@kasikornbank.com หรือไปศึกษาข้อมูลเรื่องการวางแผนการเงินได้ที่เว็บไซต์ www.askkbank.com/k-expert ส่วนใครที่ชื่นชอบการรับข้อมูลทาง Twitter ก็สามารถ follow@KBank_Expert ได้ทุกวันครับ

Credit: ภาพประกอบจาก 1.bp.blogspot.com