อย่างแค่เรื่องจะเปิดหรือปิดประตูแค่นี้พระเอก/นางเอกยืนเถียงกันตั้งแต่ข้างบนปราสาท เดินลงมาจนอยู่หน้าประตูอยู่แล้วมันยังตกลงกันไม่ได้อีกว่ามันจะเปิดหรือปิด แล้วก็ปาไปทั้งบทเลยกับอิฉากนี้ พระเอก ก็พระเอ๊ก พระเอก เป็นคนดียึดมั่นในอุดมคติตัวเอง(ก่อนที่นางเอกจะมาปรากฏตัวพระเอกคิดเอาไว้ว่าจะบวชเป็นนักบวช) พอมาเจอนางเอก ซึ่งทั้งสองคนแต่งงานกันโดยผ่านตัวแทนและไม่เคยได้เห็นหน้าทั้งสองฝ่ายต่างไม่รู้ว่าอีกคนมีหน้าตายังไงทุกคนคิดว่าพระเอกตายไปแล้วเพราะป่วย นางเอกได้รับมรดกจากสามีเป็นปราสาทเก่าๆโทรมๆหลังหนึ่งเลยเดินทางมาเพื่อจะมาอยู่ที่นี่ พระเอกที่หลายๆคนคิดว่าตายไปแล้วแต่ยังไม่ตายรอดมาได้จากอาการป่วยเลยเก็บตัวเงียบทำตัวเป็นผีเฝ้าปราสาทคือใครเข้ามาไม่ได้พระเอกสวมบทผีไล่กระเจิง พอนางเอกมาเลยคิดว่าพอไล่หน่อยก็คงไปไรเง้ แต่นางเอกไม่ไป สุดท้ายพระเอกเลยคิดว่าในเมื่อไล่ไง ขู่ไงก็ไม่กลัวเลยตัดสินใจมาขอเป็นพ่อบ้านนางเอกดีกว่า(เออเอากับมันเส่ะ)
นางเอกก็นางเอ๊ก นางเอก ช่างแสนดีมองโลกในแง่ดีไปหมดคิดว่าสวรรค์ต้องส่งคนมาช่วยเพราะช่วงนี้นางกำลังต้องการแรงงานมาช่วยซ่อมปราสาทและถ้านางคิดว่าเปิดประตูปราสาทไว้คนทั้งหลายที่นางคิดว่านางต้องการจะเดินเข้ามาเอง(โลกสวยจริงๆว่ะ) แต่หลังจากนั้นก็มีคนเดินเข้ามาเคาะประตูจริงๆนะ 555
แถมยิ่งอยู่ใกล้พ่อบ้านที่ไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วคือสามีที่ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้วยิ่งทำให้นางเอกรู้ดีว่าตัวนางมีความสนใจต่อพ่อบ้าน และก็รู้แหละว่าเขาก็พอใจในตัวนางเช่นกัน แต่ พระเอกก็คือพระเอกที่คิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์และกำลังจะบวชแค่จูบยังแค่มุมปากแม้นางเอกจะพยายามให้ท่าในบางทีมันยังใจแข็ง(แข็งมาก)และก็คิดเยอะมาก บรรยายและโทษตัวเองอยู่นั่น เฮ้ยย ย ย ย ย ย ย เมริงจะอะไรนักหนา(วะ)คะ ทั้งพล็อต ทั้ง ตัวละครอะไรมันจะน่าเบื่อได้ขนาดนี้ ขนาดเปิดอ่านแบบผ่านๆข้ามๆไปมั่งยังรู้สึกว่าค่อดนานกว่าจะจบ แค่บ่นอ่ะไม่อยากรีวิวถึง 55555
เอ้า เรื่องนี้ไม่สนุกเนาะ .... ถ้าบรรยายมาก ๆ ก็น่าเบื่ออย่างที่อินว่า แหละ นักเขียนมีความรู้เกิ๊น :)