II-X XIVก็บภาพบรรยาเปิดร้านอาหารใหม่ ศรีไท 2
ภาพบรรยากาศการเปิดร้านอาหารศรีไทสาขา 2 วันที่ 23 กค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เราเคยทำงานมาก่อนที่จะหยุดลาพักผ่อนยาวในครั้งนี้ เรื่องของพิธีการก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก ช่วงเช้าถึงบ่ายมีพิธีทางศาสนา เสร็จแล้วร่วมรับประทานอาหาร คุณสามีช่วยขับรถไปส่งไปถึงร้านก็ช่วงเที่ยงเลยได้เวลาอาหารกลางวัน ถือเป็นโอกาสดีเพราะได้เวลาท้องร้องพอดีเลยค่ะ
เสร็จพิธีการทางร้านเราเดินทางไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประจำอยู่ที่วัด หรือศาลเจ้าที่ทางชาวบ้านนับถือกันซึ่งมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า โอคุนิทามะ จินจา อ.ฟูจู จ.โตเกียว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารที่ตั้งอยู่ใช้เวลาเดินทางด้วยเท้าไม่ถึง 10 นาที ในภาพ พนักงานเก่าและใหม่รวมทั้งแขกที่เคารพนับถือพร้อมทั้งเพื่อนๆคนไทยที่อาศัยอยู่แถวนี้
ช่วงเย็นจะเป็นงานเลี้ยงอาหารไทยพร้อมทั้งการแสดงโชว์รำไทย พร้อมทั้งมีคาราโอเกะไว้รับรองสำหรับผู้ที่ชอบร้องเพลง ในงานจะมีเฉพาะลูกค้าที่ได้รับบัตรเชิญเท่านั้นซึ่งลูกค้าที่มาก็จะเป็นลูกค้าที่สนิทกับทางร้าน และลูกค้าที่มาในงานก็จะมีการมอบซองใส่เงินแล้วแต่ตามสมควร หรือจะเป็นช่อดอกไม้ หรือซุ้มดอกไม้ มาแสดงความยินดี กับเจ้าของร้าน ในงานวันนั้นจะเน้นการเป็นไทยโดยทุกคนจะแต่งกายด้วยชุดไทย คงจะเห็นว่าเราอึ้มขึ้นขนาดไหน จะบอกว่าคุณแม่ท้องอ่อนๆอย่างเราไม่มางานนี้ก็เห็นจะไม่ได้ เพราะทำงานมาก็สามปีกว่า ช่วงเตรียมงานเปิดร้านใหม่ไม่ค่อยได้มีเวลามาช่วยสักเท่าไหร่ ก็ขอมาในวันเปิดร้านวันนี้ละค่ะ ช่วยงานเล็กๆน้อยๆและถือโอกาสมาแสดงความยินดีกับเจ๊นัทเจ้าของร้าน ซึ่งต่อไปเราก็คงจะท้องโตไม่สามารถมาช่วยดูและร้านได้
ปล. ก่อนอื่นต้องขออภัยเพื่อนๆที่คิดถึงทุกคนเลยนะค่ะ หายหน้าหายตาไปนาน เพราะเกิดอาการแพ้ท้อง ไม่ว่าจะอาการอ๊วก ทานอาหารไม่ค่อยได้ หน้ามืด อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน วันๆไม่อยากทำอะไร เพราะเรี่ยวแรงมันเหมือนโดนดูดไปหมด มันอยากที่จะนอนอย่างเดียว ทำให้เกิดอาการไม่อยากเข้าบล๊อค หรือไม่ออนเอ็ม พอเอนตัวเป็นนอนละค่ะ ช่วงนี้อายุครรภ์เข้า มาได้ 12 สัปดาห์แล้วละค่ะ สองอาทิตย์ก่อนไปหาคุณหมอก็ได้อุลต้าซาวน์คราวนี้ลูกน้อยในท้องตัวโตขึ้นมากหัวใจเต้นแรงและเห็นเริ่มเห็นแขนทั้งสองข้างรวมทั้งกระดูกสันหลัง ซึ้งถัดมาจะเป็นเท้า ซึ่งจุดนี้ยังมองไม่ค่อยเห็น วันเสาร์ที่ 19 สค.นี้ คุณหมอนัดตรวจครรภ์อีกครั้ง รวมทั้งเราจะสามารถถ่ายวีดีโอ ดูตัวลูกน้อยจากการอุลต้าซาวน์ได้อีกด้วย คราวนี้ทำเอาเราทั้งสองคนตื่นเต้นและลุ้นให้ถึงวันนั้นเร็วๆ เรื่องของการฝากครรภ์ที่ญี่ปุ่นหลังจากที่ฝากครภ์กับทางสถานพยาบาลแล้ว จะต้องไปรับหนังสือคู่มือสุขภาพอนามัยแม่และบุตรที่อำเภอที่เราอาศัยโดยแจ้งให้ทางอำเภอทราบว่าเรากำลังตั้งครรภ์ และฝากท้องที่ไหน คู่มือที่ได้รับจะต้องนำไปให้คุณหมอที่เราฝากครรภ์บันทึกทุกครั้ง ที่มีการตรวจรักษา สุดท้ายเมื่อคลอดแล้ว เราสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลการคลอด จากหน่วยงานประกันชีวิตจากทางอำเภอซึ่งสามารถเบิกได้พอๆกับค่าใช้จ่ายที่เราสำรองจ่ายไปก่อน เรียกได้ว่าค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรที่นี่เป็นหลักแสนเชียวค่ะ บางคนก็จะได้ส่วนต่างเพิ่ม บางคนก็ติดลบต้องจ่ายเพิ่มเอง เพราะค่าใช้จ่ายที่นี้แพงจริงๆ แต่ก็ยังดีที่ว่าทางประเทศเขามีการช่วยออกค่าใช้จ่ายในตรงนี้ให้มากทีเดียวละค่ะ
ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่แวะมาทักทายและแสดงความห่วงใยให้กันเสมอๆค่ะ ว่างแล้วจะแวะไปเม้นท์ตอบทุกคน ช้าหน่อยต้องขอโทษด้วยนะค่ะ
Create Date : 08 สิงหาคม 2549 |
|
103 comments |
Last Update : 10 สิงหาคม 2549 11:30:25 น. |
Counter : 839 Pageviews. |
|
|
|