เมื่อปลายปีที่แล้วมีคนดังหลายคู่ที่ตัดสินใจเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ แบบไม่กลัวน้องน้ำ รวมทั้งคู่ของนักแสดงสาวที่อายุน้อยอย่าง บัว-สโรชา ตันจรารักษ์ น้องสาวคนสวยและสุดหวงของพระเอก บีม-กวี ตันจรารักษ์ ที่ยอมทิ้งชีวิตสาวโสดด้วยอายุเพียง 25 ปี หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ม.ธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ เอกจิตวิทยา เพื่อเข้าสู่ประตูวิวาห์กับแฟนหนุ่ม ตั้ม-พิพัทธ์ วิริยะเมตตากุล ทายาทโรงพยาบาลวิภาวดี ที่คบหาดูใจกันมาเกือบ 3 ปี เรียกว่าทั้งพิธีหมั้นและพิธีฉลองมงคลสมรสในวันนั้นยิ่งใหญ่ สมเกียรติ และสุดแสนจะโรแมนติกสมดั่งความตั้งใจของคู่บ่าวสาวเลยทีเดียว
หลายคนมองว่า บัว ตัดสินใจแต่งงานเร็วเกินไป ไม่เสียดายชื่อเสียงเหรอ เรื่องที่หลายคนสงสัยว่า บัวยังอายุน้อยเกินไปที่จะแต่งงาน บัวยอมรับค่ะว่าตอนนั้นเคยคิดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่คบกับพี่ตั้มมา พี่ตั้มดูแลบัวดีมาก และเสมอต้นเสมอปลาย เข้าตามตรอกออกตามประตู จนคุณพ่อคุณแม่ไว้ใจ เรียกว่าดูใจกันมามากพอสมควร แล้วพี่ตั้มก็คือคนที่ใช่ เพราะเป็นได้ทั้งคนรัก พี่ชายและพ่อ บัวเลยคิดว่าไม่อยากรอให้เสียเวลา
ส่วนเรื่องชื่อเสียงในวงการบันเทิง บัวว่ามันคือโอกาสดี ๆ ที่บัวเคยได้รับมา ถามว่าวันนี้ยังคิดถึงมั้ย ก็ตอบตามตรงว่ายังคิดถึง เห็นพี่บีมไปถ่ายละคร ถ่ายหนัง ก็อยากไปทำถ้ามีโอกาสนะคะ แต่วันนี้หน้าที่ของบัวเปลี่ยนไป บัวมีสามี มีครอบครัวที่ต้องดูแล สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นก็คงจะเป็นแค่ความทรงจำดี ๆ ของบัวตลอดไป
คุณพ่อ คุณแม่ สอนเรื่องการใช้ชีวิตคู่ยังไงบ้าง คุณแม่ก็สอนว่าให้บัวมีความอดทนเยอะ ๆ ต้องโตขึ้นด้วย อย่าเป็นเด็กขี้น้อยใจ ขี้งอน จะมาเอาแต่ใจเหมือนตอนเป็นลูกคนเล็กที่บ้านไม่ได้ ให้เรา 2 คนพยายามเข้าใจกันให้มาก ๆ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ต้องดูแลสามีดี ๆ เพราะสถานะเราเปลี่ยนเป็นภรรยาแล้ว หนักนิดเบาหน่อยต้องให้อภัยกัน
ส่วนงานอะไรของสามีที่เราไม่สามารถช่วยเขาได้ ก็ขอให้เราเป็นกำลังใจที่ดีให้เขา เพราะมันจะทำให้เขามีพลังที่จะต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นต่อไปได้ ซึ่งบัวว่ามันถูกต้องและใช่ที่สุดเลย ทุกวันนี้บัวก็ตื่นแต่เช้ามาทำอาหารให้พี่ตั้มทุกวัน อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง ซึ่งบัวก็พยายามไปเรียนทำเมนูโปรดของเขากับคุณแม่ เพราะบัวก็อยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุด
รสชาติชีวิตคู่เป็นยังไงบ้าง ครบรสหรือเปล่า สำหรับบัวถือว่าครบนะคะเพราะชีวิตคู่คือการเรียนรู้ เรียนกันวันละนิด บางวันเราก็มีคุยกันไม่เข้าใจ งอน ๆ บ้าง บางวันก็มีความสุขแบบสุด ๆบางวันอยู่กันนิ่ง ๆ แต่โชคดีที่เรารักสัตว์เหมือนกัน เราก็เลยมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันคือเล่นกับแมว อาบน้ำแมว มันทำให้บัวรู้สึกตัวเองโตขึ้น บัวมองว่าชีวิตคู่เป็นโลกของผู้ใหญ่ การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป มีอีกคนให้ดูแล เมื่อก่อนบัวเป็นผู้รับอย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้ต้องเป็นผู้ให้บ้าง มันก็เป็นรสชาติชีวิตอีกแบบหนึ่งค่ะ
นอกจากเป็นแม่บ้าน บัว มีธุรกิจอื่นอีกหรือเปล่า ก็มีลงทุนธุรกิจกับพี่ตั้ม พี่บีมนะคะ จริง ๆ เหมือนเป็นธุรกิจภายในครอบครัว ที่เราคุยกันปรึกษากันว่าจะทำอะไรดี พอทุกคนมีความคิดเห็นตรงกันก็ทำเลย ตอนนี้มี บริษัททัวร์ทริปบัตเตอร์ (www.trip-buster.com) ที่เน้นพาลูกทัวร์ไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีซะส่วนใหญ่ แต่ก็จะมีไปประเทศอื่น ๆ ด้วยในโซนเอเซีย เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะเปิด บริษัท ซีเอ็มที เน็ตเวิร์ค โซลูชั่น จำกัด เป็นบริษัทที่รับติดตั้งไวไฟตามอาคารสำนักงาน, โรงแรม, โรงพยาบาลต่าง ๆ ค่ะ ใครสนใจก็ติดต่อมาได้นะคะ
ใช้ชีวิตคู่มาเกือบปีแล้ว บัว ยังไม่คิดจะมีทายาทตัวน้อยกับเขาบ้างเหรอ คิดบ้างเหมือนกันค่ะ แต่บัวว่าเรา 2 คน ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะสำหรับเรื่องลูกน่ะค่ะ ตอนนี้เลยคุยกันว่าเราขอใช้ชีวิตกัน 2 คนก่อน เพราะยังอยากไปเที่ยวไกล ๆ อยากมีชีวิตอิสระที่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอื่น แต่คิดไว้ว่าอีก 2 ปี ก็จะปล่อยแล้ว เพราะพ่อกับแม่บอกว่าอยากอุ้มหลานแล้ว พี่ ๆ เพื่อน ๆ ก็ยุซะเหลือเกิน พี่ตั้มเขาอยากมีลูกสาวฝาแฝดค่ะ เพราะไปเห็นลูกเพื่อนแล้วอยากมีบ้าง แต่บัวไม่ได้คาดหวังนะคะว่าจะต้องเป็นแฝดเท่านั้น แต่บัวคิดไว้ว่าจะมีลูกซัก 3 คน ชาย 1 คน หญิง 2 คน พูดแล้วตื่นเต้นเหมือนกันนะเนี่ย
จุดเริ่มต้นชีวิตของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน บางคนเริ่มเมื่อเรียนจบ บางคนเริ่มเมื่อแต่งงาน เฉกเช่น บัว-สโรชาวิริยะเมตตากุล แต่บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเริ่มตรงไหนดี เราจึงอยากจะบอกว่า ไม่ว่าเราจะเริ่มจากตรงไหน แต่ถ้าเริ่มจากความตั้งใจดี และพยายามเดินต่อไปให้ถึงสิ่งที่หวัง แค่นั้นปลายทางชีวิตของทุกคน ก็จะมีแต่ความสุข......อย่างน้อยเราก็ได้สร้างความฝันให้เป็นจริง แม้จะไม่เลิศเลอเพอร์เฟกต์ไปซะทุกอย่าง ก็ยังดีกว่าไม่ได้เริ่มอะไรเลย ม่ายงั้น..เสียชาติเกิดแย่!!..
ปรางค์ ปิ๊กมี่